- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 01 June 2017 17:04
- Hits: 1387
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : DCC, DELTA, GGC
Our Portfolio Jun 17 : FSMART, HANA, MGT, RS, TACC
ระยะสั้นเก็งกำไรช่วงลบ ระยะกลาง-ยาวซื้อเพิ่มตามแนวรับ
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัวในแดนบวกได้เกือบตลอดทั้งวันก่อนที่ช่วงท้ายชั่วโมงซื้อขายจะปรับตัวลงอย่างรวดเร็วและปิดลบ 6.91 จุดและมีมูลค่าการซื้อขายกว่า 5 หมื่นลบ. นำโดยกลุ่ม ICT ที่กดดันตั้งแต่ข่วงเช้า ขณะที่การปรับลงของตลาดช่วงบ่ายคาดว่าเป็นผลจาก MSCI re-balancing โดยแรงขายส่วนใหญ่มาจากสถาบันในประเทศ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อยในตลาดหุ้นและพันธบัตร แต่ Short หนักในตลาดฟิวเจอร์ส
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET index จะปรับตัวค่อนไปในแดนลบจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรง 2.7% วานนี้จากปริมาณการผลิตของลิเบียที่เพิ่มขึ้นซึ่งคาดว่าจะกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาตัวเลข Caixin PMI ภาคการผลิตของจีนรวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ขณะที่เดือนหน้ายังมีประเด็นสำคัญทั้งการประชุม FED และการเลือกตั้งของอังกฤษ ขณะที่ค่าเงินบาทเริ่มพลิกมาอ่อนค่าหลังจากลงไปแตะใกล้ 34 บาท/ดอลลาร์ ส่วนด้านเทคนิคดัชนีไม่ผ่านแนวต้าน 1575 จุดและมีการปรับลงแรงพอสมควรและเริ่มเห็นการหลุดต่ำกว่า 1560 จุดให้เห็นระหว่างวัน ทำให้คาดว่าระยะสั้นยังมีความเสี่ยงที่จะอ่อนตัวลงต่อ
กลยุทธ์ : ระยะสั้น เก็งกำไรช่วงลบเล่นรอบรีบาวด์ ระยะกลาง-ยาว ซื้อหุ้นพื้นฐานดีตามแนวรับ
แนวรับ 1560-1558 , 1555 จุด
แนวต้าน 1564-1566 , 1570-1573 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TPIPP, GUNKUL, DTAC (short)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$257ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$321ล้าน และอินโดนีเซีย US$36ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$2ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไต้หวัน US$80ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าแต่อาจชะลอตัวลง ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากแรงกดดันจากปัญหาการเมืองสหรัฐ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) ปัจจัยต่างประเทศกดดัน จากเหตุระเบิดที่อัฟกานิสถานวานนี้ ส่วนฝั่งอังกฤษ คะแนนนิยมนางเทเรซาเมย์ลดลงมากหลังเหตุระเบิดเมืองแมนเชสเตอร์ อาจไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาหลังเลือกตั้ง 8 มิ.ย. ซึ่งมีผลต่อการเจรจา Brexit นักลงทุนส่วนใหญ่ยังจับตาตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐคืนพรุ่งนี้ (ตลาดคาด +1.8 แสนตำแหน่ง ลดลงจากเดือนก่อนที่ +2 แสนตำแหน่ง) และรอการประชุมเฟด 13-14 มิ.ย.
