- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 14 June 2017 16:42
- Hits: 1320
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: ทดสอบแนวต้าน
SET lndex: 1574.48 ตลาดช่วงเช้าแกว่งขึ้นในกรอบแคบ โดยทดสอบแนวต้านบริเวณ 1575 จุด ระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นบริเวณแนวต้าน 1575-1580 จุด อย่างไรก็ตามเรามองว่า SET ยังแกว่ง Sideway ในกรอบ 1570-1580 จุด
แนวต้าน : 1575 และ 1580
แนวรับ : 1570 และ 1565
IVL = 38.00 / 38.75 BANPU = 17.90 / 18.20 DTAC = 51.00 / 52.50 PTTEP = 87.75 / 89.50 GGC = 14.70 / 15.20
Bangkok Land (BLAND TB; THB 1.92) - ซื้อ
แนวต้าน : 1.97 และ 2.00
แนวรับ : 1.91 และ 1.90
ราคาหุ้นฟื้นตัว หากราคายืนเหนือ 1.92 บาทได้ มีแนวโน้มปรับขึ้นทดสอบแนวต้านเดิม
MACD ยังอยู่แนวโน้มขึ้น
แนะนำซื้อ BLAND โดยมีแนวรับที่ 1.91 และ 1.90 และมีแนวต้านที่ 1.97 และ 2.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.89 ลงไป
Syntec Construction (SYNTEC TB; THB 5.05) - ซื้อ
แนวต้าน : 5.25 และ 5.35
แนวรับ : 4.98 และ 4.94
ราคาหุ้นปรับขึ้นต่อเนื่องด้วยวอลุ่มซื้อขายที่ยังหนาแน่น ราคามีแนวโน้มปรับขึ้น ทดสอบแนวต้านถัดไปหากผ่าน 5.10 บาท
MACD ยังอยู่แนวโน้มขึ้น
แนะนำซื้อ SYNTEC โดยมีแนวรับที่ 4.98 และ 4.94 และมีแนวต้านที่ 5.25 และ 5.35 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.92 ลงไป
Analysts :
Pornvilai Santusatharom +662 657-9230 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ค่อยๆมีแรงหนุน
แรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นสหรัฐ เริ่มที่จะคลายตัวลงหลังราคาหุ้นในกลุ่ม 5 บริษัทอย่าง APPLE AMAZON FACEBOOK MICROSOFT และ GOOGLE เริ่มนิ่งๆ นักลงทุนในสหรัฐเองมองการปรับตัวลงของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี เป็นผลจากประเมินแล้วว่าแพง คือ เทรดกันที่ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าที่ 18.4 เท่า เทียบตลาดหรือ S&P 500 ที่ 17.8 เท่า ส่วนผลที่จะกระทบกับตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกค์ ถือว่าต่ำมาก จากรูปจะพบว่าหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนของไทยจากต้นปี ขึ้นได้แค่ 8% เทียบหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ประมาณ 30%(ดูรูปด้านซ้าย) ดังนั้นแรงขายหุ้นในสหรัฐ ไม่น่าส่งผลต่อกลุ่มชิ้นส่วนของไทย
เรามองว่าการที่มีแรงขายหุ้นในกลุ่มนี้ออก น่าจะส่งผลดีกับตลาดหุ้นสหรัฐและเอเชีย เนื่องจากจะเป็นการคลายความตึงของตลาดได้ และเมื่อมีแรงขายหุ้นกลุ่มนี้ออก นักลงทุนในสหรัฐมองกันว่าหุ้นที่จะกลับมารองรับเม็ดเงินจากการขายหุ้นเทคโนโลยี จะเป็นหุ้นในกลุ่มพลังงานและธนาคารพาณิชย์ที่คาดกันว่ายังไม่แพง ส่วนผลกระทบทางอ้อมกับกลุ่มชิ้นส่วนของไทย ก็มีแค่ไม่มีแรงหนุนให้ขึ้นต่อแรงๆ ขณะที่ขาลงก็จะต่ำเช่นกัน ดังนั้นเราอาจได้เห็นหุ้นกลุ่มนี้จะเงียบๆลง
ใกล้การประกาศงบ Q2/17 หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ปรากฏว่าปริมาณการซื้อ-ขาย ยังไม่มาก ซึ่งน่าจะมาจากนักลงทุนอาจจะรอให้งบออกก่อนถึงจะเข้าไปเล่น และหากมาดูสัญญาณที่บ่งชี้แนวโน้มการทำกำไรของกลุ่ม จากค่า Earning momentum ratio พบว่ายังติดลบ (ดูจากรูปด้านขวา) สะท้อนแนวโน้มการทำกำไรของกลุ่มยังไม่ดีขึ้นหรือทรงๆ ตัวเมื่อเทียบ Q1/17 แต่จะขยายตัวเมื่อเทียบ Q2/16 ซึ่งยังต้องรอให้ผลดำเนินงานออกมาก่อน สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในกลุ่มนี้เรามองว่าให้เข้าไปเล่นในช่วงปลายๆ นี้หรือต้นเดือน ก.ค.เพราะจะเริ่มเห็นการPreview งบ ว่าออกมาอย่างไร
