WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KTBบล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily

ภาพตลาดวันวาน
  ดัชนีเปิดตลาดทรงตัวเท่ากับวันปิดก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดของวันที่ 1536.48 จุด ลดลง 0.94 จุด ก่อนที่จะค่อย ๆ ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1548.35 จุด เพิ่มขึ้น 10.93 จุด ทั้งนี้ได้แรงซื้อหลักจากหุ้นขนาดใหญ่-กลาง นำโดย PTT, SCC, SAWAD, PTTEP, EARTH, BANPU, PTG ทำให้มีกรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันที่ 11.87 จุด ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1546.35 จุด เพิ่มขึ้น 8.93 จุด (+0.58%) มูลค่าการซื้อขาย 54,852 ล้านบาท

ภาพตลาดวันนี้
  ดัชนีวานนี้สามารถฟื้นตัวได้ครั้งแรก หลังจากที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องมาตลอด 6 วันทำการที่ผ่านมา โดยมี Low รอบนี้อยู่ 1531 จุด (เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน) โดยวานนี้ขึ้นทำ High ที่ 1548 จุด พร้อมทำปิดที่ใกล้จุดสูงสุดของวันที่ 1546 จุด จากภาพดังกล่าวส่งผลให้เกิดโครงสร้างและกลุ่มกราฟแท่งเทียนกลับทิศ ทำให้มีภาพของการ Rebound ยังมีโอกาสไปต่อ 1560-1565 จุด แนวรับ 1535-1540 จุด แนวต้าน 1555-1560 จุด

แกว่งตัวผันผวน - มีโอกาส Rebound ต่อ
   Support 1545 // 1534 จุด Resistance 1570-1580 จุด

พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell

Company Update & News Comment
(-) BA : แนวโน้ม 2Q17 ยังเหนื่อย ปรับลดคาดการณ์กำไรปี 2017 ลง
(0) PTG : ขยายการลงทุนหนุนเสถียรภาพกำไร ลุ้นค่าการตลาดฟื้นระหว่างปี
(0) SAPPE : คาดผ่านพ้นช่วงต่ำสุดของปีมาแล้ว แต่คาดกำไรทั้งปี 2017 ทรงตัว


ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
     สัญญาณที่มาจากต่างประเทศ ยังเป็นช่วงของการรายงานผลประกอบการ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นทั้งสหัรฐฯ-ยุโรป ส่วนหนึ่งจะไปอิงกับผลการดำเนินงาน ปัจจัยบวกใหม่ๆมีน้อย แต่กลับมาความเสี่ยงด้านการเมืองของสหรัฐฯเข้ามาไล่ตั้งแต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯปลดผู้อำนวยการ FBI ไปจนถึงล่าสุด มีข่าวว่าไปเปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับกลุ่ม ISIS ให้กับรัสเซีย ที่ตลาดกังวล คือ อาจทำให้แผนการปฎิรูปหรือการออกกฎหมายของสหรัฐฯถูกชะลอออกไปเพราะอาจมีกระแสต่อต้านจากนักการเมืองด้วยกันเอง


      ในส่วนของปัจจัยต่างประเทศ เราประเมินว่า ตลาดปรับตัวขึ้นมามากในช่วงก่อนหน้านี้ และขาดปัจจัยหนุนที่จะทำให้เดินหน้าต่อไป ความเสี่ยงตัวเก่าลดลงแต่กลับมีของใหม่เข้ามาในตลาด ส่งผลให้นักลงทุน ยังถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ราคาสินทรัพย์ที่เป็นมาตรวัดความเสี่ยงของตลาด คือ ทองคำและพันธบัตร ต่างปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่เงินคอลล่าร์นั้นปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับเยนและยูโร ส่งผลให้ Dollar Index เช้านี้ อยู่ที่ 98.07 จุด ลดลง 0.8% จากวันที่ 15 พ.ค. ............. ผลที่จะมีต่อตลาดหุ้นไทยวันนี้ จะเป็นลบจากความเสี่ยงที่สูงขึ้นและดัชนีฯ Dow Jones ที่ปรับตัวลง ในขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลล่าร์ที่อ่อนค่า (บาทแข็ง) จะเป็นลบต่อหุ้นที่มีรายได้เป็นเงินดอลล่าร์ แต่จะเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัฑณ์


