WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSSบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

Today’s Report : BIG, DTAC, EA
Our Portfolio May 17 : CPF, GLOBAL, SYNEX, TACC, THANI

ระยะสั้นเก็งกำไรลักษณะลงซื้อ-ขึ้นขาย ระยะกลางยาวรอซื้อเพิ่มตามแนวรับ

  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ยังขยับบวกขึ้นได้อีกเล็กน้อย แต่ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1570 จุดได้เนื่องจากยังจับตาดูการประชุม OPEC และรายงานการประชุม FED ขณะที่แรงซื้อจากทั้งฝั่งสถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นเริ่มเบาบางลง แต่ยังซื้อสุทธิพอสมควรตลาดฟิวเจอร์ส
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET index จะยังแกว่งตัวในแดนบวกได้ต่อเนื่องโดยรายงานการประชุม FED ระบุว่ากรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าเหมาะสมที่จะขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ซึ่งเป็นไปตามคาด แต่เริ่มพูดถึงเรื่องการวางแผนลดขนาดงบดุล $4.5 ล้านล้านดอลลาร์ เราคาดว่ากรอบการบวกวันนี้จะยังจำกัดโดยยังต้องต้องติดตามการประชุม OPEC วันนี้ซึ่งตลาดคาดว่าจะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอย่างน้อย 6 เดือน ขณะที่ด้านเทคนิคมีแนวต้านบริเวณ 1570-1575 จุด ซึ่งคาดว่ายังไม่สามารถทะลุผ่านได้ในระยะสั้นเนื่องจากดัชนีปรับตัวขึ้นมากว่า 2% จากจุดต่ำในสัปดาห์ที่แล้ว
  กลยุทธ์ : ระยะสั้น Trading ในกรอบ 1560-1575 จุดในลักษณะลงซื้อขึ้นขาย ระยะกลาง-ยาว Let Profit Run และทะยอยซื้อเพิ่มตามแนวรับ
  แนวรับ 1563-1560 , 1555 จุด
  แนวต้าน 1569-1570 , 1575 จุด
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : SCN, PTG, CPN (buyback)
  Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$228ล้าน นำโดยไต้หวัน US$128ล้าน เกาหลีใต้ US$96ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$3ล้าน ขณะที่ไหลออกเวียดนามประเทศเดียว US$9ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่อาจชะลอตัวลงหลังตลาดมั่นใจมากยิ่งขึ้นว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในเดือนมิ.ย.นี้

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) Fed ไม่สร้างเซอร์ไพร้ส Flow มีทิศทางไหลเข้า กรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องควรลดขนาดงบดุลของเฟดที่ปัจจุบันสูงถึง US$4.5 ล้านล้าน (ก่อน QE1 อยู่ที่ US$9 แสนล้าน) และส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอในช่วงที่ผ่านมาเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว ตลาดจึงคาดความเป็นไปได้ 100% ที่จะปรับขึ้นเดือนหน้า และยังเชื่อว่าปรับขึ้น 3 ครั้งในปีนี้ ทั้งนี้ การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในช่วง 2 ครั้งที่ผ่านมาไม่กระทบ SET index


(0) ระวังน้ำมันพักฐานหลังประชุมโอเปกซึ่งไม่น่าพลิกล็อค กลุ่มผู้ผลิตน่าจะขยายเวลาลดการผลิตออกไปอีก 9 เดือนจาก มิ.ย.นี้เป็น มี.ค 2018 เพื่อลดสต๊อกน้ำมันโลกให้อยู่ระดับค่าเฉลี่ย 5 ปี ทั้งนี้ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลต่อราคาน้ำมันนักเพราะราคาปัจจุบันสะท้อนประเด็นนี้แล้ว แต่หากมีการลดมากกว่า 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน จะเป็น Positive surprise แต่เชื่อโอกาสน้อย ราคาน้ำมันจึงมีโอกาสถูก sell in fact ระยะสั้นๆ
(+) BIG การประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ทำให้เราสบายใจต่อการเติบโตของตลาดกล้อง Mirrorless และภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมมากขึ้น และคาดว่าจะเห็น BIG ทำตลาดเชิงรุกในธุรกิจพิมพ์ภาพดิจิตอลใน 2H17 และด้วยฐานกำไรที่ต่ำในปีก่อน ทำให้กำไรช่วงที่เหลือของปีเติบโตอย่างก้าวกระโดด Y-Y ราคาหุ้นที่ปรับลงทำให้ PE ปีนี้ลดลงเหลือเพียง 17 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตลาดที่ 20 เท่า และต่ำกว่ากลุ่มสินค้าไอทีที่ 25 เท่า ยังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 6.90 บาท


