- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 31 May 2017 17:29
- Hits: 1532
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์/บวกแคบๆ
KGI คาด SET วันพุธไซด์เวย์/บวกแคบๆ ปัจจัยภายนอกยังคงเป็นกลาง ขณะที่ประเด็น MSCI รีบาลานซ์หุ้นเข้า/ออก ไม่มีหุ้นตัวใหญ่ คาดกระทบดัชนีฯ น้อย (วานนี้ดัชนีฯ แกว่งแคบตลอดทั้งวัน ใกล้เคียงที่คาด) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลบกรอบจำกัด แต่เป็นปัจจัยเฉพาะของหุ้นสหรัฐฯ หลังหุ้นสายการบินลงแรงตามข่าวสหรัฐฯ จะห้ามนำโน้ตบุ๊คขึ้นเครื่องในทุกไฟลท์ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้เป็นกลาง แม้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำคาด แต่ตัวเลขการใช้จ่ายบริโภค เม.ย. แข็งแกร่งตามคาด ทั้งนี้สัญญาณเฟดฟันด์ฟิวเจอร์เพิ่มโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. สู่ 91% จากเดิม 88% ส่วนในฝั่งยุโรปมีข่าวลบเล็กน้อย หลังรัฐบาลอิตาลีส่งสัญญาณอาจเลือกตั้งเร็วกว่ากำหนด โดยเสนอให้จัดการเลือกตั้งใน ก.ย. 2560 (กำหนดเดิม พ.ค. 2561) ล่าสุดเช้านี้ ประเทศจีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน พ.ค. ที่ 51.2 สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 51.0 น่าจะช่วยค้ำจิตวิทยาหุ้นเอเชียได้ระดับหนึ่ง สำหรับในวันนี้ MSCI จะรีบาลานซ์หุ้นเข้า/ออกรอบครึ่งปี โดยมีผล ณ ปิดตลาด แต่เนื่องจากหุ้นที่ถูกเพิ่มเข้าดัชนี MSCI Small Caps เป็นหุ้นเล็ก (ได้แก่ PTL, BIG, FORTH, BCPG และ THANI*) คาดมีผลต่อ SET จำกัด ทั้งนี้ดัชนีฯ อาจได้แรงหนุนเล็กน้อยหากหุ้น PTT* ปรับขึ้นตามประเด็น MSCI ประกาศเพิ่มน้ำหนักในตระกร้าหุ้นไทย
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร ECL, KCE*
ECL (เป้าพื้นฐาน 3.64 บาท) 1) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเติบโตแบบ QoQ และ YoY ต่อเนื่องหลังจากที่ยอดสินเชื่อเช่าซื้อเติบโตเด่นใน 1Q60 ชี้ให้เห็นว่าภายหลังพันธมิตรใหม่ (PFS) เข้าถือหุ้น ECL 25.5% เริ่มปล่อยสินเชื่อแบบเชิงรุกมากขึ้น โดยคาดพอร์ตสินเชื่อจะโตเฉลี่ยปีละ 40% CAGR 2559 – 63 โดยเน้นพอร์ตสินเชื่อบิ๊กไบค์ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่ารถยนต์ + NPL ต่ำกว่า 2) ปัจจุบัน D/E ต่ำเพียง 1.3 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มฯที่ +3.5 เท่า ทำให้มีโอกาสในการเติบโตได้เด่นกว่าอุตสาหกรรมฯ 3) PFS ประกอบธุรกิจปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อที่ประเทศญี่ปุ่นโดยมี ส่วนแบ่งตลาดฯ 10% ในปี 2558 และมีส่วนแบ่งตลาดฯธุรกิจรับประกันชิ้นส่วนรถยนต์มือสองในญี่ปุ่นราว 40% ซึ่งคาดว่าจะนำโมเดลธุรกิจนี้มาใช้ในไทย โดย ECL จะเริ่มเปิดศูนย์บริการ ออโต้เซอร์วิส “Fixman” ใน 3Q60 เพื่อรองรับธุรกิจรับประกันชิ้นส่วนรถยนต์มือสอง 4) ประเมิน Valuation ยังมี Upside 23% จากราคาเป้าหมายอิง PE 22 เท่า (ประเมิน EPS โต 22% CAGR 2560 – 63 คิดเป็น PEG 1 เท่า) 5) ประเมินแนวรับ 2.92 บาท (ค่าเฉลี่ย 10 วัน) และถัดไป 2.84 บาท แนวต้าน 3.16 บาท และถัดไป 3.26 บาท (Stop loss 2.70 บาท) ... วันนี้ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
KCE* (เป้าพื้นฐาน 122 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 105.5 บาท แนวต้านแรก 109 บาท หากผ่านได้ประเมินมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้าน 114.5 – 118 บาท (Stop loss 103 บาท) 2) ประเมิน Earnings momentum จะเริ่มเร่งตัวขึ้นแบบ QoQ ตั้งแต่ 2Q60 จากการทยอยขยายกำลังการผลิตเฟสที่ 3 ตั้งแต่ ปลายปี 2559 (คาดจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่ม 20%) และฝ่ายวิจัยฯคาดจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นใน 2Q60 – 3Q60 ได้อานิสงส์จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เร่งตัวขึ้น จึงคาดผลการดำเนินงาน 1Q60 เป็นจุดต่ำสุดของปี
