- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 17 May 2017 19:29
- Hits: 2544
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
การเมืองสหรัฐวุ่นรอบใหม่
คาดหุ้นไทยไม่ไปไหนไกลวันนี้ในทิศทางเดียวกับหุ้นทั่วโลก นักลงทุนกังวลเพิ่มขึ้นว่าประธานาธิบดี Trump จะไม่อาจผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สัญญาไว้ได้หลังจากมีข่าวว่าเขาเปิดเผยข้อมูลอันเป็นความลับของทางราชการต่อรัสเซีย และเขาได้สั่งให้อดีตหัวหน้า FBI ยุติการสืบสวนกรณีที่รัสเซียเข้ามาเกี่ยวโยงกับการเลือกตั้งของตัวเขาเอง ซึ่งเรื่องหลังอาจเข้าข่ายแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ปัจจัยภายในประเทศวันนี้โดยรวมเป็นบวก การเบิกจ่ายงบประมาณ 7 เดือนแรกเป็นไปตามเป้า คิดเป็น 61% ของงบประมาณรวมของปี จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดือน เม.ย.พุ่ง 7% 4 เดือนแรกโตปานกลาง 2.9%
หุ้นเด่นวันนี้ : HANA (ราคาปิด 30.75 บาท; ราคาเป้าหมาย Bloomberg 51.56 บาท)
บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) น่าจะเกาะกระแสอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ที่มีแนวโน้มกลับเป็นขาขึ้น Gartner บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยชั้นนำของโลกได้คาดว่ารายได้ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์เท่ากับ 3.86 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 60 หรือเติบโต 12.3% เทียบปีก่อนเพราะสภาพตลาดที่ดีขึ้นตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 59 HANA ประกอบธุรกิจประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCBA), วงจร lC และ Microdisplay ตัวเลขกำไรไตรมาส 1 ที่ออกมาเติบโตถึง 69% YoY และ 29% QoQ เพราะบรรยากาศอุตสาหกรรมที่ดีขึ้นและการประหยัดต่อขนาดจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทน่าจะดีขึ้นตามลำดับจากการเพิ่มสัดส่วนในสินค้าประเภทยานยนต์และการแพทย์ อุปสงค์ต่อชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์น่าจะแข็งแกร่งอยู่จากการที่ค่ายรถยนต์เพิ่มฟังก์ชั่นการทำงานโดยอัตโนมัติของรถยนต์ซึ่งจะต้องใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จำพวกเซ็นเซอร์รวมถึงอุปกรณ์วัดเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ และจากการที่ผู้คนมีความตระหนักเรื่องสุขภาพมากขึ้นโดยเฉพาะสังคมผู้สูงอายุทำให้อุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์น่าจะมากขึ้นเรื่อยๆ HANA ยังน่าจะได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาทเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐเนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed
ขณะที่ดอกเบี้ย ธปท. ยังต่ำ อีกทั้งยังเป็นหุ้นปันผลที่น่าสนใจเนื่องจากอัตราปันผลตอบแทนปี 60 เฉลี่ยของนักวิเคราะห์สูง เท่ากับ 4.79% HANA มีโรงงานกระจายอยู่ที่ลำพูน ในจีนและในสหรัฐ HANA ยังเตรียมเปิดโรงงานใหม่ที่เกาะกง กัมพูชา ซึ่งจะผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แบบง่าย ดังนั้นต้นทุนค่าแรงจะลดลงได้อีกเพราะค่าแรงที่กัมพูชาต่ำกว่าไทยและจีน ช่วยให้เหลือกำลังการผลิตในโรงงานเดิมเพิ่มขึ้นเอาไว้สำหรับผลิตสินค้าที่ใช้แรงงานน้อยกว่า ซึ่งน่าจะช่วยดันอัตรากำไรให้สูงกว่าเดิมได้ และยังมีแผนปรับปรุงให้เป็นระบบอัตโนมัติ (automation) มากขึ้นซึ่งก็น่าจะผลักดันอัตรากำไรได้เช่นกัน ตามค่าคาดการณ์เฉลี่ยของ Bloomberg กำไรของ HANA น่าจะเติบโต 21% ปีนี้ และ 10% ในปี 61 HANA Price Pattern ของ HANA มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal บ่งบอกว่าจะเห็นการทำ New High โดยมีเป้าหมายแรกเพื่อทดสอบ High เดิมที่ 48.25 บาท และมีเป้าหมายแรกของการทำ New High อยู่ที่ 54.50 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ HANA มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 44 บาท (แนวต้าน: 45.50, 46.25, 47.25; แนวรับ: 44.75, 44.00, 43.00)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
การเบิกจ่ายงบประมาณเกินเป้าราว 2% ตั้งแต่เดือนต.ค.59-เม.ย.60 การเบิกจ่ายงบประมาณรวมอยู่ที่ 1.65 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 60.5% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย 1.94% และเพิ่มขึ้น 0.86% YoY ทำให้รัฐมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอัตราการเบิกถอนงบประมาณสำหรับปีบัญชีนี้จะเป็นไปตามเป้าที่ 92.9% (Bangkok Post)
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 7% ในเดือนเม.ย. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเผยว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 7% YoY โดยเป็นนักท่องเที่ยวจากจีน มาเลเซีย และญี่ปุ่น นอกจากนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวในช่วง 4 เดือนของปี 60 เพิ่มขึ้น 2.9% (Bangkok Post)
ธอส.อัดหมื่นล.หนุนคนจนมีบ้าน ธ.อาคารสงเคราะห์เตรียมวงเงิน 1 หมื่น ลบ. ออกแพคเกจสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ปีละกว่า 2% ประหยัดเงินต่อปี 0.75% นาน 3 ปี หวังช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยมีบ้าน 5 พันราย (มติชน)
ต่างประเทศ :
เหตุวุ่นวายทางการเมืองครั้งใหม่ของสหรัฐ ประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์ถูกรายงานอีกครั้งหนึ่งในเรื่องที่เขาเปิดเผยข้อมูลให้แก่รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียเกี่ยวกับแผนของสหรัฐที่จะดำเนินการกับกลุ่มก่อการร้ายไอเอส นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้สั่งให้ผู้อำนวยการ FBl James Comey ให้ปิดการสอบสวนที่ปรึกษาเรื่องความมั่นคงของเขาคนก่อน ซึ่งประเด็นเหล่านี้ทำให้คนตั้งคำถามว่าศาลจะสามารถต้านทรัมป์ได้รึเปล่า และอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของรัฐบาลในการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอีกด้วย (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ เมื่อวันอังคาร หลังการเผยแพร่ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านต่ำกว่าที่คาดและข่าวที่ว่าประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยข้อมูลลับให้แก่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงอยู่ที่ 98.855 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อวันอังคาร (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันอังคาร อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ้างอิงอายุ 10 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.293% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดทั้งบวกและลบเมื่อวันอังคาร โดยดัชนี S&P500 และดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลงเล็กน้อยจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ประกาศเมื่อวานนี้และความวุ่นวายทางการเมืองครั้งใหม่ที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย นอกจากนี้ ดัชนีแนสแดคปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งจากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงทางไซเบอร์ซึ่งจะทำให้บริษัทต่าง ๆ ใช้จ่ายเพื่อปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ของตนเองมากขึ้น (Reuters)
การผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 3 ปี การผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.7% YoY ในเดือนเม.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีมากที่สุดนับแต่เดือนม.ค. 58 เมื่อคิดเป็นฐานรายเดือน ผลผลิตจากโรงงานเพิ่มขึ้น 1% ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่เดือนก.พ. 57 ดัชนีสำหรับสินค้าคงทนและไม่คงทนของแต่ละตัวเพิ่มขึ้น 1% ในขณะที่ผลผลิตของส่วนอื่น ๆ เพิ่มขึ้น 0.7% การเพิ่มขึ้นของสินค้าคงทนเกิดจากรถยนต์และชิ้นส่วน ส่วนหมวดสินค้าไม่คงทนเพิ่มขึ้นจากอาหาร เครื่องดื่มและยาสูบ ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ สิ่งพิมพ์ และเคมีภัณฑ์ (US Federal Reserve)
