- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 22 May 2017 18:30
- Hits: 1873
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่แล้ว 'กลุ่มพลังงานผลักดันตลาด'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังซาอุดิอาระเบียและรัสเซียขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันถึงเดือน มี.ค. 61 ขณะที่กลุ่มแบงก์ใหญ่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25-0.5% เพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจและ SME ทำให้กลุ่มอสังหาได้รับผลประโยชน์ ทั้งนี้ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มที่ปรับเพิ่มขึ้นนำตลาดได้แก่ กลุ่มอสังหา +1.8% WoW, กลุ่มพลังงาน +1.4% WoW ขณะที่กลุ่มแบงก์ -0.3% WoW ส่งผลให้ SET Index ปิดตลาดวันศุกร์ที่ระดับ 1,549.64 จุด (+0.2% DoD และ +0.4% WoW) ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 34,180 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA +141.82 จุด (+0.69%) จากการคลายความกังวลความขัดแย้งด้านการเมืองสหรัฐฯที่จะกระทบกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ
(+) หุ้นยุโรป CAC40 +0.66% DAX 0.39 และ FTSE100 +0.46%
(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมายืนเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลได้อีกครั้ง +2.0% อยู่ที่ 50.33 ดอลลาร์/บาร์เรล จากคูเวตสนับสนุนแนวคิดให้ขยายเวลาการปรับลดกำลังการของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันที่จะสิ้นสุดลงในช่วงกลางปีนี้ โดยการประชุมจะมีขึ้นในวันพฤหัสนี้ (25พ.ค.) แม้ว่าการรายงานตัวเลขแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯจะยังเพิ่มขึ้นอีก 8 แท่นสู่ระดับ 720 แท่น
(+) ราคาน้ำตาลดิบเบอร์ 11 +2.6%DoD มาอยู่ที่ 16.62 Cents/Pound
(+) ญี่ปุ่นรายงานตัวเลขดุลการค้าเดือนเม.ย. เกินดุล 4.82 แสนล้านเยน ส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้น 7.5%YoY ขณะที่นำเข้าเพิ่มขึ้น 15.1%YoY
(-) ราคาทองคำที่ตลาด COMEX +0.06% มาอยู่ที่ 1,253.60 ดอลลาร์/ออนซ์
(-) BDI ลดลง 1 จุด (-0.1%) มาอยู่ที่ 956 จุด
(-) สรรพสามิตเตรียมเก็บภาษีใหม่ในเดือน มิ.ย.นี้ เหล้า เบียร์ บุหรี่ รถยนต์ ขยับเพิ่ม ซึ่งจะเริ่ม 16 ก.ย.นี้ เป็นต้นไป
(+/-) กระทรวงพาณิชย์เตรียมรายงานตัวเลขส่งออกเดือนเม.ย.วันนี้ (22 พ.ค.) เบื้องต้นคาดเพิ่มขึ้น 8.5%YoY
(+/-) กระทรวงการคลังเตรียมต่อเวลาคง VAT ที่ 7% อีก 1 ปี
(+/-) รองนายกเร่งออกกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ขายเดือน ก.ย. นี้ มูลค่าช่วงแรก 44,000 หมื่นล้าน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การเมืองในสหรัฐฯหลังประธานาธบดีสั่งปลดผู้ว่า FBI
การประชุมกลุ่มโอเปกวันพฤหัสที่ 25 พ.ค.
การประชุมกนง. วันพุธที่ 24 พ.ค.
ตัวเลขเศรษฐกิจประจำสัปดาห์ EU ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือนพ.ค. (23 พ.ค.) USA ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือน พ.ค. ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย. ( 23 พ.ค.) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน เม.ย. (26 พ.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน “เก็งรายตัว”
ประเมินดัชนีมีแนวโน้มแกว่งตัวบวก เราคาดว่าตลาดจะได้โมเมนตัมบวกจาก Commodities ที่เริ่มฟื้นตัวหลังจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวทะลุ แนวต้านทางจิตวิทยาที่ 50 $/bbl เราแนะนำเก็งกำไรกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน และเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่มีแนวโน้มผลกำไรใน 2Q60 เติบโต QoQ เช่น K,PLANB, IRPC,SAPPE,MALEE,SAWAD,MTLS สำหรับกรอบในการเก็งกำไรในระยะสัปดาห์อยู่ที่ 1,540-1560 มองปัจจัยภายในประเทศยังจำกัด แนะนำเก็งกำไรสั้นในหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะหนุน สำหรับกลยุทธ์ระยะกลางเราแนะนำถือเงินสดมากขึ้น จากที่เรายังคงกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจของไทยที่เติบโตในระดับต่ำ ขณะที่ไม่มีมาตรการภาษีกระตุ้นการใช้จ่าย เหมือนในปีก่อน
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
K เก็งกำไร
อยู่ระหว่างเจรจารับงานตกแต่งภายในโครงการ One Bangkok
ตลาดคาดผลประกอบการฟื้นตัวใน 2Q60 จากการรับรู้รายได้จากธุรกิจตกแต่งภายในมากขึ้น โดยสิ้น 1Q60 บริษัทมี Backlog ที่ 700 ลบ.
PK เก็งกำไร
ตลาดคาดกำไรช่วง 2H60 เติบโตโดดเด่นจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวและการขยายตลาดต่างประเทศ
รายงานผลประกอบการ 1Q60 ฟื้นตัวจากปีก่อน สร้างความคาดหวังต่อผลประกอบการที่เด่นต่อเนื่อง
ปัจจุบันซื้อขายกันที่ระดับ PER Trailing 14.96 เท่า แม้ว่าในช่วง 2Q59 จะมีกำไรสุทธิเพียง 7.94 ลบ. เทียบกับ 1Q60 รายงานกำไร 79 ลบ.
ทีมวิเคราะห์