- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 07 June 2017 17:16
- Hits: 1684
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
เต็มไปด้วยเหตุการณ์ที่ต้องลุ้น
คาดหุ้นไทยปรับตัวลงวันนี้ ความต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงครอบงำตลาดหุ้นทั่วโลกก่อนหลายเหตุการณ์สำคัญในวันพฤหัส คือ การเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษ การประชุม ECB และการให้การต่อวุฒิสภาของอดีตหัวหน้า FBI ที่จะเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาว่าทีมหาเสียงเลือกตั้งของ Trump ร่วมมือกับรัสเซียช่วยให้ Trump ได้เปรียบในการเลือกตั้ง และสุดสัปดาห์เป็นการเลือกตั้ง ส.ส.ของฝรั่งเศสรอบแรก ภายในประเทศ สำนักงานประกันสังคมปรับเพิ่มงบจ่ายผู้ประกันตนแก่โรงพยาบาลที่ให้บริการประกันสังคม ผู้ได้ประโยชน์ ได้แก่ BCH และ CHG ซึ่งเราแนะนำในสัปดาห์นี้ มีความกังวลว่าผู้ส่งออกไทยสำหรับยานยนต์ เครื่องปรับอากาศ และตู้เย็นตู้แช่อาจได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรของหลายชาติอาหรับต่อกาตาร์
หุ้นเด่นวันนี้ : CHG (ราคาปิด 2.46 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS
3.40 บาท) บมจ. โรงพยาบาลจุฬารัตน์ เป็นหุ้นเด่นในวันนี้หนุนโดยแนวโน้มที่สดใสในช่วงที่เหลือของปีและปัจจัยกระตุ้นใหม่จากการปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายโดยสำนักงานประกันสังคม ถึงแม้ว่าช่วงไตรมาส 2 จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจโรงพยาบาล เราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/60 ของ CHG จะเติบโต YoY หนึ่งในปัจจัยหนุนได้แก่ ฐานที่ต่ำในปีก่อนเนื่องจากกำไรไตรมาส 2/59 ถูกกดดันโดยค่าใช้จ่ายจากการเพิ่มส่วนต่อขยายในโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 9 และ 11 อีกปัจจัยบวกหนึ่งคือ ฤดูฝนที่เริ่มต้นเร็วกว่าปกติอาจก่อให้เกิดโรคระบาดได้ อีกทั้ง เมื่อวานนี้ สำนักงานประกันสังคมได้ปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัวแก่โรงพยาบาลคู่สัญญา โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 60 เป็นต้นไป ดังนั้น เราได้ปรับสมมติฐานการเติบโตของค่าประกันสังคมต่อคนขึ้นในปี 61 เป็น 14% จาก 8% แต่เรายังคงประมาณการปี 60 ไว้อยู่ นอกจากนี้ ในอนาคต เรามองว่าบริษัทอาจได้รับประโยชน์จากโครงการพัฒนาหลักของรัฐบาลในเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เนื่องจากเครือข่ายโรงพยาบาลและคลินิกของ CHG ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเป็นหลัก เราคาดการขยายตัวของธุรกิจและนิคมอุตสาหกรรมจะช่วยหนุนจำนวนคนไข้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไข้จากสัญญาของบริษัท ปัจจุบัน CHG มี 7 โรงพยาบาลและ 7 คลินิก และวางแผนที่จะเปิดอีก 2 โรงพยาบาลในปี 61 เราประมาณการอัตราการขยายตัวทบต้นของรายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลในช่วง 3 ปีที่ 17.7% ต่อปี เราคาดการณ์กำไรจะเติบโต 19.5% ในปี 60 และ 18.9% ในปี 61 Price Pattern ของ CHG กลับมาเกิดความแข็งแกร่งในระยะสั้นจากการกลับมาเกิด Daily Buy Signal โดยหาก Price Pattern ของ CHG สามารถปิดตลาดรายสัปดาห์ได้เหนือ 2.48 บาท ก็จะทำให้กลับมาเกิดความแข็งแกร่งในระยะกลางเพิ่มขึ้นจากการกลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ อย่างไรก็ตาม Price Pattern ของ CHG ยังคงมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) จากการเกิด Monthly Sell Signal เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ CHG จากการที่สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือเป้าหมายแรกที่ 2.44 บาทไปได้ ทำให้มีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 2.60 บาท ทั้งนี้ CHG มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 2.30 บาท (Resistance: 2.48, 2.50, 2.54; Support: 2.44, 2.42, 2.38)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
สปส.ปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายทางการแพทย์ สำนักงานประกันสังคมวานนี้ประกาศเพิ่มค่าบริการทางการแพทย์ผู้ป่วยประกันสังคม โดยจะครอบคลุมถึงค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว ค่าใช้จ่ายต่อคนสำหรับกรณีโรคที่มีภาระเสี่ยง (RW>2) และค่าผู้ป่วยในที่มีค่าใช้จ่ายสูง (สปส.) ความเห็น: เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 61 ของ BCH (ราคาปิด 13.50 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ใหม่ของ AWS 16.80 บาท) และ CHG (ราคาปิด 2.46 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 3.40 บาท) 8% และ 5% ตามลำดับ ในระหว่างที่เรายังคงประมาณการปี 60 ไว้ตามเดิม นอกจากนี้ เราคงประมาณการของ BDMS (ราคาปิด 19.10 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 22.00 บาท) เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าประกันสังคมที่ต่ำ โปรดอ่านรายงานฉบับเต็มเราวันนี้
เคาะงบ 8 หมื่นล้านอุ้มคนจน นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง แบ่งเป็นงบประมาณปกติ 3 หมื่นล้านบาท ใช้อุดหนุนคนจนสำหรับรถโดยสารและรถไฟฟรีระหว่างจังหวัด รวมถึงการอุดหนุนค่าสาธารณูปโภค (Bangkok Post)
พาณิชย์กังวลแบนกาตาร์กระทบส่งออก รมว.พาณิชย์สั่งเกาะติดสถานการณ์การค้าไทย หลังชาติอาหรับคว่ำบาตรกาตาร์ เผยกลุ่มรถยนต์ แอร์ ตู้เย็น ส่ออ่วมหนัก แต่ระยะยาวหากเศรษฐกิจกาตาร์ชะลอตัว กำลังซื้อลด จะกระทบต่อการนำเข้าสินค้าไทยได้ (ไทยโพสต์)
สหพัฒน์คาด ศก.ไทยฟื้นตัวปีนี้ประธานเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังนี้เริ่มดีขึ้นและจะดีเพิ่มมากขึ้นในปี 61 จากปัจจัยด้านราคาพืชผลเกษตรที่เริ่มปรับตัวสูง ฝนที่ตกตามฤดูกาลทำให้ไม่เกิดปัญหาภัยแล้ง รวมทั้งจากนโยบายของรัฐบาลที่เดินมาถูกทาง พร้อมกลับมาลงทุนปีนี้ (เดลินิวส์)
TRC(ราคาปิด 1.35 บาท) TRC เตรียมเซ็นสัญญาเหมืองโปแตช ไตรมาส 3/60 รับรู้รายได้ปีนี้ 6 พันล้านบาท ด้าน ครม. ไฟเขียวบริษัทลูกรัฐวิสาหกิจเข้าถือหุ้นแทนคลัง จับตา PTTGC ตัวเต็ง ส่วน "เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์" และสมาชิกรวม 5 ประเทศหนุนเต็มที่ อยากเห็นโครงการเกิดโดยเร็วที่สุด (ข่าวหุ้น)
ต่างประเทศ :
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐระยะยาวปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 7 เดือนเมื่อวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อพันธบัตรมากขึ้นก่อนเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการเมืองที่จะเกิดขึ้นในวันพฤหัสนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ้างอิงอายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 2.141% จาก 2.143% เมื่อวันจันทร์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 2.807% จาก 2.84% เมื่อวันจันทร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีลดลงสู่ระดับ 1.294% จาก 1.306% เมื่อวันจันทร์ (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันอังคาร จากความระมัดระวังที่เพิ่มสูงขึ้นก่อนเหตุการณ์สำคัญหลายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันพฤหัสนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลปรับตัวลง 0.18% อยู่ที่ระดับ 96.624 ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า 