WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSSบล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน



Today’s Report : AIT, SVI, WORK
Our Portfolio May 17 : CPF, GLOBAL, SYNEX, TACC, THANI

ทยอยซื้อตามแนวรับ

     ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ยังขยับบวกขึ้นได้อีกเล็กน้อยเนื่องจากยังจับตาดูผลการประชุม OPEC ว่าจะมีการขยายระยะเวลาปรับลดกำลังการผลิตตามคาดหรือไม่ ขณะที่ดัชนียังไม่สามารถทะลุผ่านแถว 1570-1573 จุดขึ้นมาได้ ขณะที่แรงซื้อจากทั้งฝั่งนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นยังค่อนข้างเบาบาง แต่ในตลาดฟิวเจอร์สยังซื้อมากพอสมควรกว่า 2 พันลบ.
     แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET index จะปรับตัวในแดนลบนำโดยหุ้นในกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันที่ลบแรงเกือบ 5% หลังจากที่ตลาดผิดหวังกับผลการประชุม OPEC ที่ขยายเพียงระยะเวลาออกไปอีก 9 เดือนเป็นสิ้นสุด 1Q18 แต่ไม่ปรับลดปริมาณเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามกรอบการลบคาดว่าจะไม่กว้างนักเนื่องจากกระแสเงินทุนต่างชาติยังคงไหลเข้าไทยและน่าจะช่วยพยุงได้ ซึ่งสังเกตได้จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง ขณะที่ด้านเทคนิคหลังจากที่ไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1570-1573 จุดในระยะสั้นตามคาด ทำให้น่าจะมีจังหวะย้อนลบลงไปทดสอบแนวต่างๆก่อน ซึ่งเรามองว่าเป็นโอกาสในการทยอยซื้อลงทุน


กลยุทธ์ : ระยะสั้น ซื้อเก็งกำไรในช่วงลบ ระยะกลาง-ยาว ทยอยซื้อเพิ่มตามแนวรับ
แนวรับ  1566-1563 , 1560 จุด  
แนวต้าน  1573-1575 , 1580 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BDMS, BA, AAV (buyback)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$212ล้าน นำโดยไต้หวัน US$110ล้าน เกาหลีใต้ US$84ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$9ล้าน ขณะที่ไหลออกเวียดนามประเทศเดียว US$1ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่อาจชะลอลงตามกลุ่มพลังงานที่ได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันซึ่งผิดหวังการประชุม Opec และ Non-Opec ที่ไม่ผิดจากที่คาดการณ์ไว้