หุ้นในกระแส
ประเด็นข่าว ครม อนุมัติสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสีชมพู – เหลือง (กรุงเทพธุรกิจ) เราประเมินผู้ร่วมทุน BSR ที่ประกอบธุรกิจรับเหมาฯอย่าง STEC* จะได้อานิสงส์โดยตรง จากการรับงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานก่อน และรวมถึงหุ้นในกลุ่มงานเสาเข็มที่เป็นพันธมิตรอย่าง PYLON และหุ้นงานเสาเข็มที่ยังมี Upside อย่าง SEAFCO แนะนำ “เก็งกำไร” ... อ่านบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้เพิ่มเติม
ประเด็นข่าว Oppo + หัวเว่ยทุ่มงบการตลาดฯ และ Apple จะเข้ามาตั้ง Flagship store ในไทย (ฐานเศรษฐกิจ) เราประเมินเป็นบวกกับ COM7* โดยตรง ล่าสุด COM7* เตรียมเปิดสาขา Oppo และ หัวเว่ย (คาดได้รับงบสนับสนุนการตลาดฯ ดังนั้นจึงคาดผลตอบแทนจากการเปิดสาขา Oppo และ หัวเว่ย จะอยู่ในระดับที่สูง คาดได้ดีลคล้าย SYNEX กับ หัวเว่ย) ขณะที่การเปิด Flagship Store ในไทยของทาง Apple เราคาดจะเปิดเพียง 1 – 2 สาขาในห้างหลัก (เช่น สยามพารากอน หรือ Central world) ซึ่งไม่ใช่พื้นที่เป้าหมายของ COM7* (ไม่คุ้มค่าเช่าที่ สำหรับการขายของ COM7*) และประเมินว่า Apple จะมุ่งเน้นการตลาดฯในไทยมากขึ้น จากเดิมที่ไทยถูกจัดให้อยู่กลุ่ม Tier 2 – 3 มาตลอด ราคาหุ้นที่ปรับลงมาวานนี้ คาดเป็นแรงขาย Take profit หลังกังวลต่อธุรกิจใหม่ๆของ COM7* มากเกินไป ซึ่งในกรณีแลวร้ายเราประเมินว่าถ้าไม่ทำธุรกิจใหม่เพิ่ม คาดกำไรปีนี้โต +30% YoY เทียบ PE 25 เท่า ประเมินแนวรับ 11 บาท แนวต้าน 11.6 - 12.0 บาท แนะนำ “ซื้อแนวรับ”
หุ้นมีข่าว
(+) BSR เตรียมพร้อมสำหรับโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพูและสีเหลือง (บางกอกโพสต์) เราเห็นว่า การอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองของคระรัฐมนตรีเมื่อวานนี้เป็นบวกต่อกลุ่ม BSR Joint Venture ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าระหว่าง BTS Group (BTS.BK/BTS TB)*, Sino-Thai Engineering & Construction (STEC.BK/STEC TB)* และ Ratchaburi Electricity (RATCH.BK/RATCH TB) เป็นผู้ชนะการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองมูลค่ารวม 1.05 แสนล้านบาท โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นของ BTS:STEC:RATCH เท่ากับ 75%:15%:10% ตามลำดับ โดยเบื้องต้น เราประเมินว่า รถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองจะเพิ่มมูลค่าให้กับ BTS ได้ราว 1.35 บาท/หุ้น (จากสัดส่วนการถือหุ้น 75% ของ BTS ใน BSR) หรือประมาณ 12.7% จากราคาเป้าหมายปัจจุบันของเราที่ 10.60 บาท เรายังคงแนะนำซื้อ BTS
(0) SAWAD* ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่าคุณธิดา แก้วบุตตา ได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และกรรมการ บริษัทมีผลตั้งแต่ 29 พ.ค.2560 ทั้งนี้ได้แต่งตั้งนายฉัตรชัย แก้วบุตตา ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน ความเห็น: การลาออกของบริหารครั้งนี้เป็นผลจากการร้องเรียนของคู่แข่งที่ท้วงติงในวิธีการอนุมัติสินเชื่อภายใต้ระบบเครดิตบูโร ซึ่งจะมีผล Sentiment ต่อราคาหุ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตามภายการปรับโครงสร้างองค์กร ทำให้แผนงานระยะยาวที่ยังดำเนินยังเหมือนเดิม ดังนั้นคงคำแนะนำ Outperform ที่ราคาเหมาะสม 56 บาท (PE 25X).
