- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 29 May 2017 17:19
- Hits: 1218
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แกว่งตัวในกรอบ 1560-1575
ตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ปิดลดลงเนื่องจากแรงฉุดของหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบหลังโอเปค ไม่ได้มีมาตรการใหม่ที่ทำให้ตลาดตื่นเต้น โดยต่ออายุการลดกำลังการผลิตไปอีก 9 เดือน แต่ไม่มีการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่เริ่มฟื้นตัว ขณะที่ตลาดไม่มีปัจจัยใหม่อื่นเข้ามากดดันเพิ่ม น่าจะทำให้หุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1560-1575 และเห็นการเลือกผลักดันหุ้นเป็นรายตัว
ภาพตลาดไม่มีปัจจัยบวกชัดเจน แต่ไร้ปัจจัยลบที่รุนแรง ภาพรวมยังเลือกลงทุนได้หากตลาดไม่หลุดกลับลงไปต่ำกว่า 1560 จุด การเก็งกำไรควรเลือกหุ้นที่ยัง Laggard และตั้งจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง // หุ้นแนะนำ ERW, IRPC, OTO*, EASTW* /เก็งกำไร KASET*, TRC*, GFPT*
ประเด็นการลงทุน
ราคาข้าว – ราคาข้าวส่งออก ปรับขึ้นจากต้นปีที่ 381 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน มาสู่ 448 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน หรือเพิ่มขึ้น 17.6% ทั้งนี้ข้าวเป็นหนึ่งในสินค้าเกษตรที่ Underperform ที่สุดในปี 2559 ซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะเป็นสินค้าเกษตรที่ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าโภคภัณฑ์อื่น และอาจส่งผลบวกต่อหุ้นที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ KASET (Not rated) หรือ PR (Not rated)
เหมืองโปแตช – กระทรวงการคลังเตรียมเสนอครม.ขออนุมัติให้ PTTGC เข้าถือหุ้นแทนใน อาเซียนโปแตชชัยภูมิ (APOT) การเข้าเพิ่มทุนของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้โครงการเดินหน้าต่อได้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกเชิงจิตวิทยาต่อ TRC (Not rated)
TFF – ครม.อาจพิจารณา ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ (TFF) ในการประชุม 30 พ.ค.เพื่อเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนต่างชาติให้ทัน 22-23 มิ.ย. ขณะที่การเสนอขายหน่วยลงทุนคาดจะเกิดขึ้น ก.ย.60
หุ้น Laggard ใน SET100 - ที่เราคิดว่าน่าสนใจในการเก็งกำไรระยะสั้น ได้แก่ – SCN, TKN, PTG, GLOBAL, BANPU, TASCO, STPI, ICHI, LPN, BLA, BDMS, AMATA, TTA, TPIPL, CPF, BCH, SAMART, VNG, CHG, TMB
สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ: 14 มิ.ย. – ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC meeting) / 22-23 มิ.ย. – ตลท.จัดงาน Thailand Big Strategic Move / ก.ค. – อนุมัติเงินกู้งวดใหม่ให้กรีซ
คำแนะนำทางกลยุทธ์: การกลับมายืนเหนือ 1560 จุด ทำให้ตลาดมีโอกาสทดสอบ 1580-1600 แต่ควรบริหารความเสี่ยงด้วยการเลือกหุ้นที่ยัง Laggard โดยใช้การหลุดต่ำ 1560 เป็นจุดชะลอการลงทุน // ภาพระยะกลาง ยังมีความเสี่ยงในการลงทดสอบ 1460 จุด (Worst case)
แนวรับ 1560/แนวต้าน : 1570-1575 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH)