- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 17 May 2017 19:53
- Hits: 9847
'เลือกซื้อ/ถือด้วยค่าบวก'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มีปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้มีรีบาวด์ 8.93 จุดปิดที่ 1546.35 นำโดยกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี ซึ่งตอบรับข่าวที่ว่าซาอุฯกับรัสเซียหนุนให้ขยายเวลาลดการผลิตไปถึงมี.ค.61 และการเข้าซื้อหุ้นขนาดกลาง-เล็กแนวโน้มดีที่ราคาอ่อนลงมาแล้ว
• คาดราคาน้ำมันดิบมี Downside risk น้อยลงหลังซาอุฯ รัสเซีย หนุนให้ขยายเวลาลดปริมาณผลิตไปสิ้นมี.ค.61 โดยมีคูเวตช่วยหนุน (คาดกรอบ BRENT ระยะสั้น 47-57 US$/bbl) จับตาผลประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน
• กำไรสุทธิ 1Q60 (SET+MAI) +21%YoY, +44%QoQ เป็น 2.86 แสนล้านบาท แต่ถ้าไม่รวมกำไรกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี พบว่ากำไรสุทธิจะ +2%YoY, +27%QoQ สะท้อนให้เห็นว่ากำไรภาคธุรกิจส่วนใหญ่เติบโตไม่มาก
+ TKN : แม้ 1Q60 จะทำกำไรได้น้อยกว่าคาด แต่เชื่อว่ากำไรจะดีขึ้นหลังโรงงานใหม่ผลิตได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (1Q อยู่ในช่วงทดสอบ)ผนวกกับนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัว ราคาหุ้นที่อ่อนลงเป็นจังหวะซื้อ เราคาดการณ์กำไรปีนี้โต 33% และเพิ่มกว่า 30% ต่อในปี 61 ให้ TP 27 บาท+ COM7 : ยอดขายโทรศัพท์มือถือเติบโตแกร่ง ขณะที่ยอดขายแลบทอปฟื้นตัว เร่งขยายพื้นที่การตลาดไปยังกลุ่มลูกค้านักศึกษาและภาคธุรกิจมากขึ้น และเข้าไปเป็นพาร์ทเนอร์ธุรกิจกับเทสโก้โลตัสด้วย คาด EPS ปี 60 +44% และปีหน้า +21% แนะนำซื้อ ให้ TP 13.50 บาทสำหรับ ASIAN ราคาหุ้นปรับขึ้นมาแล้ว 18% นับตั้งแต่เราแนะนำซื้อและเป็นหุ้น Dark Horse ของเดือนพ.ค.60 การเล่นรอบแนะนำหาจังหวะขายทำกำไรรอบสั้น สำหรับลงทุนระยะกลาง-ยาว ราคาเป้าหมายตามพื้นฐานอยู่ที่ 9.40 บาทหุ้นกลยุทธ์ (พื้นฐานดี) แนะนำทยอยซื้อสะสมวันนี้เป็น COM7
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ การซื้อใหม่ยังเน้นตามด้วยค่าบวกเป็นสำคัญ แนวต้าน 1550-1560 แนวรับ 1530สำหรับการ SCAN หุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ THANI, SYNTEC, INTUCH, ASIAN, WORK ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ HANA, BH หุ้นแนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะ Take Profit คือ TISCO, SAWAD, EA, MTLS, MALEE หุ้นหลุด List คือBDMS
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ :
- สหภาพยุโรป : ยอดขายรถยนต์ในยุโรปร่ววลงในเดือนเม.ย.60
สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ยุโรป (ACEA) เปิดเผยว่ายอดขายรถยนต์ลดลง 6.6% สู่ระดับ 1.1 ล้านคันในเดือนเม.ย.60โดยได้รับผลกระทบจากช่วงวันหยุดในเทศกาลอีสเตอร์ ทั้งนี้ยอดขายในอังกฤษร่วงกว่า 20% ในเยอรมนี, อิตาลี และฝรั่งเศสลดลงน้อยกว่า 10% สำหรับงวด 4M60 ยอดขายรถยนต์ในยุโรปเติบโต 5% แบรนด์ที่ลดลงมากคือ โฟล์คสวาเกน (-14%) ออดี้ (-10%) บีเอ็มดับบลิว (-6%), เดมเลอร์ (-2.7%) เรโนลด์ (-2.6%) ส่วนเฟียตไครส์เลอร์ทรงตัว
• ยูโรโซน : GDP ขยายตัว 0.5%QoQ ใน 1Q60 เท่ากับรายงานเบื้องต้น
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่าจีดีพีงวดไตรมาส 1/60 ขยายตัวที่ +0.5%QoQ และ+1.7%YoY เท่ากับตัวเลขเบื้องต้นและคาดการณ์ของตลาด (ไตรมาส 4/59 +0.5%QoQ และ +1.8%YoY)