การประชุม ครม. เมื่อวานนี้ปรากฏว่าที่ประชุมได้มีการอนุมัติการช่วยเหลือผู้ปลูกยางพาราซึ่งจะส่งผลดี ส่วนอาทิตย์หน้าการประชุม ครม. อาจให้หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจ ม. 44 แก้ไขโครงการรถไฟความเร็วสูง หรือปัญหาที่ดิน สปก.ของ PTTEP ส่วนวันพรุ่งนี้เราคงทราบผลการประชุมFOMC ช่วงที่ตลาดรับทราบผลการประชุม FOMC ไปแล้ว ตลาดน่าจะมีปริมาณการซื้อขายที่คึกคักขึ้นหลังเริ่มมีแรงหนุนภายในอย่างการใช้ ม.44 สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเริ่มคึกคักขึ้นมา คือ รับเหมา (CK STEC UNIQ) ค้าปลีก (BJC HMPRO CPALL) พลังงาน-ปิโตรเคมี(PTTEP IVL BANPU) และสื่อสารที่ยังไม่ขึ้นอย่าง TRUE
วันนี้แนวโน้มดัชนี SET จะปรับตัวขึ้นต่อหลังตลาดได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลจะใช้ ม.44 แก้ปัญหา ราคายาง รถไฟฟ้าความเร็วสูงและที่ สปก.ของ PTTEP นอกจากนั้นได้เกิดการรีบาวน์ของราคาน้ำมันและตลาดหุ้นสหรัฐ หลังมีแรงซื้อหุ้นเทคโนโลยีคืน ส่วนตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวประจำเดือน พ.ค.ได้เพิ่มขึ้น 4.6% (YoY) เหล่านี้คือปัจจัยหนุนดัชนี โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1578-1582 จุด แนวรับที่ 1568-1564 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร PTTEP IVL WHA และ BJC
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,574.48 จุด เพิ่มขึ้น 2.12 จุด (+0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 17,528.67 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งบวกในกรอบแคบด้วยมูลค่าซื้อขายที่เบาบาง ตลาดมีแรงหนุนจากกลุ่มปิโตรเคมีและอสังหาฯ จับตาผลการประชุมเฟด (คืนนี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย ยังคงน่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เพื่อรอดูผลการประชุม ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ ว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดไว้ที่ 0.25% เป็น 1.25% หรือไม่ หากเป็นไปตามคาดก็คาดว่าจะไม่มีผลกับตลาด แต่หากเฟดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ ก็จะส่งผลบวกกับตลาดเกิดใหม่ (Emerging market) ที่น่าจะมีเงิน fund flow ไหลกลับในระยะสั้นได้ โดยบ่ายนี้เราคาดว่าจะยังเห็นการเก็งกำไรรายหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยหนุนเป็นหลัก อย่าง IVL ที่สัปดาห์ที่ผ่านมา spread PTA ปรับตัวดีขึ้น 9% wow, PET Spread +4% wow และ MEG spread +22% wow ในขณะที่ BANPU ก็น่าสนใจเก็งกำไรจากราคาถ่านหินที่ปรับเพิ่มขึ้น 6.5% wow เป็น 80.85 เหรียญ/ตัน จากสัปดาห์ก่อนที่ 75.9 เหรียญ/ตัน แต่ราคาหุ้น BANPU ยังปรับขึ้นช้ากว่าโดยปรับแค่ +3.4% wow ส่วน KSL มีการแจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 หลังปิดตลาดช่วงเช้าออกมามีกำไรสุทธิ 639 ล้านบาท (EpS 0.14 บาท) เติบโตโดดเด่น +257% yoy, +41% qoq และได้รับคัดเลือกเข้าดัชนี FTSE Mid Cap. ที่จะมีผลบังคับใช้ ณ ราคาปิดวันที่ 16 มิ.ย. ก็น่าจะมีแรงซื้อหนุนเข้ามาในช่วงบ่าย เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร IVL, BANPU และ KSL โดยมีราคาเป้าหมาย 54 บาท, 25 บาทและ 7.30 บาทตามลำดับ
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
Bangkok Land (BLAND TB; THB 1.92) - ซื้อ
Syntec Construction (SYNTEC TB; THB 5.05) - ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : RS-W3, NETBAY* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]