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) Sell on fact ราคาน้ำมัน ตลาดผิดหวังกับการประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันวานนี้ที่ขยายเวลาลดกำลังการผลิต 9 เดือน เพราะตลาดคาดหวัง 1 ปี รวมถึงคงปริมาณการปรับลดไว้ระดับเดิม 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน อาจกดดันกลุ่มพลังงานในวันนี้ และหนุน Sentiment กลุ่มโรงกลั่นและสายการบิน แต่เป็นปฎิกิริยาระยะสั้นต่อผลการประชุม เศรษฐกิจโลกที่ค่อยๆดีขึ้นจะหนุนราคาน้ำมันให้ยืนเหนือระดับ US$50 ได้ในระยะถัดไป
(+) ทิศทางกระแสเงินต่างประเทศไหลเข้า EM ตลาดปัจจุบันรับรู้แล้วกับการที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า ข่าวนี้จึงไม่เป็นลบ ครั้งล่าสุดที่เฟดประกาศขึ้นดอกเบี้ย ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้นทันทีโดยเฉพาะเอเชีย แต่หากเฟดเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยออกไปเพราะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ชะลอกว่าคาด ยิ่งเป็นบวกกับตลาดเอเชีย  
(+) SVI การประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ เรามองบวกมากขึ้นต่อการเติบโตในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้า กำไรจะฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q17 และสดใสเต็มที่ปี 2018 หลังขจัดปัญหาสายการผลิตแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าใหม่ที่เซ็นสัญญาแล้ว ซึ่งจะเริ่มเข้ามาตั้งแต่ 4Q17 เราคงประมาณการกำไรปีนี้ +48.5% Y-Y แต่ปรับปีหน้าขึ้น 7% เป็น +24.6% Y-Y ปรับ PE เพิ่มเป็น 17 เท่าเพราะการเติบโตของกำไรในช่วง 3 ปีนี้สูงกว่าเดิม ทำให้ราคาพื้นฐานปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 6.80 บาทจากเดิม 6 บาท ยังแนะนำซื้อ
(+) WORK การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ เรายังมองบวกต่อแนวโน้มการทำกำไรที่แข็งแกร่ง จากการเป็นผู้ประกอบการทีวีรายใหม่ที่ดึงส่วนแบ่งการตลาดได้โดดเด่นสุด แนวโน้มกำไร 2Q17 จะเป็นจุดสูงสุดของปี โตต่อเนื่องทั้ง Q-Q, Y-Y จากการปรับค่าโฆษณาขึ้นได้อีก เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2017-18 ขึ้น 11-13% เป็น +165% และ +30% ตามลำดับ ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 69 บาท จาก 62 บาท ยังแนะนำ ซื้อ 
(+) AIT โครงการประมูลงานต่างๆจากภาครัฐยังมีมาก และมีโอกาสได้งานในประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่ Backlog ปัจจุบันมี 3,255 ล้านบาท ยังไม่รวมที่รอใบสั่งซื้ออีก 756 ล้านบาท สูงกว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ โครงการเคเบิลใต้น้ำในพม่า (AIT ถือ 23%) คาดเปิดบริการบางส่วนใน 4Q18 และมีงานรับเหมาวางระบบในลาวและกัมพูชา เราปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 31 บาทจาก 29.50 บาท ยังแนะนำซื้อ
(+) HANA แนวโน้มกำไรปกติ 2Q17 น่าจะสดใสต่อเนื่องเพราะเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลของการส่งออก บวกกับการปรับ Product Mix ลดสินค้ากลุ่ม Computer (มาร์จิ้นต่ำ และอุตสาหกรรมชะลอ) และเพิ่มกลุ่มอื่นทั้ง Telecom Automotive Medical และ RFID มาทดแทน เราอยู่ระหว่างปรับเพิ่มกำไรปกติปี 2017 ขึ้นราว 10-15% จากปัจจุบันคาดไว้โต +17% Y-Y ภายหลังประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 30 พ.ค.นี้ ราคาพื้นฐานอาจปรับจากปัจจุบันที่ 46 บาท เป็นประมาณ 55-60 บาท ชอบ HANA มากสุดในกลุ่ม

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
26 พ.ค. - สหรัฐ: 1Q17 GDP
30 พ.ค. - ฝรั่งเศส:ยอดขาย
31 พ.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน เม.ย.
- จีน:Manufacturing PMI (เม.ย.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ และอัตราการว่างงาน (เม.ย.)
- สหรัฐ: Fed Beige Book
1 มิ.ย. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ค.),อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
-จีน: Caixin China PMI Manufacturing (พ.ค.)
- สหรัฐ:การจ้างงานภาคเอกชน (พ.ค.)
2 มิ.ย. - เกาหลีใต้: 1Q17 GDP
- สหรัฐ:การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (พ.ค.)
5 มิ.ย. - จีน:Caixin China PMI Composite (พ.ค.)
6 มิ.ย. - ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (พ.ค.)

(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนยังปิดบวกได้ต่อเนื่องนำโดยหุ้นในกลุ่มค้าปลีก ขณะที่นักลงทุนตอบรับเชิงบวกต่อรายงานการประชุม FED ทั้งในเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยและแผนการลดขนาดงบดุล 
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนลบนำโดยหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบร่วงแรงโดยผิดหวังผลการประชุม OPEC
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมโดยยังไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงแรงเป็นอีกปัจจัยกดดัน
(+) ค่าเงินบาทยังแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องค่อนข้างแรง โดยเข้าใกล้ระดับ 34 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. ร่วงแรง 2.46 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 48.90 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังนักลงทุนผิดหวังผลการประชุม OPEC ที่ขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือน แต่ไม่ได้ปรับลดเพดานให้มากขึ้น
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,256.40 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาหลังจากที่ราคาปรับตัวลงติดต่อกันในช่วง 2 วันก่อนหน้า

Contact person : Jitra  Amorntham 
Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research  

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!