- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 14 June 2017 16:46
- Hits: 1503
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (14/06/60)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “SET ปิดบวกเด่นจากปัจจัยในประเทศเฉพาะตัว”
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นโดดเด่นช่วงบ่ายจากแรงหนุนกลุ่มพลังงานนำโดย PTT(+1.1%DoD) และ PTTEP(+2.6%DoD) หลังมีประเด็นข่าวว่านายกรัฐมนตรีเล็งใช้ ม.44 แก้ปัญหาแหล่ง S1 ของ PTTEP ที่หยุดผลิตจากการใช้พื้นที่ สปก. รวมถึงประเด็นรถไฟทางคู่ไทย-จีน สวนทางภาพตลาดเช้าและตลาดหุ้นภูมิภาคที่แกว่งในกรอบหลังรอผลประชุมเฟด โดยแม้ตลาดคาดเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ก็ตาม อีกทั้งยังมีแรงหนุนกลุ่ม ICT ที่ปรับขึ้นเด่นทั้ง DTAC(+3.5%DoD), TRUE(+3.3%DoD), SAMART(+3.8%DoD) ส่งผล SET Index ปิดที่ 1,572.36 จุด (+0.6%DoD) ด้วย Vol. 42,668 ลบ.
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA +92.80 จุด (+0.44%) โดยตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากถูกขายแรงในช่วงก่อนหน้านี้
(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI +0.8% อยู่ที่ 46.46 ดอลลาร์/บาร์เรล นับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 จากการคาดว่าตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบที่จะรายงานออกมาคืนนี้จะปรับตัวลดลง 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ตลาดได้รับแรงกดดันจากการผลิตน้ำมันของโอเปกเดือนพ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 336,100 บาร์เรล/วัน แม้จะขยายเวลาการลดกำลังการผลิตก็ตาม
(+) ราคาทองคำที่ตลาด COMEX -0.02% อยู่ที่ 1,268.60 ดอลลาร์/ออนซ์
(+) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. อยู่ที่ 40.3 จุดจาก 36.1 จุดในเดือนเม.ย. โดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นแรกในรอบ 3 เดือน
(+) ที่ประชุม ครม.เตรียมใช้ม.44 เดินหน้าโครงการรถไฟไทยจีน หลังติดปัญหาหลายประการในช่วงก่อนหน้านี้
(+) กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอปัญหาที่ดินส.ป.ก. ในการผลิตปิโตรเลียมเข้าที่ประชุม ป.ย.ป. โดยอาจจะมีการเสนอแก้ไขกฎหมายหรือใช้ม.44 เพื่อให้ผู้ได้รับสัมปทานสามารถเดินหน้าต่อได้
(-) ราคาน้ำตาลทรายดิบ No.11 -1.7% มาอยู่ที่ 13.98 Cents/Pound
(-) การประเมินโดยใช้เครื่องมือ FedWatch นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 95.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมสัปดาห์นี้
(-) ผลกระทบจาก EARTH นอกจาก KTB ที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่แล้ว อาจลามไปถึง KBANK และ BAY ด้วย (ติดตามได้ในบทวิเคราะห์รายวัน)
(+/-) หุ้นยุโรป CAC40 +0.40% DAX +0.59% แต่ FTSE100 -0.15%
(+/-) ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆ US ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 2.4%YoY ต่ำกว่าที่คาดไว้เล็กน้อยที่ 2.5%YoY UK เงินเฟ้อเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 2.9%YoY มากกว่าที่คาดไว้ที่ 2.6%YoY แต่ดัชนีราคาผู้ผลิตออกมาต่ำกว่าคาดโดยเพิ่มขึ้นเพียง 11.6%YoY จากที่คาดไว้ที่ 16%YoY
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯวันที่ 13-14 มิ.ย. (ทราบผลเช้า 15 มิ.ย.)
การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 16 มิ.ย.
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญประจำสัปดาห์ USA ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน พ.ค. ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค. (14 มิ.ย.) EU ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. (14 มิ.ย.) ดุลการค้าเดือนเม.ย. (15 มิ.ย.)
กลยุทธ์การลงทุน “ม.44 หนุน SET”
เราประเมินตลาดแกว่งตัวกรอบแคบ เรามีมุมมองบวกมากขึ้นหลังปัจจัยหนุนพิเศษจากที่ นายกฯ เตรียมใช้มาตรา 44 แก้ไขปัญหารถไฟฟ้าไทย-จีน ทำให้เรามองว่ากลุ่มก่อสร้างจะมีเม็ดเงินเข้าเก็งกำไรในสัปดาห์นี้ ช่วงพยุง Sentiment ตลาด แต่ด้วยกลุ่มธนาคารมีประเด็นหนี้ Earth มากดดันทำให้เรายังคงมองว่าตลาดจะยังไม่ร้อนแรง ยังคงมุมมองว่าระยะกลางตลาดจะมีแนวโน้มเคลื่อนไหวลักษณะ Sideway จึงแนะนำเพียงเก็งกำไรสั้นในวัน
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
SAPPE เก็งกำไร
คาดกำไรช่วง 2Q60 ฟื้นตัวจากทั้งยอดขายในและต่างประเทศ
ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 60 เติบโต 10%
อยู่ระหว่างการศึกษาขยายตลาดไปสู่ทวีปแอฟริกาและอเมริกาใต้
TCAP เก็งกำไร
คาดหวังกำไรใน 2Q60 ยังเติบโตได้ต่อเนื่องจากยอดขายรถในประเทศเพิ่มขึ้นได้ดี ประกอบกับไม่ต้องตั้งสำรองในระดับสูง และแนวโน้ม NPL ยังอยู่ในขาลงอย่างชัดเจน
Valuation ของ TCAP ยังถือว่าถูกที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มธนาคารที่เน้นพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ เทรดที่ P/BV เพียง 0.89xแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสมที่ 53 บาท อิง Justified P/BV ที่ 1.02x
ทีมวิเคราะห์