- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 15 June 2017 16:39
- Hits: 1640
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> ซื้อเก็งกำไรเมื่ออ่อนตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องตามคาดโดยได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นของหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่ Outperform ตลาด ขณะที่ตลาดยังคงจับตาดูผลการประชุม FOMC เมื่อคืนนี้ แรงซื้อส่วนใหญ่มาจากฝั่งสถาบันในประเทศที่มียอดซื้อสุทธิในตลาดหุ้นถึง 2.8 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องอีก 1.2 พันลบ. อย่างไรก็ตามกระแสเงินทุนยังไหลเข้าตลาดพันธบัตรเกือบ 6 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET index จะแกว่งตัว Sideways ในวันนี้หลังผลการประชุม FED ถือว่าตามคาดโดยขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% และเริ่มส่งสัญญาณชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับมาตรการลดขนาดงบดุล $4.5 ล้านล้านดอลลาร์ โดยจะเริ่มทยอยจำกัดเพดานในการลดวงเงินถือครองพันธบัตรและ MBS ในปีนี้หากเศรษฐกิจปรับตัวตามที่คาด อย่างไรก็ตามระยะสั้นกลุ่มพลังงานจะกดตลาดหลังราคาน้ำมันดิบร่วงแรงเมื่อคืนจากสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ออกมาสูงกว่าคาด แต่เราเชื่อว่ากระแสเงินทุนมีโอกาสกลับมาไหลเข้าตลาดเกิดใหม่หลังตัวเลขเศรษฐหกิจสหรัฐฯระยะหลังรวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่ยังค่อนข้างอ่อนแอ
กลยุทธ์ : ซื้อเก็งกำไรเมื่ออ่อนตัว โดยเฉพาะหุ้นที่คาดว่าจะถูกเข้าคำนวณใน SET50 เช่น MTLS และ EA
หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. : FSMART, HANA, MGT, RS, TACC
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนกลับมาไหลเข้าภูมิภาค US$190ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าฟิลิปปินส์ US$230ล้าน และเกาหลีใต้ US$51ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไต้หวัน US$52ล้าน และไทย US$36ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางกลับมาไหลเข้าภูมิภาคพร้อมเข้าสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้งหลัง Fed มีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาดและการปรับลดขนาดงบดุลค่อยเป็นค่อยไป
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> ITEL <<
กลุ่มผู้ถือหุ้น MTLS เข้าถือหุ้นใน ITEL 6.74% และเริ่มใช้โครงข่าย Fiber Optic ของ ITEL ในการเชื่อมต่อสาขาราว 300 สาขา จากปัจจุบันที่มีกว่า 1,700 สาขา การขยายตัวเร็วของ MTLS จึงเป็นบวกกับ ITEL โดยตรง
คาดกำไรสุทธิ 2Q17 โตต่อเนื่องอีก 30%Q-Q อยู่ที่ 24 ลบ. จากการให้เช่าโครงข่ายที่เพิ่มขึ้น และรับรู้งานติดตั้งโครงข่ายอัตรากำไรสูง ส่วนกำไรทั้งปีคาดโตแรงถึง 121%Y-Y อยู่ที่ 149 ลบ.แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 7 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) ผลประชุม FOMC เป็นไปตามคาด โดยนอกจากจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% อยู่ที่ 1.25% ยังส่งสัญญาณลดขนาดงบดุลภายในปีนี้ราว 1 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯต่อเดือน (รวม MBS 4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯต่อเดือน) ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ ซึ่งเฟดมีการปรับคาดการณ์ GDP ปีนี้ขึ้นเป็น 2.2% จาก 2.1% แต่ปรับลดเงินเฟ้อพื้นฐานลงเหลือ 1.6% จาก 1.9% เรามองบวกเพราะมีความชัดเจนมากขึ้น และคาดว่าเฟดจะลดงบดุลอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ Fund Flow มีแนวโน้มกลับมาไหลเข้า
