- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 02 June 2017 16:53
- Hits: 4651
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวต้าน 1570 แนวรับ 1560 และ 1550
SET Index: 1569.30 ปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างแรงในระยะสั้นหลังจากทดสอบแนวรับที่ 1560 จุด แต่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในแนวโน้มขาลงต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1575 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1590 จุดตามโครงสร้างในระยะยาว แต่เมื่อพิจารณามูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลง โดยมีแนวต้านที่ 1570 จุด และมีแนวรับที่ 1560 จุด ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิคไปทดสอบแนวรับที่ 1550 และ 1535 จุด
แนวต้าน : 1570 และ 1572
แนวรับ : 1565 และ 1560
AOT = 44.00/45.00, GUNKUL = 4.24/4.30, SPRC = 14.00/14.40, ADVANC = 172/174, BANPU = 17.20/17.50
United Paper (UTP TB; THB 8.10) – ซื้อ
แนวต้าน : 8.50 และ 8.70 / เป้าหมาย 9.20
แนวรับ : 8.10 และ 8.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากฟื้นตัวเหนือนแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นไปเคลื่อนไหวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ UTP โดยมีแนวรับที่ 8.10 และ 8.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 8.50 และ 8.70 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 7.90 ลงไป
Lohakit Metal (LHK TB; THB 4.40) – ซื้อ
แนวต้าน : 4.60 และ 4.68 / เป้าหมาย 4.90
แนวรับ : 4.40 และ 4.36
ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากฟื้นตัวเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นกลับขึ้นไป ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 70
แนะนำซื้อ LHK โดยมีแนวรับที่ 4.40 และ 4.36 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.60 และ 4.68 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.32 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ดัชนี SET เดือน มิ.ย…ขึ้นต่อ
ประเด็นที่จะตัดสินการเคลื่อนไหวของดัชนี SET คือ การประชุม FOMC หากมีการขึ้นดอกเบี้ย ไม่น่าส่งผลต่อตลาดหุ้นไทย เพราะอยู่ในความคาดหมายของตลาดและส่วนหนึ่งจะสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ แต่หากไม่ขึ้น คาดจะมีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียต่อ ส่วนการประชุม ECB ในวันที่ 8 มิ.ย. คาดที่ประชุมจะส่งสัญญาณค่อยๆ ลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลง ขณะที่ราคาน้ำมันคาดจะยังแกว่งในกรอบ 50-55 ดอลลาร์ต่อบารเรล์
ประเด็นภายในที่สำคัญ คือ งบ Q2/17 ของหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน ที่คาดว่าน่าจะออกมาในเชิงประคับประคองตัวหลังยังมีแรงกดดันจาก NPL ส่วนค่า Earning momentum ratio ซึ่งเป็นตัวสะท้อนแนวโน้มการทำกำไรของตลาด ยังทรงๆตัวในแดนลบเทียบภูมิภาคที่ปรับขึ้นในแดนบวกแล้ว (ดูรูปด้านซ้าย)
ปัจจัยหนุนตลาด คือ การตั้งกองทุน Infrastructure fund สภาพคล่อง การค่อยๆ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการทำปิดงบ ส่วนปัจจัยในเชิงลบ คือ ยังไม่เห็นเม็ดเงินไหลเข้า และอัตราการทำกำไรของตลาดยังทรงในระดับต่ำกว่าภูมิภาค อย่างไรก็ตามประเด็นในต่างประเทศที่ยังต้องติดตามคือ เหตุการณ์ในเกาหลีและแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยในสหรัฐ หากมาดูการประเมินความถูก-ความแพงของตลาดหุ้นไทย (IBES MSCI Thailand) ผ่านค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้า พบว่าไม่ถูกไม่แพง คือเทรดกันที่ค่า P/E 14.2 เท่าจากที่เคยเทรดสูงสุดที่ 15.2 เท่า แต่มีจุดเด่นที่อัตราการขึ้นยังต่ำกว่าภูมิภาคอาเซียนมากๆ นับตั้งแต่ต้นปี (รูปด้านขวา)
ดัชนี SET เดือน พ.ค. ได้ย่อตัวลงมาในกรอบ 1530+/- จุดแล้วดีดตัวกลับมายืนเหนือ 1560 จุด เรามองว่าโอกาสที่ดัชนี SETจะย่อตัวลงยังมี หาก 1.ตลาดหุ้นสหรัฐปรับฐาน 2. เกิดปัญหาในคาบสมุทรเกาหลี อย่างไรก็ตามหากเกิดการซึมหรือปรับฐานตามปกติจากแรงกดช่วงสั้นจากต่างประเทศ กรอบการลงจะต่ำคือมองที่ 1550+/- จุดเท่านั้น เพราะมองว่าประเด็นที่เคยกดดันมาตลอดเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น อย่างตัวเลขเศรษฐกิจ และอัตราการทำกำไรของตลาด (EPS growth) ส่วนกรอบบนมองที่ปริเวณ 1600-1610 จุดหรือมากกว่านั้น โดยมองน่าจะเกิดในช่วงปลายเดือนถึงต้นเดือน ก.ค.จากแรงหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ตลาดยังไม่แพง และตลาดยัง Laggard โดยในช่วงปลาย พ.ค. ถึงต้น ก.ค. เราน่าจะได้เห็นแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่ชัดเจน
ส่วนทิศทางดัชนี SET ในวันนี้คาด ดัชนีน่าจะรีบาวน์ขึ้นต่อ จากแรงหนุนของดัชนีในภูมิภาคและการปิดของดัชนีดาวโจนส์ นอกจากนั้นมองว่าการปรับฐานระหว่างวันของดัชนี SET เกิดไปแล้ว แต่การดีดขึ้นแรงๆ ก็ยังไม่เห็น เนื่องจากไม่เห้นปัจจัยหนุนเช่นกัน วันนี้มองแนวต้านที่ 1568-1572 จุดและแนวรับที่ 1560-1556 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร PTTEP BPP QH และ CKP
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,569.30 เพิ่มขึ้น 6.19 จุด (+0.40%) มูลค่าการซื้อขาย18,637.34 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดภูมิภาคหลังสหรัฐฯรายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนและดัชนี PMI ภาคการผลิตออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ ซึ่งสะท้อนภาพเศษฐกิจโดยรวมของสหรัฐขยายตัวได้ต่อเนื่อง บ้านเรามีแรงซื้อนำในกลุ่มหุ้นBig Cap. ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ (คืนนี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งบวก หลังได้อนิสงส์จากการปรับขึ้นของตลาดต่างประเทศแต่คาดว่าการขึ้นของ SET Index ยังอยู่ในกรอบจำกัด ขณะเดียวกันระวังแรงขายทำกำไรในช่วงท้ายตลาดของสัปดาห์ มองแนวต้าน 1570-1575 จุด แนวรับ 1565-1560 จุด
Technical Pick (PM) ...
United Paper (UTP TB; THB 8.10) – ซื้อ
Lohakit Metal (LHK TB; THB 4.40) – ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 – [email protected]/ [email protected]