0.91% เทียบกับเงินเยนสู่ระดับ 109.45 เยน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 เดือน เงินยูโรแข็งค่า 0.16% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.127 ดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวังก่อนเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจและการเมืองในวันพฤหัสนี้อันได้แก่การเลือกตั้งทั่วไปของสหราชอาณาจักร การประชุมนโยบายของธนาคารกลางยุโรปและการเข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาของนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการ FBl เกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่าทีมหาเสียงของทรัมป์ได้สมรู้ร่วมคิดกับรัสเซียในการเปลี่ยนแปลงผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปร่วงต่อวานนี้ เนื่องจากปัญหาทางการทูตในตะวันออกกลางทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยการปรับตัวลงของตลาดถูกฉุดนำโดยหุ้นกลุ่มการแพทย์ โดยเฉพาะหุ้น Roche หลังจากที่ผลการศึกษาของบริษัทเผยการรักษาโรคมะเร็งเต้านมแสดงอัตราการรอดที่ต่ำกว่าคาด (Reuters)
เอเชีย :
ค่าจ้างที่แท้จริงของญี่ปุ่นทรงตัว YoY ในเดือน เม.ย. โดยลดลง 0.3% YoY ในเดือน มี.ค. อัตราการเติบโตของค่าจ้างที่แท้จริงอยู่ในระดับต่ำหรือติดลบในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ (Reuters)
ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้นในวันอังคารนำโดยหุ้นกลุ่มผู้บริโภคและการเงิน แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะยังคงทรงตัวในเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายการค้าและการลงทุนที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับสหรัฐฯมีทิศทางที่เป็นบวกและการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคช่วยหนุนการเติบโตของประเทศ อย่างไรก็ตามความเชื่อมั่นลดลงหลังจากรายงานว่าผู้ควบคุมการซื้อขายหลักทรัพย์จะรักษานโยบายที่มั่นคงเกี่ยวกับหุ้นที่เข้าจดทะเบียนใหม่ ทำให้กังวล;jkหุ้น lPO จะไม่ชะลอการเข้ามาจดทะเบียน (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันบวกวันอังคาร เนื่องจากแรงกดดันจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ชาติมหาอำนาจอาหรับ เช่น ซาอุฯ อียิปต์และเอมิเรตส์ได้ประกาศตัดความสัมพันธ์กับกาตาร์ข้อหาสนับสนุนกองกำลังและอิหร่าน มีการห้ามเรือเข้าออกจากท่าที่เอมิเรตส์ แต่ตลาดจะหันมาจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันสหรัฐ และตัวเลขของรัฐบาลในวันพุธ สัญญาน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 79 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 48.19 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยร่วงไปก่อนหน้านี้แล้วจึงดีดกลับบวก สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 50.12 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ทองคำพุ่งสู่จุดสูงสุดรอบ 7 เดือนวันอังคาร เพราะดอลลาร์ร่วงจุดต่ำสุดรอบ 7 เดือนและความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยจากประเด็นตะวันออกกลาง การประชุม ECB ที่กำลังจะมาถึง การเลือกตั้งอังกฤษและพยานหลักฐานคดีหัวหน้า PBl ทองคำตลาดจรบวก 1.1% ปิด 1,294.34 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทองคำสหรัฐล่วงหน้าบวก 1.2% ปิดที่ 1,297.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 0-2680-5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 0-2680-5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 0-2680-5056
MISS. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042