(-) ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงต่อ หลัง EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบปรับลดลงน้อยกว่าคาด และสต๊อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นสวนทางคาด นอกจากนี้ IEA ยังระบุว่าการผลิตน้ำมันของโอเปกเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 0.29 ล้านบาร์เรล/วัน และการที่โอเปกลดการผลิตจะกระตุ้นให้การผลิตนอกกลุ่มโอเปกเพิ่มขึ้น 0.7 และ 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน ในปี 2017-2018 ซึ่งมากกว่าการเติบโตของอุปสงค์ ส่งผลให้ราคาน้ำมันจะอยู่ในระดับต่ำต่อไป เป็นลบต่อกลุ่มพลังงานโดยเฉพาะ PTTEP PTT PTTGC
(0) อาจมีแรงเก็งกำไรหุ้นที่เข้า SET50 ที่จะประกาศปลายสัปดาห์นี้ โดยเราคาดหุ้นที่เข้าคำนวณคือ BJC, BPP, EA, JAS, MTLS, RATCH, TISCO ส่วนหุ้นที่เอาออกคือ BA, BCP, CENTEL, CK, PTG, THAI, WHA
(+) SYNEX ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้ +20%Y-Y สูงกว่าคาดการณ์ของเราที่ +12%Y-Y จากยอดขายมือถือที่โตเร็วและการเพิ่มสินค้าใหม่ ขณะที่ การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อให้บริการลิสซิ่งน่าจะจบปลายเดือนนี้ ส่วนกำไร 2Q17 คาดโตแรง 60%Y-Y อยู่ที่ 130 ลบ. แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 15.50 บาท
(-) KSL ประกาศกำไรสุทธิ 2Q17 (ก.พ.-เม.ย.) ที่ 640 ลบ. แม้จะโต 41%Q-Q และ 258%Y-Y แต่ต่ำกว่าคาดที่ 700-800 ลบ. และด้วยความที่ราคาน้ำตาลจะไม่สดใสยาวถึงปีหน้า เพราะผลผลิตออกสู่ตลาดมาก กำไรที่เห็นจึงเป็นจุดสูงสุดของปี แนะนำหลีกเลี่ยง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
15 มิ.ย. - อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI)ประชุม
16 มิ.ย. - ญี่ปุ่น: BOJ meeting
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
-สหรัฐ: Housing starts & Building permits (พ.ค.)
21 มิ.ย. -สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (พ.ค.)
22 มิ.ย. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มิ.ย.)
23 มิ.ย. - ไทย:ยอดขายรถ (พ.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (มิ.ย.)
26 มิ.ย. - ไทย:ดุลการค้า (พ.ค.)
29 มิ.ย. - ไทย:ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและการใช้กำลังการผลิต (พ.ค.)
- สหรัฐ: 1Q17 GDP (ตัวเลขครั้งสุดท้าย)
- ยูโรโซน: Economic Confidence (มิ.ย.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวก หลังเฟดมีมติขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ทั้งนี้ การขยับบวกถูกจำกัดจากราคาน้ำมัน และ ตัวเลขยอดค้าปลีกที่อ่อนแอ
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกโดยมีแรงซื้อเข้ามาจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นวันที่ 2 อย่างไรก็ตาม ตลาดยังเฝ้าจับตาผลการประชุมเฟดที่ประกาศภายหลังตลาดปิดทำการ
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมหลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ของปีซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม มีแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ดิ่งลง 4%
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัว Sideway ล่าสุดเคลื่อนไหวในแถว 33.85-33.92 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. ปิดลบ 1.73 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 44.73 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจาก EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบลดน้อยกว่าคาด ขณะที่สต๊อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นสวนทางคาด อีกทั้ง IEA ระบุว่าการผลิตน้ำมันของโอเปกเดือนพ.ค.เพิ่ม 0.29 ล้านบาร์เรล/วัน และ การผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกจะเพิ่ม 0.7 และ 1.5 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ และ ปีหน้า
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดบวก 7.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,275.90 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีแรงซื้อเข้ามาหลังช่วงก่อนปรับลดลง 5 วันติดต่อกัน และ ตัวเลขยอดค้าปลีกที่อ่อนแอ
Contact person : Jitra Amorntham
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research