      ปัจจัยในประเทศ ผลประกอบการไตรมาสที่ 1 รายงานไปครบแล้ว กำไร 1Q ของบริษัทใน SET รวบรวมโดย KTBST อยู่ที่ 2.86 แสนล้านบาท +21.7 YoY และ +42.8% QoQ ด้านกำไรของ MAI อยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท+14.0% YoY และ 141.0% QoQ แม้ผลการดำเนินงานโดยรวมจะออกมาดี แต่ส่วนใหนึ่งมาจากหุ้นที่เป็นบวกจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ผลประกอบการของหุ้นกลุ่มอื่นๆ หลายตัวที่ออกมาทางลบจากที่มีการเติบโตมาก่อนหน้านี้ ค่า P/E ของ SET คำนวณจากกำไร 4 ไตรมาสย้อนหลัง จะอยู่ที่ 16.2 เท่า
ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ แม้ตลาดนอกบ้านจะปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่จากวานนี้ ที่มีแรงซื้อที่กลับเข้ามาในตลาด ในลักษณะของ Technical Rebound หรือมีการซื้อหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามาก ซึ่งเป็นปัจจัยเฉพาะตลาดหุ้นไทย เราอาจเห็นการเดินหน้าของดัชนีฯต่อไปแต่คาดจะยังมีแรงขายทำกำไรเข้ามาเป็นระยะ ดัชนีฯจะมีความผันผวนทั้งในแดนบวก-ลบ แต่ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นจากวันก่อน
กลยุทธ์การลงทุน เรายังมองตลาดเป็น Technical rebound จากราคาหุ้นส่วนใหญ่ที่ลงมามาก ในภาพรวม เรายังแนะนำให้ชะลอการลงทุน ........ การลงทุนในช่วงนี้ยังต้องใช้ความระมัดระวัง หรือเลือกลงทุนเป็นรายตัว แบบเก็งกำไรช่วงสั้น ...... สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิเช่น PTTGC, MTLS*, FSMART , SAMART* , IFS*
* เป็นหุ้นที่แนะนำในเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์

ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (16 พ.ค.) - SET Index ปิดที่ 1,546.35 จุด เพิ่มขึ้น 8.93 จุด หรือ +0.58% มูลค่าการซื้อขาย 54,852.02 ล้านบาท จากแรงหนุนราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นในระหว่างวัน อีกทั้งตลาดยังมีการรีบาวด์หลังหุ้นหลายๆตัวได้ปรับตัวลงมามากในช่วงที่ก่อนหน้านี้
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,979.75 จุด ลดลง 2.19 จุด หรือ -0.01% โดยตลาดได้รับความกังวลเล็กน้อย หลังมีข่าวว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เปิดเผยข้อมูลลับให้แก่รัสเซีย แต่ตลาดปรับตัวลงในกรอบจำกัดเนื่องผลประกอบการของบริษัทในตลาดฯยังคงมีความแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับ Stoxx Europe ปรับตัวลง -0.09% ปิดที่ 395.91 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ ลดลง 19 เซนต์ หรือ -0.4% ปิดที่ 48.66 ดอลลาร์/บาร์เรล จากแรงขายทำกำไรหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นถึงกว่า 2% ในวันจันทร์
เศรษฐกิจโลก - สหประชาชาติคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 2.7% ในปีนี้ และ 2.9% ปีหน้า เทียบกับ 2.3% ในปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตที่แข็งแกร่งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และการฟื้นตัวด้านการค้า และการลงทุน
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2014และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.3% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนมี.ค.
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านร่วงลง 2.6% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.17 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว จากระดับ 1.20 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค.
เศรษฐกิจยุโรป - สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/60 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่มีการเปิดเผยเมื่อต้นเดือนนี้
เศรษฐกิจจีน - ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้อัดฉีดเงิน 1.7 แสนล้านหยวนเข้าสู่ระบบการเงิน ผ่านการดำเนินงานทางตลาด หรือ OMO เพื่อบรรเทาภาวะสภาพคล่องตึงตัวรับฤดูกาลภาคธุรกิจชำระภาษี
เศรษฐกิจไทย - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เผยพอใจที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ในไตรมาส 1/60 เติบโตได้ 3.3% ตามที่สภาพัฒน์แถลง
น้ำมัน - สำนักงานพลังงานสากล หรือ IEA ระบุในรายงานประจำเดือนพ.ค.ว่า ตลาดน้ำมันกำลังทำการปรับสมดุล และกระบวนการดังกล่าวจะรวดเร็วขึ้นในระยะสั้น โดยกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะจัดการประชุมในวันที่ 25 พ.ค.

News Release :
"ทรู" ลูกค้า25.8ล้านราย ขึ้นแซงดีแทคเบ็ดเสร็จ ราคาเป้าหมาย 7.70 บาท-COM7 รับอานิสงส์รายได้เพิ่ม
+ TRUE บรรลุเป้าหมายขึ้นแท่นเบอร์ 2 แซงหน้า DTAC เป็นทางการแล้ว โชว์ฐานลูกค้ารวมกระฉูด 25.8 ล้านราย โบรกเกอร์เชียร์ "ซื้อ" หลังขานรับข่าวดี ให้ราคาเป้าหมาย 7.70 บาท ฟาก COM7 รับอานิสงส์ TRUE ลูกค้าเติบโตไม่หยุดไปด้วย(ข่าวหุ้น)

ฟินันเซียฯแนะ ขายหุ้น 'GL' ทิ้ง เป้าเหลือ 20 บ.
- บล.ฟินันเซีย ไซรัส ลดราคาเป้าหมายหุ้น GL จาก 32 บาท เหลือ 20 บาท หลังประชุมนักวิเคราะห์กับผู้บริหาร GL เผยเงินให้สินเชื่อที่ให้กับกลุ่มไซปรัส-สิงคโปร์ ทยอยลดลง กระทบต่อรายได้ ส่วนค่าใช้จ่ายสูงขึ้น และปรับลดคาดกำไรปีนี้ลง ยังไม่รวมความเสี่ยงตั้งด้อยค่าเงินลงทุนศรีลังกาที่ลงทุน 2.5 พันล้านบาท แต่มูลค่าตลาดเหลือ 855 ล้านบาท(ข่าวหุ้น)

เปิดโผ 6 หุ้นเทิร์นอะราวด์ พื้นฐานเด่นกำไรโต 100%
+ หุ้นเทิร์นอะราวด์ โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 1/60 เติบโต 100% หุ้น WICE-CSS-TPOLY-GUNKUL พื้นฐานสุดแกร่ง มั่นใจงบปี 60 เติบโตต่อเนื่อง ฟาก DEMCO-ETE อาการดีขึ้นพลิกกำไรสวย(ข่าวหุ้น)

IRPC กำไรแกร่งไม่หยุด ปีนี้อีบิทด้า 1.8 หมื่นล้าน
+ IRPC สุดแกร่ง มั่นใจปี 60 กำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมฯทะลุ 18,000 ล้านบาท รับผลตอบแทนจาก UHV เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ผลักดัน GIM จ่อเกิน 13 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ด้าน PTTGC มั่นใจปีนี้ยอดขายพุ่ง 4.4 แสนล้านบาท "โรงกลั่น-ปิโตรเคมี" เดินเครื่องเต็มกำลัง(ข่าวหุ้น)

'RS' ปรับโหมดธุรกิจลุยอัพคอนเทนต์ใหม่ดึงเม็ดเงินโฆษณาเพิ่ม
+ RS ปรับโหมดธุรกิจหันรุกด้านพาณิชย์-ค้าปลีกเต็มสูบ บิ๊ก "ดามพ์ นานา" เดินหน้าอัพฐานคอนเทนต์ใหม่ต่อเนื่อง หวังดึงดูดผู้ชมและเม็ดเงินโฆษณาให้มากยิ่งขึ้น(ทันหุ้น)

PAF ปักธงผลงาน Q2 สดใสชี้ดีลใหญ่จีน-อเมริกาเสียบ
+วงการชี้ PAF ส่งซิกไตรมาส 2/2560 แล่นฉิว หลังบินลัดฟ้าประเทศจีนเจรจารับงาน OEM รองเท้าและกระเป๋าให้กับแบรนด์ดัง 2 ราย มูลค่า 300 ล้านบาท แถมลูกค้าสหรัฐอเมริกาแบรนด์ KEEN ยังทยอยสั่งออเดอร์ต่อเนื่อง เด้งรับกลุ่มยานยนต์ฟื้นตัว หนุนค่าย HONDA-TOYOTA ป้อนดีล ลุยบุ๊กรายได้ธุรกิจเกษตรอินทรีย์ครั้งแรกการันตีทั้งปี 2560 โตสดใส(ทันหุ้น)

WHAUP รายได้ทะลุ 100% ปักเป้าโรงไฟฟ้า 542 เมกะวัตต์
+ WHAUP ลั่นปี 2560 รายได้ทำนิวไฮทะลุ 100% จากปีก่อนทำได้กว่า 2 พันล้านบาท บิ๊ก "วิเศษ จูงวัฒนา" ชี้ธุรกิจพลังงานโตฉลุย เตรียม COD โรงไฟฟ้า เพิ่ม 130 เมกะวัตต์ จากปีก่อน 350 เมกะวัตต์ ดันสัดส่วนรายได้ธุรกิจพลังงานพุ่ง 60% จากปีก่อนแค่ 40% ปักธงปี 2562 มีกำลังผลิตไฟฟ้า 542 เมกะวัตต์ ซุ่มลุยโครงการโซลาร์รูฟท็อปอีก 200 เมกะวัตต์(ทันหุ้น)

BCPG-THANI-BIG สุดปลื้มติดชาร์ตดัชนี MSCI รอบใหม่
+ BCPG-BIG-FSMART-PTL-THANI สุดปลื้ม เข้าดัชนี MSCI Global Small Cap มี Market Cap รวมกันกว่า 8.06 หมื่นล้านบาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2560 เป็นต้นไป โบรกส่องพื้นฐาน BCPG แกร่ง ไตรมาส 2/2560 โตแรง จ่อบุ๊กรายได้โรงไฟฟ้าเต็มทั้งไตรมาส กำลังการผลิตรวม 160 เมกะวัตต์ ทั้งในไทยและญี่ปุ่น(ทันหุ้น)

นักวิเคราะห์ : มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!