- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 14 June 2017 16:49
- Hits: 1405
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
Sideway Up? คาดยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ ภายใต้ Sentiment ที่ดีจากปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะในสัปดาห์หน้าจะมีการประกาศใช้มาตรา 44 เพื่อแก้ปัญหา (1) การใช้พื้นที่ ส.ป.ก. ในกิจการที่ไม่ใช่การเกษตร หลังศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาเมื่อ 1/6/60 ให้เพิกถอนระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เรื่องการให้ความยินยอมในการนำทรัพยากรธรรมชาติ ในเขตปฏิรูปที่ดินไปใช้ประโยชน์ตามกฎหมายอื่น และส่งผลให้บริษัท ปตท.สผ.สยาม จำกัด (บริษัทย่อย ของ PTTEP) หยุดผลิตโครงการเอส 1 และ (2) ความล่าช้าโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย - จีน และคาดจะครอบคลุมถึงรถไฟความเร็วสูงในเส้นทางอื่น
อย่างไรก็ตาม คาดยังได้รับปัจจัยกดดันจาก Fund Flow ซึ่งมีความผันผวนอยู่ แต่แนะติดตาม Window Dressing – 2Q/60 (30/6/60) รวมถึงหุ้นที่คาดผลประกอบการ 2Q/60 ดีต่อเนื่อง เช่น TOP, SPALI และ WORK เป็นต้น
พร้อมติดตามกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง คาดเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นและกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง จากการเปิดประมูลโครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. มูลค่า 7,305 ล้านบาท ซึ่งกำหนดเปิดซองราคาในวันที่ 27/7/60 คาดมีแรงเก็งกำไรในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจนถึงวันประมูล โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ซื้อซองราคา เช่น ITD, CK, STEC, NWR, UNIQ และ PLE เป็นต้น
ขณะที่ยังอยู่ระหว่างรอผลการประชุมเฟด (เช้า พฤ. ตามเวลาไทย) ซึ่งคาดในครั้งนี้มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% แนะจับตา (1) Fund Flow โดยเฉพาะแรงขายสุทธิของต่างชาติ? (2) ค่าเงินสหรัฐฯ กลับมาแข็งค่าขึ้น ซึ่งคาดส่งผลกระทบต่อราคาสินค้า Commodity และ (3) การส่งสัญญาณปรับลดงบดุลของเฟด จากปัจจุบัน 4.5 ล้านล้านUSD ซึ่งคาดทยอยลดลงภายในปีนี้
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มอาหาร ได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เช่น BR และ CBG เป็นต้น
(2) กลุ่มธนาคาร ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยปี ’60 เช่น KBANK และ SCB เป็นต้น
(3) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง เช่น IVL และ PTTGC เป็นต้น
SET SET50 SET100
1,572.36 +8.55 991.24 +6.37 2,238.83 +13.74
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+/-) ตลาดต่างประเทศ DJIA +92.80, NASDAQ +44.91, S&P +10.96, FTSE -11.43, CAC +21.15 และ DAX +74.54 โดย DJIA และ S&P500 ปิดตลาดทำ New High ภายใต้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังราคาลดลงในช่วง 2 วันทำการก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามการซื้อขายยังเป็นไปอย่างระมัดระวัง โดยอยู่ระหว่างรอผลประชุมเฟด (เช้า พฤ. ตามเวลาไทย)
โดยคาดมีโอกาสสูงถึง 99.6% ที่เฟดพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ พร้อมจับตาเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ รวมทั้งการปรับลดงบดุลจากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
ขณะที่ Moody’s คาดว่า เฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปี’60 – 61 จนถึงระดับ 3% ภายในปลายปี’62 พร้อมกับคาดการณ์ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดงบดุลภายในปีนี้ จากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.ค. +US$0.38 อยู่ที่US$46.46 ต่อบาร์เรล ภายใต้คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ล่าสุด จะลดลง 2 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นอยู่ในกรอบจำกัด หลังกลุ่มโอเปกเปิดเผย การผลิตน้ำมันของโอเปก – พ.ค. เพิ่มขึ้น 336,100 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.1 ล้านบาร์เรล/วัน แม้บรรลุข้อตกลงในการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปจนถึง 1Q/61 นำโดยลิเบีย และไนจีเรีย ซึ่งได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงลดกำลังการผลิตของโอเปก
ขณะที่มีเพียง 4 ประเทศที่ผลิตน้ำมันต่ำกว่าข้อตกลงเมื่อพ.ย.’59 ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย คูเวต กาตาร์ และแองโกลา โดยโอเปกจะมีประชุมครั้งต่อไป 3/11/60 โดยสมาชิกโอเปกจะทบทวนกำลังการผลิตน้ำมัน
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
16.31 1.89 3.09
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 42,668.45
สถาบัน -2,039.71
บัญชีหลักทรัพย์ -352.05
ต่างประเทศ -1,528.93
ในประเทศ -158.73
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ส.ค. -US$0.3 อยู่ที่ US$ 1,268.6 ต่อออนซ์ โดยอยู่ระหว่างรอผลประชุมเฟด ซึ่งคาดการณ์เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 13 – 14/6/60 นี้
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -1,529 ล้านบาท สะสม YTD +10,180 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,173 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ปี’59 ซื้อสุทธิสะสม 77,927 ล้านบาท)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 14 - 16 มิ.ย. 2560
14/6/60 สหรัฐฯ เปิดเผย
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค.
ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.
สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย.
สต็อกน้ำมัน
เฟด ประกาศมติการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน
15/6/60 สหรัฐฯ เปิดเผย
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ดัชนีการผลิตของรัฐนิวยอร์คเดือนมิ.ย.
ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ค.
ผลสำรวจดัชนีกิจกรรมการผลิตเขตมิด-แอตแลนติกเดือนมิ.ย.
ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนพ.ค.
ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมิ.ย.
ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนเม.ย.
16/6/60 สหรัฐฯ เปิดเผย
ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ค.
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนมิ.ย.
(4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น และความต้องการในประเทศที่คาดดีขึ้น เช่น SCC
(5) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง คาดได้รับประโยชน์จากงานภาคเอกชนที่เข้ามาต่อเนื่อง เช่น SQ เป็นต้น
(6) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ IRPC, TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น
(7) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วง 1Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น WORK
(8) กลุ่มขนส่ง ยังได้รับผลดีจากการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วง 2Q/60 เช่น AOT
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.01 อยู่ที่ 2.21%
(ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.04 อยู่ที่ 10.42
หุ้นแนะนำ : CK
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร .02-684-8788