(+ COM7*, JMART*) แอปเปิลตั้งช็อปสมาร์ทโฟนร้อน (ฐานเศรษฐกิจ) บรรยากาศ-กำลังซื้อตีกลับโปรดักต์ใหม่ ตลอดจนการทุ่มงบตลาดแบรนด์จีน หนุนตลาดสมาร์ทโฟนครึ่งปีแรกโตเกินคาดการณ์ ชี้ "ออปโป้" มาแรง จับตามองหัวเว่ยเงินหนาเตรียมทุ่มงบตลาด ด้านเอ็มวิชั่นเผยโปรดักต์ใหม่ กระตุ้นยอดเงินสะพัด "ไทยแลนด์โมบายเอ็กซ์โป" 1,800 ล้านบาท คอมเซเว่นมองแอปเปิลตั้งแฟล็กชิพสโตร์ส่งผลดีไทย
(+) LHBANK* ร่วมทุนไต้หวันลงตัว ไม่กังวล "อนันต์" พ้นประธาน (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) LH BANK แจงความคืบหน้ากรณีร่วมทุน CTBC BANK ไต้หวัน เตรียมออกหุ้นกู้ 7.55 พันล้านหุ้นขาย PP ได้เงินทุน 1.66 หมื่นล้าน คาดเสร็จสิ้นเดือน ก.ค.นี้ สัดส่วนถือหุ้น 35.617% ระบุช่วยเสริมแกร่งด้านบริหารเงินส่วนบุคคล ดิจิทัลแบงก์กิ้ง เทรดไฟแนนซ์ ยันพันธมิตรใหม่ไม่กังวล กรณี "อนันต์ อัศวโภคิน" ลาออก
(+) TSR ส่งซิก Q2 แจ่มรับไฮซีซั่น รุกเจาะตลาดลาว-เล็งบริการสินเชื่อบุคคล Q3 (ข่าวหุ้น) “เธียรสุรัตน์” แย้มงบไตรมาส 2/60 ดีกว่าไตรมาส 1/60 เหตุเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ล่าสุดรุกการขายเครื่องกรองน้ำในลาว พร้อมเตรียมเปิดให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลและรับจำนำเล่มทะเบียนรถในไตรมาส 3/60
(+) BIZ จ่อปิดดีลคว้างานพันล้าน โชว์แบ็กล็อก 1.5 พันล้าน บุ๊คปีนี้ 300 ล. (ข่าวหุ้น) “BIZ” ซุ่มเจรจางานติดตั้งเครื่องฉายรังสีรักษาโรคมะเร็งให้แก่ รพ.รัฐ-เอกชน 8-10 โครงการ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท คาดทยอยปิดดีลปี 60-61 โชว์แบ็กล็อก 1,523 ล้านบาท จ่อบุ๊คปีนี้ 300 ล้านบาท เล็งขายเครื่องฉายรังสีมะเร็งให้เขมรเพิ่ม
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
VNT (เป้า Consensus 24.5 บาท) แนวรับ 19.8 บาท แนวต้าน 20.4 บาท (Stop loss 18.7 บาท) ประเมินหากผ่านแนวต้าน 20.4 บาทได้ มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้าน ±22 บาท ... KGI Research ไต้หวัน ประเมินแนวโน้ม Spread PVC จะเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นใน 2H60 (Ethylene ที่เป็นวัตถุดิบผลิต PVC กำลังเข้าสู่วัฏจักรขาลงใน 2H60) โดยคาด PVC Spread ปี 2560 เฉลี่ย = 324 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน เพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 280 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตันในปี 2559 (+15.7% YoY)
ASAP (เป้าพื้นฐานเบื้องต้น 5.2 บาท อิง PEG 0.8 เท่า) ประเมินแกว่งตัวขึ้นในกรอบ Uptrend line channel 5.3 – 5.8 บาท (กำหนด Trailing stop 5.05 บาท)
UKEM (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแนวรับ 2.10 บาท แนวต้าน 2.24 บาท หากผ่านได้ประเมินทดสอบแนวต้านถัดไป 2.48 บาท (Stop loss 2.0 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
ECL แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 3.64 บาท ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเติบโตต่อเนื่องแบบไตรมาสต่อไตรมาส ภายหลังเริ่มรุกการปล่อยสินเชื่อรถยนต์และรถบิ๊กไบค์มือสองแบบเชิงรุกมากขึ้น หลังมีพันธมิตรจากต่างชาติเข้าถือหุ้น 25.5% และด้วย D/E ที่ยังต่ำกว่าคู่แข่งในตลาดฯ ทำให้เราประเมินจะเป็นจุดแข็งที่ทำให้ ECL สามารถขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อเชิงรุกได้เด่นกว่าอุตสาหกรรมฯ ประเมินราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside ราว +23% อิง PEG 1 เท่า (PE 22 เท่า)
กลุ่มรับเหมาฯ ที่ประชุม ครม อนุมัติลงนามสัญญาสัมปทาน รถไฟฟ้า สีชมพู – เหลือง วานนี้ คาดจะสามารถลงนามฯได้ในเดือน มิ.ย.นี้ และเริ่มงานก่อสร้างได้ใน 3Q60 เลือก STEC* และ SEAFCO เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มฯ
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้ --- กรอบราคา 1566 – 1572 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1572 จุด อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1572-1584 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1566 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบ 1566-1553 จุด
แนวรับวันนี้: 1566/1555 แนวต้านวันนี้: 1572/1582
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]