- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 01 June 2017 17:08
- Hits: 2057
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวต้าน 1565 แนวรับ 1560 และ 1550
SET Index: 1565.57 ฟื้นตัวในระยะสั้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1565 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายไม่สูงมากหลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคที่แนวต้านสำคัญ 1575 จุด พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลง โดยมีแนวต้านที่ 1570-1575 จุด และมีแนวรับที่ 1560 จุด ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิคไปทดสอบแนวรับที่ 1550 และ 1535 จุด
แนวต้าน : 1565 และ 1567
แนวรับ : 1560 และ 1555
GUNKUL = 4.18 / 4.28, AOT = 42.50 / 43.50, BANPU = 17.20 / 17.60, PTTGC = 71 / 72, WHAUP = 27.50 / 28.50
Patkol (PK TB; THB 6.75) – ซื้อ
แนวต้าน : 7.20 และ 7.50 / แนวต้านสำคัญ 8.20
แนวรับ : 6.75 และ 6.60
ราคาหุ้นในระยะสั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสรางฐาน ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
60Min: MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ PK โดยมีแนวรับที่ 6.75 และ 6.60 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.20 และ 7.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.50 ลงไป
PTG Energy (PTG TB; THB 22.20) – ซื้อ
แนวต้าน : 23.00 และ 23.50 / แนวต้านสำคัญ 24.00
แนวรับ : 22.20 และ 22.00
ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 ชั่วโมง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
60Min: MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ PTG โดยมีแนวรับที่ 22.20 และ 22.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 23.00 และ 23.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 21.80 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…PTTEP ทยอยรับที่ 90+/- บาท
ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 ประเภทได้เกิดขึ้นหลังตลาดผิดหวังผลการประชุม OPEC โดยราคาน้ำมันทั้ง WTI และเบรนท์ ต่างดิ่งลง 5-6% แล้วหลังจากนั้นราคาน้ำมันก็อยูในภาวะซึม แม้ยังไม่มีใครทราบว่าราคาน้ำมันหลังการประชุม OPEC จะเป็นอย่างไรต่อ บ้างก็ว่าจะซึมลง บ้างก็ว่าทรงๆ ไม่ว่าจะไปทางไหน แต่หากมาดูพฤติกรรมของบรรดา Hedge fund จะพบว่า เต็มไปด้วยกลยุทธ์ คือ ก่อนหน้านี้ทาง Hedge fund ได้ Short น้ำมันมาโดยตลอด ติดต่อกันถึง 3 สัปดาห์ แต่พอช่วงก่อนการประชุม OPEC สิ้นสุดวันที่ 23 พ.ค. ทาง Hedge fund ได้กลับมา Long น้ำมันทั้ง 3 ประเภทถึง 89 ล้านบารเรล์ ดูแท่งเขียวในรูปด้านซ้าย
การกลับมา Long ราคาน้ำมันของบรรดา Hedge fund แม้จะยังบอกไม่ได้ว่าจะส่งผลให้ราคาน้ำมันขึ้นหรือลง แต่ที่ผ่านมา หากมีการ Long น้ำมันติดต่อกัน ราคาน้ำมันมักจะไม่ลง หรือหากลงก็ลงไม่มาก ประเด็นตรงนี้ เอง ที่ทำให้เรามองว่าราคาน้ำมันน่าจะอยู่ในช่วงทรงๆและแกว่งในกรอบแคบ มากกว่าที่จะลงไปลึกๆ โดยปัจจัยที่จะชี้นำทิศทางราคาน้ำมันหลังจากนี้ คือ การรายงานตัวเลขปริมาณการสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ หลังการประชุมของกลุ่ม OPEC ออกมาทาง Goldman Sach ได้ปรับลดราคาเป้าหมายของราคาน้ำมันเฉลี่ยปีนี้ลง แต่ไม่มาก คือ คาดจะอยู่ที่ 53-55+/- ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากเดิมที่ 57 ดอลลาร์ต่อบารเรล์
ราคาหุ้น PTTEP ที่ค่อยๆ ย่อตัวลงมา รับข่าวราคาน้ำมัน เรามองว่าน่าสนใจ เพียงแต่ระดับราคาที่ลงมายังไม่ถึงจุดที่เราให้รับ คือ +/-90 บาท จริงๆ แล้วระดับที่ 90 บาท ไม่ได้มีอะไร เพียงแต่เป็นจุดที่ระดับราคาหุ้นจะลงมาที่ค่าเฉลี่ย ดูจากรูปด้านขวา ที่เราแสดงราคาหุ้น PTTEP รอบ 1 ปี แล้วทำเทียบเป็นค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานที่ +/- 1 SD และ +/-2 SD ความน่าสนใจของหุ้นตัวนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่า หลังจากนี้ น่าจะมีปัจจัยหนุน จากการเข้าประมูลก๊าซและน้ำมันในแหล่งบงกช ที่หลายฝ่ายๆมองว่า PTTEP น่าจะชนะการประมูล ซึ่งจะทำให้ Proven และ Unproven reserved ของบริษัทเพิ่มขึ้น
ทิศทางดัชนี SET ที่สามารถยืนเหนือ 1560 จุดได้ แม้มีแรงขายจากการปรับพอร์ทของ MSCI Semi Annual Index Review ออกมา ถือเป็นปัจจัยบวกกับตลาด ส่วนหลังจากนี้ทิศทางดัชนีคงจะแกว่งตัวตามประเด็นที่เข้ามาใหม่ๆ ทั้งจากในและต่างประเทศ แม้จะยังมองไม่เห็น แต่ประเด็นในเชิงลบกับตลาดก็ไม่เห็นเหมือนกัน ดังนั้นหุ้นที่อาจเข้ามาคั้นในการเล่นช่วงสั้นๆ นี้ เรามองว่าหุ้นขนาดเล็ก จะมาแรง อย่าง รับเหมา พลังงาน อิเล็กโทรนิคส์และโรงพยาบาล
วันนี้มองทิศทางดัชนี SET น่าจะมีการฟื้นตัวหลังจากที่เมื่อวานนี้ปรับลดลงจากเหตุผลเฉพาะตัวที่ MSCI มีการปรับน้ำหนักหุ้นบางตัวในประเทศไทยลงอย่าง CPALL KCE SCB KBANK-F ADVANC AOT SCC-F PTTEP KBANK MINT ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้ว ณ ราคาปิดของเมื่อวานนี้ ดังนั้นเราคาดว่าหุ้นที่ถูกลดน้ำหนักลงดังกล่าวหลังจากที่ได้มีการปรับพอร์ทไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้น่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวในวันนี้ได้ โดยเราชอบ KCE SCB ADVANC และ PTTEP วันนี้เราให้แนวรับที่ 1558-1555 และแนวต้านที่ 1566-1570 จุด หุ้นแนะนำ ซื้อเก็งกำไร มี ADVANC BCH KCE และ pTTEp
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,565.57 เพิ่มขึ้น 3.91 จุด (+0.25%) มูลค่าการซื้อขาย21,844.04 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้รีบาวด์ โดยมีแรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร ขณะที่มีแรงขายจากกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับตัวลง เนื่องจากความกังวล Supply น้ำมันที่เพิ่มขึ้น ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่แกว่งบวก ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ (ศุกร์นี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งในกรอบ โดยมองแนวต้านระยะสั้น 1567-1570 จุด ส่วนแนวรับ 1560-1555 จุด ตลาดยังรอปัจจัยใหม่ๆมาหนุน กลยุทธ์คงเน้นเก็งกำไรรายตัวในกลุ่มรับเหมา พลังงาน และโรงพยาบาล มอง CK PTTEP BCH
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
Patkol (PK TB; THB 6.75) – ซื้อ
PTG Energy (PTG TB; THB 22.20) – ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : ECF*, THANA* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 – [email protected]/ [email protected]