(+) EA กำไรที่น่าประทับใจใน 1Q17 คิดเป็น 22% ของประมาณการกำไรทั้งปีของเรา แนวโน้มกำไร 2Q-3Q17 มีทิศทางดีขึ้นตาม High season และการทยอย COD ของโรงไฟฟ้าพลังงานลมอีก 90MW ปลาย 2Q17 และมีโรงไฟฟ้าพลังงานลมอีก 260MW จะ COD ในปีหน้า ทำให้ EA เป็นหุ้น growth stock เราคาดกำไรโต 35% ในปีนี้และ 40% ปีหน้า การเติบโตปี 2019 อาจสูงกว่าที่คาด (+35% Y-Y) ขึ้นกับความสำเร็จของโครงการแบตเตอรี่สำรองไฟฟ้า ราคาหุ้นปัจจุบันมี PEG เพียง 0.7 เท่า ยังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 33 บาท
(-) DTAC ได้เป็นคู่ค้าของ TOT ในคลื่น 2300MHz อายุ 8 ปี (สิ้นสุดปี 2025) คาดทำสัญญาและเริ่มให้บริการใน 4Q17 โดยต้องจ่ายค่าตอบแทนปีละ 4,510 ล้านบาทคิดเป็น 188 ล้านบาทต่อ 1MHz ต่อปี ไม่ถูกนัก อยู่ตรงกลางระหว่างคลื่น 1800MHz ของ ADVANC และ TRUE ที่ประมูลได้ที่ 148 ล้านบาทต่อ 1MHz ต่อปี และ 2100 MHz ของ ADVANC ที่เช่าจาก TOT ที่ 260 ล้านบาทต่อ 1MHz ต่อปี เราคาดเบื้องต้นว่าอาจทำให้ผลประกอบการของ DTAC ปีหน้าขาดทุน 1-1.5 พันล้านบาท และ DTAC ยังจำเป็นต้องประมูลคลื่น 1800 MHz เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน ยังคงแนะนำขาย ราคาพื้นฐาน 30 บาท แม้จะรวมคลื่นทั้ง 2300MHz และ 1800MHz ราคาพื้นฐานขยับขึ้นเป็น 35-40 บาท ยังเต็มมูลค่าอยู่ดี

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
24-25พ.ค. - การประชุม OPEC และ Non-OPEC
25 พ.ค. - เกาหลีใต้:ธนาคารกลาง (BoK)ประชุม
26 พ.ค. - สหรัฐ: 1Q17 GDP
29 พ.ค. - ไทย:ดุลการค้า (เม.ย.)
30 พ.ค. - ฝรั่งเศส:ยอดขาย
31 พ.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน เม.ย.
- จีน:Manufacturing PMI (เม.ย.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ และอัตราการว่างงาน (เม.ย.)
- สหรัฐ: Fed Beige Book
1 มิ.ย. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ค.),อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
-จีน: Caixin China PMI Manufacturing (พ.ค.)
- สหรัฐ:การจ้างงานภาคเอกชน (พ.ค.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวก จากรายงานการประชุมเฟดเดือนพ.ค.ที่สอดคล้องกับที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้า โดยเฟดส่งสัญญาณจะขึ้นดอกเบี้ยและลดงบดุลบัญชีของเฟดหากเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง
(0) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่เฝ้าติดตามรายงาน Fed Minute ขณะที่มีความกังวลต่อการประกาศเพิ่มระดับการเฝ้าระวังภัยการก่อการร้ายสู่ระดับสูงสุด หลังเกิดเหตุระเบิดในอังกฤษ
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกในกรอบแคบๆตามทิศทางตลาดโลก
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางแข็งค่า โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.29-34.33 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. ปิดลบ 0.11 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 51.36 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยถูกกดดันจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ที่ลดลงน้อยกว่าคาด ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่เฝ้าจับตาการประชุม OPEC Non-OPEC ในวันที่ 25 พ.ค.นี้
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดลบ 2.40 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,253.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตลาดคาดการณ์เฟดจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า โดย FedWatch เพิ่มขึ้นเป็น 83% จาก 79% ในวันจันทร์ที่ผ่านมา

Contact person : Jitra Amorntham
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!