- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 22 May 2017 18:56
- Hits: 2174
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
ขึ้นต่อ
วันนี้ คาดดัชนีฯ Sideways up แนวรับ 1,545 จุด ต้าน 1,559 จุด (+) คลังเตรียมเสนอ ครม.คง VAT 7% ต่ออีก 1 ปี (+) คาดหุ้น Oil related นำดัชนีฯขึ้น
สัปดาห์ที่แล้วดัชนี ลงทดสอบบริเวณแนวรับ EMA 200 วัน (1,527 จุด) ก่อนจะรีบาวด์ขึ้นทดสอบแนวต้าน Trend line 1,550 จุด
คาดสัปดาห์นี้ดัชนีฯมีลุ้นผ่านแนวต้าน 1,550 จุด คาดกรอบแนวรับ 1,540 แนวต้าน 1,560 จุด ปัจจัยหนุน คือ หุ้นบูลชิพส่วนใหญ่ (BLS Universe) ที่รายงานกำไร 1Q17 พบดีกว่า BLS คาดไป 20% โดยเราไม่ได้ปรับประมาณการกำไรและเปาหมายดัชนีฯลง ขณะที่คาดเม็ดเงินจากแรงขายปรับพอร์ตหุ้น กลาง-เล็กที่กำไรต่ำกว่าคาด มีโอกาสจะหมุนเข้าลงทุน ในหุ้นบูลชิพและ หุ้นกลาง-เล็ก ที่กำไรดี-หรือมีพัฒนาการกำไรที่ดีขึ้น แทน
ส่วนกลยุทธ์ลงทุนระยะสัปดาห์เรายังคงเน้นหุ้น commodity น้ำมัน น้ำตาล ในพอร์ต โดยพอร์ตลงทุนระยะสัปดาห์มีหุ้น PTT PTTEP KSL BRR (BRRเพิ่มเข้ามาใหม่ในสัปดาห์นี้) สำหรับหุ้นอื่น เราแนะนำตามพื้นฐานกำไรที่ดีขึ้นใน 1Q17 และเรามองกำไรจะดีต่อเนื่องใน 2Q17 หรือที่มีพัฒนาการกำไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เช่น COM7 UTP MONO GIFT SPALI D (D เพิ่มเข้ามาใหม่ในสัปดาห์นี้
หุ้นแนะนำวันนี้ SUPER แนวรับ 1.64 บ. ต้าน 1.75/1.8 บ. Stop loss 1.6 บ. D ดักหลุด Cash balance วันศุกร์นี้ แนวรับ 8.6 บ. ต้าน 9.15 บ. Stop loss 8.5 / หุ้นน้ำมัน PTTEP รับ 93.5 บ. ต้าน 96.5 บ. Stop loss 93 PTT รับ 391 บ. ต้าน 398/400 Stop loss 388
รายงานวันนี้
(+) CK (**upgrade**) เราเชื่อว่าภาพที่ชัดเจนขึ้นของงานประมูลที่จะเกิดขึ้น และมูลค่าจากสัญญาใหม่ที่ช่วยหนุน Backlog ของ CK ทำให้เราเชื่อว่าเป็นเวลาที่ดีที่จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน CK โดยโครงการประมูลที่จะกิดขึ้นจะมาจาก 1) รถไฟรางคู่ หัวหิน-ประจวบฯ มูลค่า 8.4 พันล้านบาท E-auction วันที่ 27 ก.ค., 2) รถไฟรางคู่ นครปฐม-หัวหิน มูลค่า 8.5 พันล้านบาทและ 7.4 พันล้านบาท (2 สัญญา) คาดจะประมูลใน 2H17 และสำหรับโครงการรถไฟรางคู่อีก 10 โครงการที่เหลือมูลค่า 7.3 หมื่นล้านบาท คาดจะมี E-auction ช่วง 1Q18 ในด้านของรถไฟฟาสีม่วงใต้มูลค่า 1.31 แสนล้านบาทคาดจะเข้า ครม. เพื่อนุมติในไม่ช้า ซึ่งคาดจะใช้เวลาอีก 7-8 เดือน ก่อนที่จะประกาศผู้ชนะงาน สำหรับ Backlog ของ CK YTD บริษัทได้เซ็นสัญญามูลค่า 2.8 หมื่นล้านบาท และคาดจะเข้าทำสัญญา M&E มูลค่า 1.96 หมื่นล้านบาทสำหรับ MRT Blue line หลังจากผ่านการอนุมัติของจากผู้ถือหุ้นของ BEM ในวันที่ 12 มิ.ย. หลังจากเสร็จสินคาด Backlog ของ CK จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ 9.8 หมื่นล้านบาท ซึ่ง 2.6-2.7 หมื่นล้านบาทจะรับรู้เป็นรายได้ใน 2Q-4Q17 จากประเด็นบวกข้างต้นเราเชื่อว่า CK จะหนุนให้ CK ขึ้นไปเทรดที่ระดับ +1SD จากค่าเฉลี่ยระยะยาว PBV เราปรับราคาเปาหมายขึ้นมาที่ 30.5 บาท และปรับคำแนะนำจาก ถือ เป็น ซื้อ
