- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 13 June 2017 17:28
- Hits: 1422
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (13/06/60)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'Sideway รอการประชุมเฟด'
ดัชนี ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัว Sideway down ตามตลาดหุ้นเอเชีย ในขณะที่วอลุ่มการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากตลาดยังคงรอผลการประชุมเฟด โดยกลุ่มที่ปรับตัวลงนำตลาด คือ กลุ่มสื่อสาร -0.5%DoD และกลุ่มค้าปลีก -0.4%DoD ขณะที่กลุ่มนิคมและอสังหาปรับตัวขึ้นได้ 0.5%DoD เนื่องจากวันศุกร์นี้จะมีการประชุม EEC เพื่อเร่งผลักดันเศรษฐกิจ และช่วงนี้ยอดขายบ้านและคอนโดเริ่มทำได้ดี โดยเฉพาะในกลุ่ม Hi-end ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,563.81 จุด ลดลง 2.84 จุด หรือ -0.18%DoD ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 30,849 ลบ.
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI +0.6% อยู่ที่ 46.08 ดอลลาร์/บาร์เรล จากแรงซื้อที่เข้ามาหลังราคาปรับตัวลดลงแรงในสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตามตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลเรื่องน้ำมันล้นตลาดหลังล่าสุดไนจีเรียกลับมาส่งออกน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดได้แล้วเป็นครั้งแรกในรอบ 16 เดือน
(+) ราคาทองคำที่ตลาด COMEX -0.2% อยู่ที่ 1,268.90 ดอลลาร์/ออนซ์
(+) BDI เพิ่มขึ้น 21 จุด (+2.47%) มาอยู่ที่ 870 จุด
(+) สมคิด แจ้งให้กระทรวงคมนาคมเดินหน้ารถไฟความเร็วสูงกทม.-ระยองใก้เกิดภายในปีนี้พร้อมเตรียมเสนอใช้ม.44 ปลดล๊อคปัญหารถไฟไทย-จีน ส่วนรถไฟทางคู่เฟส 2 คาดทยอยเสนอเข้าครม.ได้ภายในเดือนมิ.ย.-ส.ค.นี้
(+) กพท.เผยเดือนมิ.ย. เตรียมยื่นเรื่องให้ ICAO เข้ามาตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยทางการบินเพื่อนำไปส่การปลดธงแดงโดยคาดว่าจะมีการเข้ามาตรวจสอบในช่วงเดือน ก.ย. นี้ ขณะที่การให้ใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (Re-AOC) ล่าสุดได้มอบให้อีก 2 สายการบิน Thai airasia X และ Nokscoot ส่วน Nokair และ Thai smile คาดจะได้รับภายในเดือนนี้
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA -36.30 จุด (-0.17%) โดยนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในวันที่ 13-14 มิ.ย.นี้ ขณะที่กลุ่มที่กดดันตลาดได้แก่หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีนำโดยหุ้นแอปเปิล
(-) หุ้นยุโรป CAC40 -1.12% FTSE100 -0.21% และ DAX -0.98%
(-) ราคาน้ำตาลทรายดิบ No.11 -1.5% มาอยู่ที่ 14.23 Cents/Pound
(-) การประเมินโดยใช้เครื่องมือ FedWatch นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 95.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมสัปดาห์นี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
??การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯวันที่ 13-14 มิ.ย. (ทราบผลเช้า 15 มิ.ย.)
??การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 16 มิ.ย.
??ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญประจำสัปดาห์ USA ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ค. (13 มิ.ย.) ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน พ.ค. ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค. (14 มิ.ย.) EU ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. (14 มิ.ย.) ดุลการค้าเดือนเม.ย. (15 มิ.ย.) GB ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพ.ค.(13 มิ.ย.) CN ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. (14 มิ.ย.)
กลยุทธ์การลงทุน “ลดน้ำหนักพอร์ต”
??เราประเมินตลาดปรับตัวลดลง เราคาดว่าตลาดจะยังถูกกดดันจากโมเมนตัมลบจากตลาดต่างประเทศ และราคา commodities ที่อ่อนแอ เราคงแนะนำลดน้ำหนักพอร์ต โดยมอง Upside ตลาดไทย ยังไม่น่าสนใจ แม้ว่าจะมีการเก็งกำไรการ Rebalance Passive Fund ต่างประเทศ แต่เรามองว่าการลดน้ำหนัก เพื่อสะสมกลับเป็นกลยุทธ์ที่เราเลือก โดยยังคงมองตลาดระยะกลางจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
SIRI เก็งกำไร
??ปิดการขายคอนโดมิเนียม Hi-End โครงการบ้านปลายหาด บนหาดวงศ์อมาตย์โครงการแรกในเมืองพัทยา ทำยอดขายได้ถึง 2,250 ล้านบาท
??คาดกำไรใน 2Q60 น่าจะได้โดดเด่นทั้ง YoY และ QoQ
??แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาตามเทคนิคที่ 2.30 บาท
TCAP เก็งกำไร
??คาดหวังกำไรใน 2Q60 ยังเติบโตได้ต่อเนื่องจากยอดขายรถในประเทศเพิ่มขึ้นได้ดี ประกอบกับไม่ต้องตั้งสำรองในระดับสูง และแนวโน้ม NPL ยังอยู่ในขาลงอย่างชัดเจน
??Valuation ของ TCAP ยังถือว่าถูกที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มธนาคารที่เน้นพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ เทรดที่ P/BV เพียง 0.89x
??แนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสมที่ 53 บาท อิง Justified P/BV ที่ 1.02x
ทีมวิเคราะห์