- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 13 June 2017 17:30
- Hits: 1707
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
คาดยัง Sideway? โดยที่ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ คาดการเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางเดียวกับวานนี้ ซึ่งคาดยังคงมีความผันผวน แต่ยังอยู่ในกรอบแคบ คาดภาพรวมยังอยู่ระหว่างรอผลการประชุมเฟด (เช้า พฤ. ตามเวลาไทย) ซึ่งคาดในครั้งนี้มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% แนะจับตา (1) Fund Flow โดยเฉพาะแรงขายสุทธิของต่างชาติ? (2) ค่าเงินสหรัฐฯ กลับมาแข็งค่าขึ้น ซึ่งคาดส่งผลกระทบต่อราคาสินค้า Commodity และ (3) การส่งสัญญาณปรับลดงบดุลของเฟด จากปัจจุบัน 4.5 ล้านล้านUSD ซึ่งคาดทยอยลดลงภายในปีนี้
อย่างไรก็ตามคาดได้รับปัจจัยบวกเข้ามาบ้าง จากมุมมองที่ดีต่อผลการเลือกตั้งของอังกฤษ หลังพรรคอนุรักษ์นิยม ไม่ได้ครองเสียงข้างมากในสภา ทำให้คาดการถอนตัวจาก EU ของอังกฤษ อาจมีแนวทางที่ผ่อนปรนกว่าเดิม (Soft Brexit)
ทางด้านราคาน้ำมัน คาดยังได้รับปัจจัยกดดันจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะของสหรัฐฯ และคาดยังมีผลต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน
ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยชี้นำ คาดกลับมาได้รับปัจจัยกดดันจาก Fund Flow ที่คาดยังมีความผันผวนอยู่ และแนะติดตาม Window Dressing – 2Q/60 (30/6/60)
รวมถึงติดตามกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง คาดเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นและกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง จากการเปิดประมูลโครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. มูลค่า 7,305 ล้านบาท ซึ่งกำหนดเปิดซองราคาในวันที่ 27/7/60 คาดมีแรงเก็งกำไรในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจนถึงวันประมูล โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ซื้อซองราคา เช่น ITD, CK, STEC, NWR, UNIQ และ PLE เป็นต้น
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มอาหาร ได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เช่น BR และ CBG เป็นต้น
(2) กลุ่มธนาคาร ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยปี ’60 เช่น KBANK และ SCB เป็นต้น
(3) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง เช่น IVL และ PTTGC เป็นต้น
(4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น และความต้องการในประเทศที่คาดดีขึ้น เช่น SCC
SET SET50 SET100
1,563.81 -2.84 984.87 -2.65 2,225.09 -5.76
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดต่างประเทศ DJIA -36.30, NASDAQ -32.45, S&P -2.38, FTSE -15.46, CAC -59.12 และ DAX -125.28
จากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังบริษัทหลักทรัพย์มิซูโฮ ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นบริษัทแอปเปิล อิงค์ ลงสู่ “Neutral” จาก “Buy”
ขณะที่การซื้อขายยังเป็นไปอย่างระมัดระวัง โดยอยู่ระหว่างรอการประชุมเฟด (13 – 14/6/60) ซึ่งคาดเฟดมีโอกาสสูงที่จะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และจากเครื่องมือ FedWatch พบว่า มีความเป็นไปได้สูงถึง 95.8% ที่เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%
ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยลบเพิ่ม หลัง Moody’s ระบุว่าผลการเลือกตั้งในอังกฤษ ซึ่งพรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาสามัญชน จะเป็นปัจจัยลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.ค. +US$0.25 อยู่ที่US$46.08 ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งจากการเข้าเก็งกำไรหลังราคาสัญญาน้ำมันปรับลงก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันของไนจีเรีย และลิเบียมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น แม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พยายามลดกำลังการผลิต
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
16.22 1.88 3.11
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 30,849.43
สถาบัน +875.43
บัญชีหลักทรัพย์ -109.02
ต่างประเทศ -351.61
ในประเทศ -414.80
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ส.ค. -US$2.5 อยู่ที่ US$ 1,268.9 ต่อออนซ์ ภายใต้คาดการณ์เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 13 – 14/6/60 นี้ ซึ่งส่งผลให้เงินสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น และลดความน่าสนใจของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -352 ล้านบาท สะสม YTD +11,709 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,173 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ปี’59 ซื้อสุทธิสะสม 77,927 ล้านบาท)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 13 - 16 มิ.ย. 2560
13/6/60 สหรัฐฯ เปิดเผย
?? ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค.
?? เฟด เริ่มการประชุมกำหนดนโยบายการเงินวันแรก
14/6/60 สหรัฐฯ เปิดเผย
?? ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค.
?? ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.
?? สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย.
?? สต็อกน้ำมัน
?? เฟด ประกาศมติการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน
15/6/60 สหรัฐฯ เปิดเผย
?? ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
?? ดัชนีการผลิตของรัฐนิวยอร์คเดือนมิ.ย.
?? ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ค.
?? ผลสำรวจดัชนีกิจกรรมการผลิตเขตมิด-แอตแลนติกเดือนมิ.ย.
?? ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนพ.ค.
?? ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมิ.ย.
?? ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนเม.ย.
16/6/60 สหรัฐฯ เปิดเผย
?? ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ค.
?? ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนมิ.ย.
??(5) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง คาดได้รับประโยชน์จากงานภาคเอกชนที่เข้ามาต่อเนื่อง เช่น SQ เป็นต้น
??(6) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ IRPC, TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น
??(7) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วง 1Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น WORK
??(8) กลุ่มขนส่ง ยังได้รับผลดีจากการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วง 2Q/60 เช่น AOT
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.01 อยู่ที่ 2.21%
(ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.76 อยู่ที่ 11.46
หุ้นแนะนำ : PSL