- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 07 June 2017 17:24
- Hits: 3238
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> LH, THAI, TPCH
Stock S R Comment
LH 9.85 10.10 กำไรพิเศษจากการขาย Grand Center Point ราชดำริ เข้ากอง คาดหนุนกำไร 2Q60
THAI 19.10 20.20 ICAO เตรียมปลดธงแดง หนุนแผนขยายเส้นทางบิน และเพิ่มความถี่
TPCH 18.30 18.70 ทิศทางรายได้เติบโตสูง จากการ COD โรงไฟฟ้าใหม่ๆ พร้อม upside จากการเข้าประมูลโครงการ
Utilities still standout
FTSE : ตลท.และ FTSE Russell ประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่จะใช้ในการคำนวณดัชนี FTSE SET Index Series ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ ปรากฏว่าในส่วนของดัชนี Large cap ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด จึงทำให้ความน่าสนใจตกมาอยู่ที่ดัชนี Mid Cap ซึ่งในรอบนี้มีหลักทรัพย์ใหม่เข้าคำนวณ 6 หลักทรัพย์ด้วยกัน ได้แก่ BPP, EA, KSL, TPIPP, VNT, WHAUP
มุมมองของเรา : มอง BPP (แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 28.80 บาท) และ EA มีความน่าสนใจในแง่ของการเก็งกำไรสูงสุด เนื่องจากเป็น 2 บริษัทที่มีมูลค่า Market cap สูงสุดใน 6 ตัวนี้ นอกจากนั้นทั้ง 2 บริษัทยังเป็นหลักทรัพย์ที่เราคาดว่ามีโอกาสจะถูกนำเข้าคำนวณดัชนี SET50 ในรอบถัดไปด้วย ในส่วนของตัวอื่นๆนั้น มอง VNT เป็นตัวที่น่าสนใจจากระดับ Spread ของ PVC ที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ สำหรับ TPIPP และ WHAUP นั้นอยู่ในกลุ่ม Utility ที่เราแนะนำเป็น Top pick ในช่วงนี้ ภายใต้สภาวะตลาดหุ้น Sideways ซึ่งนักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้เช่นกัน
Downstream : Spread ของราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปลายน้ำจำพวก PVC และ LLDPE ต่างปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน โดยมีสาเหตุหลักจากการปรับตัวลดลงของราคา Ethylene เป็นหลัก มองเป็นอานิสงส์เชิงบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง อาทิ VNT, AJ, PTL
WHAUP : เริ่มต้นดูแลด้วยคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 37.50 บาท มองความน่าสนใจได้แก่ 1) ความเป็น Monopoly ที่ให้บริการผลิตและจำหน่ายน้ำในเขตนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่มเหมราชฯ จำนวน 8 แห่ง 2) นโยบาย EEC ที่จะทำให้มีการขยายตัวของพื้นที่เศรษฐกิจในแถบดังกล่าว และส่งผลให้มีความต้องการใช้สาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น 3) แนวโน้มผลประกอบการปีนี้ที่น่าจะปรับตัวดีขึ้นทุกไตรมาส
กลยุทธ์การลงทุน : คาดการณ์ SET Index จะยังคงแกว่งตัว Sideways ในกรอบแคบต่อไป ยังคงแนะนำให้น้ำหนัก "เป็นกลาง" กับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และจำกัด Portfolio turnover ให้อยู่ในระดับต่ำ ตราบใดที่ดัชนียังคงอยู่แถวบริเวณกึ่งกลางกรอบการลงทุนแนะนำของเราในเดือนนี้ที่ 1530-1600 จุด
ประเมินหุ้นที่มีโอกาสปรับตัว Outperform ในสภาะที่ความเสี่ยงเงินฝืดหรือเงินเฟ้อต่ำมีสูงขึ้นได้แก่
1) หุ้นที่มีฐานรายได้มั่นคงสม่ำเสมอ และพร้อมจ่ายปันผลในระดับสูง อาทิเช่น กลุ่มสาธารณูปโภค (BCPG, BPP, CKP, EA, EGCO, GLOW, GPSC, RATCH, TPIPP, WHAUP)
2) หุ้นที่อยู่ในกลุ่มสินค้าและบริการที่จำเป็น อาทิเช่น กลุ่มค้าปลีกจำพวกสินค้าที่ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน (CPALL, BJC) และกลุ่มการแพทย์ (BCH)
3) หุ้นที่มีระดับหนี้ต่ำ และมีเงินสดในระดับสูง (Low leverage)
ส่วนหุ้นที่มีธีมการลงทุนสนับสนุนเฉพาะตัวอื่นๆ ได้แก่
1) หุ้นที่มีแนวโน้มถูกนำเข้าดัชนี SET50 ที่ราคายังคง Laggard ได้แก่ JAS
2) หุ้นกลุ่มบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปลายน้ำที่เริ่มเห็นการปรับตัวของ Spread ที่ดีขึ้น ได้แก่ AJ, PTL, VNT, UTP
แนวรับ 1,559 แนวต้าน 1,575
บทวิเคราะห์วันนี้
WHAUP (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 37.50 บาท) Monopoly Water Supply in 8 Biggest Industrial Estates
Today's Event
TR XD 1.05 บาท
WHABT XD 0.1434 บาท
TFG-W2 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (511mn sh 1:1 @ Bt. 9.50)
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379) E-mail: [email protected]