- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 05 June 2017 17:08
- Hits: 752
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (5/06/60)
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่แล้ว 'ราคาน้ำมันกดดันตลาด'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลดลง โดยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันหลังจากรายงานว่าการผลิตน้ำมันของลิเบียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี โดยกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลงที่ 0.4%WoW ขณะที่กลุ่มสื่อสารปรับตัวลดลง 0.5%WoW เนื่องจาก กสทช. เล็งยุติให้บริการ 2G ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นและนักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 4.9 พันลบ. ส่งผลให้ตลาดปิดวันศุกร์ที่ระดับ 1,567.60 จุด (-0.1% WoW แต่ +0.3%DoD) มูลค่าการซื้อขายที่ 36,052 ลบ.
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA +62.11 จุด (+0.29%) ได้รับแรงหนุนการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ต่ำกว่าที่คาดไว้ ขณะที่ตัวเลขอัตราการว่างงานลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4.3% ดีว่าที่คาดไว้ที่ 4.4%
(+) หุ้นยุโรป CAC40 +0.47% FTSE100 +0.05% และ DAX +1.25%
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI -1.5% อยู่ที่ 47.66 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลว่าการที่ทรัมป์ประกาศว่าสหรัฐฯจะถอนตัวจากข้อตกลงปารีสจะส่งผลให้การขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มมากขึ้น โดยสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงเพิ่มขึ้นอีก 11 แท่นสู่ระดับ 733 แท่นซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 20 ติดต่อกัน (เทียบกับที่มีเพียง 325 แท่นในช่วงเดียวกันของปีก่อน)
(-) ราคาทองคำที่ตลาด COMEX -0.8% อยู่ที่ 1,280.2 ดอลลาร์/ออนซ์
(-) ราคาน้ำตาลทรายดิบ No.11 -3.6% มาอยู่ที่ 14.00 Cents/Pound
(-) BDI ลดลง 20 จุด (-2%) มาอยู่ที่ 830 จุด
(-) ผลสำรวจโดยใช้เครื่องมือ FEDwatch ล่าสุดพบว่านักลงทุนกว่า 94% คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ (13-14 มิ.ย.)
(-) เกิดเหตุก่อการร้ายที่ประเทศอังกฤษในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
(+/-) กรอ.เผยตัวเลขการขอใบอนุญาตตั้งโรงงานและการขยายกิจการในช่วง 5M60 มีจำนวนลดลง 0.36%YoY ด้านมูลค่าเงินลงทุนลดลง 12%YoY
(+/-)ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ดุลการค้าสหรัฐฯเดือนเม.ย.อยู่ที่ขาดทุน 47.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯสูงกว่าที่คาดไว้ที่ขาดดุล 44 พันล้านเหรียญฯ ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิตของ EU เดือนเม.ย.ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 4.3%YoY
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การเลือกตั้งในประเทศอังกฤษวันที่ 8 มิ.ย.
ตัวเลขเศรษฐกิจประจำสัปดาห์ USA ผลผลิตนอกภาคเกษตรประจำไตรมาส 1, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเดือนพ.ค. ยอดสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงานเดือนเม.ย. (5 มิ.ย.)EU ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเดือนพ.ค. (5 มิ.ย.) ตัวเลขค้าปลีกเดือนเม.ย. (6 มิ.ย.) คาดการณื GDP ไตรมาส 1 ครั้งที่สาม (8 มิ.ย.) JP GDP ไตรมาส 1 (7 มิ.ย.) CN ตัวเลขดุลการค้าเดือนพ.ค. (7 มิ.ย.)
กลยุทธ์การลงทุน “เตรียมลดน้ำหนัก”
เราประเมินตลาดวันนี้มีแน้วโน้มแกว่งตัวกรอบแคบ โดยมีแนวต้านที่ 1,570 จุด แต่ด้วยโมเมนตัมบวกในตลาด TIP market ทำให้ตลาดอาจจะทะลุแนวต้านขึ้นไปได้ อย่างไรก็ดี เรายังคงมุมมองการเคลื่อนไหวของ SET ในระยะกลางที่คาดว่าจะเป็นรูปแบบ Sideway จึงแนะนำลดน้ำหนักพอร์ตหากดัชนีแกว่งตัวขึ้น และให้กลับมาสะสมหากดัชนีหลุดต่ำกว่า 1,550 จุด โดยกลุ่มที่เราแนะนำให้ลดน้ำหนัก คือกลุ่มพลังงาน และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมองว่ายังไม่มี catalyst เด่นในระยะสั้น
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
RATCH เก็งกำไร
คาด 2Q60 ได้ประโยชน์จากโรงไฟฟ้าหงสาที่ไม่มีแผนซ่อมบำรุงและเริ่มเดินเครื่องได้ดีขึ้นในหน่วยผลิตที่ 1
ได้ประโยชน์จากช่วง High Season ของการใช้ไฟฟ้าในช่วงหน้าร้อน
ปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ PBV 1.16 เท่าต่ำที่สุดในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ ซื้อขายกันที่ระดับ 1.16-2.28 เท่า
BJC เก็งกำไร
มองราคาที่ปรับลดลงมองว่ากดดันจากราคา Biglot ที่ระดับ 45.25 บาท 107 ล้านหุ้น ณ 30 พ.ค. ซึ่งมองเป็นปัจจัยระยะสั้น มองน่าสนใจสำหรับการเก็งกำไรการรีบาวด์กลับ
คาดได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจไทยที่เริ่มฟื้นตัว
ราคาเป้าหมายตาม Bloomberg Concensus ที่ 51.20 บาท
ทีมวิเคราะห์