- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 30 May 2017 17:22
- Hits: 1309
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ระยะสั้น Trading ในกรอบ ระยะกลาง-ยาวซื้ออ่อนตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งทรงตัวในกรอบแคบตามคาดและปิดลบลงเล็กน้อยด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางหลังไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้น ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศหลายแห่งจะปิดทำการ อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติยังมียอดซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดรวมกันราว 4.5 พันลบ. โดยยังคงซื้อหนาแน่นที่สุดในตลาดพันธบัตร
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET index จะยังคงปรับตัวในกรอบแคบจากตลาดหุ้นต่างประเทศหลายแห่งที่ปิดทำการทำให้ขาดปัจจัยชี้นำ ขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตามสำคัญในเดือนหน้ามีค่อนข้างมาก ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ตัวเลข PMI ของจีน การเลือกตั้งของอังกฤษ รวมถึงการประชุมธนาคารกลางสำคัญทั้ง FED และ ECB ขณะที่ด้านเทคนิคดัชนีดัชนียังคงไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้าน 1573 จุดขึ้นไปได้ ทำให้กรอบการเคลื่อนไหวคาดว่ายังอยู่ที่ 1563-1573 จุดตามเดิม
กลยุทธ์ : ระยะสั้น Trading ในกรอบ ระยะกลาง-ยาว ทยอยซื้อหุ้นพื้นฐานดีช่วงอ่อนตัว
แนวรับ 1566-1563 , 1560 จุด
แนวต้าน 1573-1575 , 1580 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : UNIQ, SIMAT, BEAUTY (buyback)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$442ล้าน เม็ดเงินไหลออกจากอินโดนีเซียประเทศเดียว US$487ล้าน ขณะที่ไหลเข้าฟิลิปปินส์ US$14ล้าน และไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$12.5ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางกลับมาไหลเข้าภูมิภาคแต่เม็ดเงินอาจยังเบาบางต่อเนื่องเพราะหลายตลาดปิดทำการในวันนี้ (จีน ฮ่องกง ไต้หวัน)
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) ราคาน้ำมันควรแกว่งในกรอบ US$50-55/บาร์เรลในระยะถัดไป การลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกต่อไปอีก 6 เดือน ช่วยลด supply ในตลาดซึ่งเป็นผลดีต่อราคาน้ำมันในช่วง 2H17 ส่วนข่าวทรัมป์เสนอให้ขายน้ำมันจากคลังสำรองครึ่งหนึ่ง ไม่น่ากังวลเพราะเป็นการทยอยขาย 344 ล้านบาร์เรลใน 10 ปีข้างหน้า (ปี 2018-27) คิดเป็นเฉลี่ย 9.2 หมื่นล้านบาร์เรล/วัน น้อยมากเมื่อเทียบกับการลดการผลิตของโอเปก 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน เราคาดราคาน้ำมันจะกลับไปยืน US$50-55/บาร์เรลในระยะถัดไป ซึ่งจะเป็นบวกต่อ PTTEP (ราคาพื้นฐาน 103 บาท) แต่ลบกับกลุ่มสายการบิน
(-) กลุ่มสายการบิน นอกจากจะเผชิญกับ Low season ในช่วง 2Q-3Q แล้ว การแข่งขันราคาที่รุนแรงกระทบรายได้ค่าตั๋วของสายการบินตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน หากราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นจะเป็นความเสี่ยงในระยะถัดไป แม้เราจะชอบ AAV มากสุดแต่ upside เริ่มจำกัดจากราคาพื้นฐาน 6.80 บาท แนะนำถือ และไม่แนะนำสายการบินอื่นในระยะนี้
(+) FSMART ทิศทางผลประกอบการยังแข็งแกร่งจากการขยายจำนวนตู้เติมเงินในระดับ 29,000 ตู้/ปี ความนิยมในการเติมเงินผ่านตู้ และบริการใหม่ๆผ่านตู้ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และทิ้งห่างคู่แข่ง กำไร 1Q17 คิดเป็น 23% ของประมาณการทั้งปี เรายังคาดกำไรปีนี้ +35% Y-Y ปีหน้า +27% Y-Y ปัจจุบันมี PE 27 เท่า คิดเป็น PEG 0.8 เท่าปีน้และ 1.0 เท่าปีหน้า ราคาหุ้นยังมี upside กว่า 10% จากพื้นฐานที่ 22 บาท แนะนำซื้อ
(+) MGT เราปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 3.30 บาทจาก 2.70 บาท จากการปรับกำไรปี 2017-18 ขึ้น 10%-14% เป็นเติบโต 84% Y-Y ในปีนี้และ 20% Y-Y ในปีหน้า หลังจากบริษัทเพิ่มทีมขายและเพิ่มสินค้าใหม่ที่มีอัตรากำไรสูง MGT เป็น Growth stock ที่ความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจต่ำ ฐานะการเงินแกร่ง แนะนำซื้อ
(-) ICHI จากงาน Opp Day วานนี้ ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตในปีนี้ Aggressive เพิ่มสินค้าใหม่ในประเทศ รุกตลาดส่งออก (อินโดนีเซียและ CLMV) และอยู่ระหว่างปรับกลยุทธ์ที่อินโดนีเซีย แต่ยังน่าจะยังขาดทุนอีก 1-2 ปีจนกว่าจะตั้งโรงงานผลิตสินค้าเองได้ หากอิงเป้าผู้บริหาร กำไรปีนี้อาจโตกว่า 30% ราคาเป้าหมายจะเป็น 7 บาท หุ้นเต็มมูลค่าอยู่ดี เรายังคงแนะนำขาย ให้ราคาพื้นฐาน 6 บาท (PE 18 เท่า)
(0) EPG กำไรต่ำคาด หากตัด Forex loss กำไรปกติ 4Q17 (ม.ค.-มี.ค. 2017) เป็น 299 ล้านบาท -8% Q-Q, -3% Y-Y เป็นกำไรต่ำสุดของรอบปี 2017 และต่ำกว่าเราและตลาดคาด เพราะรายได้ที่ลดลงโดยเฉพาะกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกตามการบริโภคในประเทศที่ยังฟื้นไม่เต็มที่ สถานการณ์เดือน เม.ย.-พ.ค. เริ่มดีขึ้น เรายังคงประมาณการและราคาพื้นฐานปี 2018 (สิ้นสุด มี.ค. 2018) 16 บาท ยังแนะนำซื้อ
โดย บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ประจำวันที่ 30 พ.ค. 2560