(-) ราคาน้ำมันต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกในเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกของการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกในปีนี้ กดดันกลุ่มพลังงานต้นน้ำ (PTTEP) แต่ดีกับโรงกลั่น (BCP, IRPC, SPRC)
(+) เชื่อตลาดหุ้นฟื้นหลังประชุมเฟด ประเด็นสำคัญเดือนนี้หนีไม่พ้นการประชุม FOMC 13-14 มิ.ย. ตลาดคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.00-1.25% สิ่งสำคัญต้องติดตาม Dot Plot เพื่อดูแนวทางการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต ส่วนการลดขนาดงบดุลของเฟด แม้ยังไม่มีรายละเอียดว่าจะทำอย่างไร แต่สิ่งที่เฟดทำมาตลอดคือการสื่อสารกับตลาดเพื่อไม่ให้ตกใจ เราจึงเชื่อว่าการ Tighten ของเฟดจะไม่ทำให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกผันผวนมากนัก และอย่าลืมว่าวงเงินซื้อพันธบัตรของ ECB และ BOJ ในปัจจุบันอยู่ที่แห่งละ US$6 หมื่นล้านต่อเดือน และยังดำเนินนโยบายดอกเบี้ยต่ำ ผลกระทบต่อสภาพคล่องโลกจึงจำกัด เดือนนี้เราแนะนำ FSMART, HANA, MGT, RS, TACC
(+) DELTA ข้อมูลจากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้เป็นเชิงบวก บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 6-13% aggressive ที่สุดในรอบ 5 ปี การเติบโตจะมาจากกลุ่ม Auto, Fan, Telecom และธุรกิจในอินเดียที่จะฟื้นจากฐานต่ำปีก่อน เราปรับสมมติฐานให้สอดคล้องกับของบริษัท ปรับกำไรสุทธิปีนี้ขึ้น 3% เป็น +22.5% Y-Y (เดิมคาด +18.6% Y-Y) ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็นที่ 92 บาทจาก 74 บาท เพิ่มคำแนะนำเป็นถือ จากเดิม ขาย
(+) RS ราคาหุ้น laggard กลุ่มทั้งที่แนวโน้มผลประกอบการ 2Q17 ฟื้นตัวสูงทั้ง Q-Q และ Y-Y จากยอดขายธุรกิจผลิตภัณฑ์ Health & Beauty ที่เป็นตัวหนุนหลัก ขณะที่รายได้ทีวีดิจิตอลกระเตื้อง ซึ่งทำให้กำไรสุทธิทั้งปี turnaround +308% Y-Y ยังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 10.80 บาท มี upside มากสุดในกลุ่ม
(0) GGC เป็น Flagship ในธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมของ PTTGC รายได้ 60% มาจากเมทิลเอสเทอร์ (ผสมในน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว) ซึ่ง GGC เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ในประเทศ และรายได้ประมาณ 30% มาจากแฟตตี้แอลกอฮอล์ (สารลดแรงตึงผิว) ซึ่ง เป็นผู้ผลิตรายเดียวในประเทศ ความเสี่ยงด้านตลาดต่ำเพราะมีลูกค้าหลักคือกลุ่ม PTT บริษัทจะขยายกำลังการผลิตเมทิลเอสเทอร์อีก 60% คาดเริ่มจำหน่าย 4Q18 การปรับส่วนผสมขั้นต่ำของน้ำมันดีเซลจาก B5 เป็น B7 เมื่อ 8 พ.ค. ที่ผ่านมาช่วยหนุนความต้องการใช้ เราคาดกำไรปี 2017-19 โตเฉลี่ย +11.4% ต่อปี ประเมินราคาพื้นฐาน 15 บาท แนะนำถือเพราะ upside จำกัด (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ GGC)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
1 มิ.ย. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ค.),อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
-จีน: Caixin China PMI Manufacturing (พ.ค.)
- สหรัฐ:การจ้างงานภาคเอกชน (พ.ค.)
2 มิ.ย. - เกาหลีใต้: 1Q17 GDP
- สหรัฐ:การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (พ.ค.)
5 มิ.ย. - จีน:Caixin China PMI Composite (พ.ค.)
6 มิ.ย. - ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (พ.ค.)
7 มิ.ย. - ยูโรโซน: 1Q17 GDP
8 มิ.ย. -จีน: ดุลการค้า (พ.ค.)
- ญี่ปุ่น: 1Q17 GDP
- อังกฤษ:เลือกตั้งทั่วไป
- ยูโรโซน: ECB Meeting
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดลบ นำโดยกลุ่มธนาคารเนื่องจากรายได้ธุรกิจเทรดดิ้งของธนาคารลดลงอย่างหนัก อีกทั้ง มีแรงกดดันจากกลุ่มพลังงานที่ปรับลดลงตามราคาน้ำมัน
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ เนื่องจากความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในอังกฤษหลังผลสำรวจระบุคะแนนเสียงของพรรครัฐบาลอ่อนแอลง นอกจากนี้ ยังมีแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปที่ปรับลดลงมากกว่าคาด
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดค่อนไปทางลบตามทิศทางตลาดโลก
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางอ่อนค่า โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.02-34.09 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. ปิดลบ 1.34 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 48.32 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลปริมาณน้ำมันจากลิเบียที่อาจเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดบวก 9.70 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,275.40 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และ ความวิตกกังวลด้านเมืองในยุโรป
Contact person : Jitra Amorntham
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research