ยอดสร้างบ้านใหม่ในสหรัฐลดลงเกินคาดในเดือนเม.ย. สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน แสดงถึงภาวะตลาดที่อยู่อาศัยชะลอตัว ทั้งนี้ ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านร่วงลง 2.6% ในเดือนเม.ย. MoM สู่ระดับ 1.17 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว จากระดับ 1.22 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.26 ล้านยูนิตในเดือนเม.ย. อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบรายปี ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนเม.ย. แม้กระนั้นการอ่อนตัวของการก่อสร้างที่อยู่อาศัยไม่มีผลมากที่จะเปลี่ยนมุมมองว่าเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นในช่วงต้นไตรมาส 2/60 เห็นได้จากตลาดแรงงานที่ตึงตัวอยู่และอัตราการว่างงานที่ต่ำสุดในรอบ 10 ปีอยู่ที่ 4.4% (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อวันอังคาร เนื่องจากผลประกอบการที่ออกมาน่าผิดหวัง นำโดยหุ้นธนาคารและหุ้นเภสัชกรรม (Reuters)
เศรษฐกิจยูโรโซนไตรมาส 1/60 ขยายตัวตามคาด โดยที่ปรับตัวขึ้น 1.7% YoY และ 0.5% QoQ เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ (Reuters)
นักวิเคราะห์คาดกำไรบริษัทโดยรวมไตรมาส 1/60 เติบโตแข็งแกร่ง 20% ข้อมูลของ Thomson Reuters l/B/E/S เผย จาก 76% ของบริษัทที่ได้รายงานผลประกอบการไปแล้วนั้น ประมาณ 66% แสดงกำไรดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด และกำไรโดยรวมเติบโต 20% YoY (Reuters)
เอเชีย :
คำสั่งซื้อเครื่องจักรหลักของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดไว้ในเดือนมีนาคม ทำให้มีข้อสงสัยว่าสัญญาณล่าสุดของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะยั่งยืนหรือไม่ การใช้จ่ายเงินทุนในช่วง 6-9 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 1.4% MoM ในเดือนมีนาคม ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์เพิ่มขึ้น 2.1% (Reuters)
จีนปรับระดับค่ากลางเงินหยวนที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน PBOC ตั้งจุดกึ่งกลางอย่างเป็นทางการที่ 6.8635 หยวนต่อดอลลาร์ก่อนที่ตลาดจะเปิดในวันพุธซึ่งเป็นระดับที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 17 ก. พ. ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนแอลง การปรับของวันพุธใกล้เคียงกับการตั้งค่าก่อนหน้าที่ 6.8790 (Reuters)
ผู้ควบคุมกฎของธนาคารกลางประเทศจีนได้เปิดเผยมาตรการการเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์การจัดการความมั่งคั่งของผู้ให้กู้ในวันจันทร์ คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการธนาคารแห่งประเทศจีนเปิดเผยแผนการที่จะเผยแพร่ข้อบังคับต่างๆในช่วงปลายปีนี้เพื่อควบคุมความเสี่ยงทางการเงิน(Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยวันอังคาร จากความร่วมมือของ OPEC ที่ระบุว่าการลดกำลังการผลิตจะต่อเวลาไปถึง มี.ค. 61 น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้าลบ 17 เซนต์ ปิด 51.65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าลบ 19 เซนต์ปิด 48.66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาน้ำมันร่วงในช่วงหลังการซื้อขาย หลังข้อมูลจาก APl ชี้ว่ามีการเพิ่มของสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันกลั่น น้ำมันดิบเพิ่ม 882,000 บาร์เรลสัปดาห์ที่แล้ว สวนกับนักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วง 2.4 ล้านบาร์เรล (Reuters)
ทองคำบวกต่อเป็นวันที่สี่ เพราะปัญหาการเมืองทำให้ดอลลาร์ร่วงขณะที่ยุโรปสถานการณ์ดีขึ้นทำให้ยูโรแข็งขึ้น ทองคำตลาดจรบวก 0.6% ปิด 1,237.85 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทองคำสหรัฐล่วงหน้าปิดบวก 0.5% ที่ 1,236.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 0-2680-5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 0-2680-5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 0-2680-5056
MISS. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042