+ สหรัฐ : การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นดี
เฟดรายงานว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรม +1.0% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.57 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ +0.3%
• ตลาดหุ้นสหรัฐ : ดัชนีปิดทรงตัว...กังวลการปฏิรูปภาษีและลงทุนจะถูกกระทบจากปัญหาการเมืองตลาดกังวลว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐอาจจะกระทบต่อการผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษีของทรัมป์ ทั้งนี้สื่อรายงานว่าทรัมป์ได้เปิดเผยข้อมูลลับให้กับรัสเซีย และทรัมป์ทวีตข้อความว่าเขาให้ข้อมูลกับรัสเซียเพื่อมนุษยธรรมเพราะต้องการให้รัสเซียดำเนินการต่อสู้กับกลุ่ม ISIS ได้มากขึ้น...ปิดตลาดดัชนี DJIA อยู่ที่ 20,979.75 จุด ลดลง 2.19จุด ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,400.67 จุด ลดลง 1.65 จุด แต่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,169.87 จุด เพิ่มขึ้น 20.20 จุด หรือ+0.33% หนุนโดยผลประกอบการ
-/• สัญญาน้ำมันดิบ : ปิดอ่อนลงเล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 19 เซนต์ หรือ -0.4% ปิดที่ 48.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 17 เซนต์ หรือ -0.3% ปิดที่ 51.65 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะแรงขายทำกำไร จับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันวันที่ 25 พ.ค.นี้
+ สัญญาทองคำ : ปรับขึ้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 6.40 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ระดับ 1,236.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ปัจจัยหนุน คือ ค่าเงิน US$ อ่อนลงหลังการเมืองสหรัฐคุกกรุ่นขึ้นอีกรอบ
ปัจจัยในประเทศ :
• ครม.ยังไม่พิจารณารถไฟฟ้าสายชมพู-เหลืองเมื่อ 16 พ.ค.60
ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 16 พ.ค.60 ยังไม่มีการพิจารณาอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. วงเงิน 53,519 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง30.4 กม. วงเงิน 51,931 ล้านบาท เนื่องจากคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นว่าข้อเสนอซองที่ 3 ซึ่งเป็นข้อเสนอเพิ่มเติมที่ไม่เคยมีในมติครม.มาก่อนและยังไม่มีรายละเอียด จำเป็นต้องมีการศึกษาให้รอบคอบก่อน
+ BEM (ราคาปิด 7.20 บาท) : คาดกำไรปี 60-61 เติบโตแกร่ง
บริษัทประกาศกำไร 1Q60 โตเล็กน้อย 1% y-o-y และ 19% q-o-q ที่ 706 ล้านบาท ถือว่าสอดคล้องกับที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้า ที่เติบโตดี q-o-q เป็นไปตามปัจจัยฤดูกาล แต่เติบโตน้อย y-o-y เพราะดอกเบี้ยจ่ายสูงขึ้นจากโครงการทางด่วนส่วนขยายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกและกำไรตามส่วนได้เสียลดลง แม้รายได้เติบโตสูง 23% y-o-y ก็ตาม สำหรับแนวโน้มที่เหลือของปียังสดใส สืบเนื่องจากการเริ่มโครงการใหม่ๆ คือ บริหารเดินรถสายสีม่วงและทางด่วนส่วนขยายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก โดยเฉพาะการเชื่อม 1 สถานีคือ เตาปูน-บางซื่อ ที่จะแล้วเสร็จในปี 60 นี้จะช่วยเพิ่มผู้โดยสารได้อีกจำนวนมาก เพราะจะสามารถให้บริการได้ครบวงของเส้นทางรถไฟฟ้าสีม่วงมาเชื่อมกับสายสีน้ำเงินแบบสมบูรณ์ คาดกำไรปี 60-61 เติบโต 33% และ 36% ตามลำดับ ทาง DBSV ยังคงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 8.60บาท
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]