(+) BJC (**upgrade**) เรามองว่า BIGC เป็นปัจจัยหนุนให้เห็นการฟนตัวในช่วง 2H17 จาก SSS ที่คาดจะพลิกฟนตัวแรง จากกลยุทธ์การคัดเลือกสินค้าที่เน้นอาหารสดและของใช้ในบ้าน ประกอบกับแผนการขยายสาขา BigC hypermarkets 9 แห่ง และ BigC markets 2 แห่ง และ mini BigC 200 แห่ง ในปีนี้ รวมถึงปีหน้าจะเริ่มการขยายในต่างประเทศ โดยจะเปิดในกัมพูชาเป็นแห่งแรก เรคาคาดจะส่งผลให้ BJC เป็น supply chain ค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดใน ASEAN ประกอบกับ valuation PE ปี 2017-18 ที่ 31 และ 25 เท่า เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ซื้อ ราคาเปาหมาย 48 บาท
(+) กลุ่มธนาคาร สินเชื่อโดยรวมในเดือน เม.ย. เติบโต 0.4% MoM, 0.1% YTD และ 2.3% YoY หนุนโดยกลุ่ม corporate และ retail โดย BAY มีอัตราการเติบโตของสินเชื่อดีที่สุดในเดือนนี้ +1.4% MoM ตามมาด้วย TMB +1.1% MoM และ TCAP +1% MoM สำหรับสินเชื่อของ KBANK และ BBl สินเชื่อมีการเติบโตเล็กน้อยที่ 0.7% MoM และ 0.6% MoM ตามลำดับ ในขณะที่ TISCO, SCB และ KKP สินเชื่อปรับตัวลดลง 1.1%, 0.2% และ 0.2% MoM ตามลำดับ เรามองว่ากลุ่มธฯคารที่เป็น retail-driven อย่าง BAY, TISCO, KKP และ TCAP จะมีอัตราการเติบโตของสินเชื่อได้ดีต่อเนื่อง (โดยเฉพาะส่วน HP แลพ Personal loan) ใน 1H17 เราประเมินกำไร 2Q17 คาด BBL, TISCO และ BAY จะมีกำไรเติบโต YoY แข็งแกร่งที่สุด โดยคาด +19%, 16% และ 11% YoY ตามลำดับ หนุนโดยการตั้งสำรอง LLPs ที่น้อยลงและบริหาร OPEX ได้ดี โดยรวมเรายังชอบ KKP, TCAP และ TISCO ที่สุดในกลุ่มตามมุมมองที่ดีของกลุ่ม HP
(+) MINT เรามีความเชื่อมั่นในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของกำไรในปี 2017 จาก Synergies และผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการลงทุนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจะเริ่มเห็นผล เรายังเชื่อว่าราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวเพ่มขึ้น เนื่องจาก สัดส่วนการถือครองของต่างชาติ (ตอนนี้ 45%) อยู่ในระดับที่ใกล้กับช่วงการเกิดระเบิดใน กทม. เดือน ส.ค. 2015 (จาก Peak ที่ระดับ 50% ใน 2Q16) อีกทั้งธุรกิจหลักยังเติบโตได้ดีในเดือน เม.ย. ซึ่งแม้ว่าฐานของรายได้ Food ใน ปีที่แล้วจะสูงจากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล แต่เราเชื่อว่า SSS ของ Food จะยังเติบโตได้ดี 1% YoY ในขณะที่ผู้เล่นรายอื่นๆคาด SSS ติดลบ YoY และ Organic RevPar คาดเติบโตเป็นระดับสองหลัก ในเดือน เม.ย. นอกเนหือจากนั้นยังมีปัจจัยหนุนจากการพลิกกลับมาเติบโตของ RevPar สำหรับโรงแรมในมัลดีฟในเดือน มี.ค.เม.ย. เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และชื่นชอบที่สุดในกลุ่ม ราคาเปาหมาย 42 บาท
Key takeaways from analyst meeting
(+) TICON ประเด็นจากการเข้าร่วมประชุมออกมาในเชิงบวก โดยมีประเด็นหลัก 1) ผลการดำเนินงานใน 2Q17 คาดจะเติบโตได้ YoY และ QoQ หนุนโดยการปรับตัวเพ่มขึ้นของอัตราค่าเช่า และพื้นที่ให้เช่า 2) คาดจะมีกำไรพิเศษจากการขายที่ดินเพิ่มเติม 3) แผนงานกับกลุ่ม FPHT คาดจะเห็นความชัดเจนใน 3Q17 และ 4) โครงการ JV ในอินโดนีเซียประเมินอัตราการใช้ที่ 100% หลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยรวมเราเชื่อว่ามุมมองระยะยาวยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามเรายังไม่เห็นปัจจัยบวกระยะยสั้นจากกิจกรรมการลงทุนในประเทศและแผนงานกับ FPHT เรายังคงคำแนะนำ ถือ
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) กระทรวงการคลังเบรก สนช.หัวทิ่มชงรัฐบาลขึ้นภาษีแวตอีก 1% "สมชัย" สวนเรื่องเก่า สศค.เคยศึกษาแต่เก็บเข้ากรุไม่ใช้คุยอี-เพย์เมนท์โกยแสนล้าน เข้าคลังไม่พึ่งรีดภาษี "อภิศักดิ์" ชงครม.ต่ออายุ 1 ปีคงแวต 7% (ที่มา ไทยรัฐ)
(*) GFPT CPF TFG เชียงใหม่-เลยเป็น'เมืองบาดาล' ฟาร์มไก่กำแพงเพชรท่วมตาย-นับแสนตัว (ที่มา ไทยรัฐ)
(*)"แบงก์ชาติ" ระบุชัด "อนันต์" ขาดคุณสมบัติบอร์ดแบงก์ ต่อเมื่อหน่วยงานรัฐกล่าวโทษในคดีทุจริต รอ "ดีเอสไอ" เรียกรับทราบข้อกล่าวหา 7 มิ.ย.นี้ พร้อมระบุพบผู้เกี่ยวข้อง 8 กลุ่ม ด้าน "ควอลิตี้เฮ้าส์" แจงไร้ผลกระทบ (ที่มากรุงเทพธุรกิจ)
(+/-) Opportunity day และการประชุมนักวิเคราะห์ในสัปดาห์นี้: คาดหุ้นเช่น WORK RJH ORI (ประชุมนักวิเคราะห์) ที่กำไรออกมาดีในไตรมาสแรก และ Consensus จะมีโอกาสปรับประมาณการณ์ขึ้นได้ หลังประชุมกับผู้บริหารคาดจะเป็นหุ้นที่ Outperform ตลาด
ตารางการประชุม Opportunity day
จันทร์ 22 พค. UV ITEL ILINK AMATA BPP BANPU ACAP
อังคาร 23 พค. PTT PTTEP PTTGC TOP GPSC GGC AMATAV
พุธ 24 พค. MGT JUBILE FORTH PTG TTA
พฤหัส 25 พค. BCPG AMA TRT APCO CHO ERW VGI
ศุกร์ 26 พค. BA TVD JSP BAFS AH
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) คาดราคาน้ำมันดิบมีโอกาสรีบาวด์ต่อในระยะสัปดาห์: รมว.คูเวต ระบุให้การสนับสนุนแนวคิดของ ซาอุดิอาระเบีย และ รัสเซีย ในการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปถึง 1Q18 พร้อมกับคาดการณ์ว่า สมาชิกกลุ่มโอเปกจะให้การสนับสนุนการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตดังกล่าวเช่นกันในการประชุมวันที่ 25 พ.ค. ทั้งนี้ กลุ่ม โอเปก ได้ตกลงปรับลดกำลังการผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน เหลือ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2017 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในกลางปีนี้
(+) ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าในสัปดาห์หน้าจะเรียกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และกรมบัญชีกลาง สรุปมาตรการทั้งหมดที่จะให้กับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งจะเริ่มให้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป (ที่มา แนวหน้า)
(-) วันจันทร์ ญี่ปุน ส่งออก เดือน เมย.คาด +6.6% จาก 12% y-y. ไต้หวัน ส่งออก เมย. คาด +6.4% จาก 12.3% y-y. (ที่มา Bloomberg)
(0) อังคาร US New home sales เมย. คาด 6.15 แสนยูนิต จาก 6.21 แสนยูนิต, เยอรมนี GDP 1Q17 2nd คาด +0.6% q-q. เยอรมนี ifo Business climate พค. คาด 113.1 จาก 112.9, สิงคโปร์ CPI เมย. คาด 0.5% จาก 0.7% y-y. ฮ่องกง CPI เมย.คาด +1.6% จาก +0.5% y-y. ไต้หวัน Industrial production เมย. คาด +2.5% จาก 3.2% y-y. (ที่มา Bloomberg)
(+) พุธ US Existing home sales เมย. คาด +5.7 mn คงที่, FOMC Meeting minutes พค. Euro PMI manufacturing พค. คาด 56.5 จาก 56.7 EU PMI composite คาด 56.7 จาก 56.8, ประชุม กนง. คาดคงดอกเบี้ย 1.5% (ที่มา Bloomberg)
(+) พฤหัส UK GDP 1Q17 2 คาด +0.3% จาก 0.3% ประชุมธนาคารกลางเกาหลีใต้ คาดคงดอกเบี้ย 1.25%, สิงคโปร์ GDP 1Q17 คาด +2.7% จาก 2.5% y-y. (ที่มา Bloomberg)
(0/+) ศุกร์ US GDP 1Q17 2 คาด +0.9% จาก 2.1% q-q. US Durable goods order ex trans คาด +0.4% จาก 0.8% m-m. ญี่ปุน Core CPI เมย. คาด +0.3% จาก 0.2% ไต้หวัน GDP 1Q17 คาด 2.6% y-y. สิงคโปร์ Industrial production เมย.คาด +6% จาก 10.2% y-y.(ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค