WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

GBXบล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market View : Selective Buy
Stock of the town : ROJNA AS
หุ้นแนะนำพิเศษ : PTTEP
หุ้นมีข่าว : CK BANPU SYNTEC PTT BIZ PSH APX
  ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงจากแรงขายกลุ่มธนาคารหลัง KTB นำร่อง ลดดบ.เงินกู้ให้ลูกค้ารายย่อยซึ่งกระทบต่อ NIM ประกอบแรงขายกลุ่มหุ้นที่ผลประกอบการ Q1/60 น่าผิดหวัง ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,537.42 จุด (-6.52 จุด) ด้วย Volume 4 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -509 ลบ. TFEX Net -6,363 สัญญา และตราสารหนี้ไทย Net -1,044 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
  +/- ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้น จากแรงหนุนราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น และการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มบริษัทรักษาความปลอดภัยในระบบไซเบอร์ หลังจากมีข่าวการโจมตีจากมัลแวร์เรียกค่าไถ่
  + ราคาน้ำมันดีดขึ้นตัวกว่า 2% ล่าสุด 49 US/Barrel ตอบรับข่าวซาอุฯและรัสเซียสนับสนุนให้ยืดเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันจนถึง Q1/2018
  + GDP Q1/2560 ของไทย +3.3% YoY และ +1.3% QoQ โดยได้อานิสงส์จากการผลิตโดยภาคเกษตร +7.7% ภาคนอกเกษตรกร + 2.9% การใช้จ่ายภาคเอกชน + 3.2% และการใช้จ่ายรัฐบาล + 0.2%
  + กพช. ประกาศเห็นชอบรับซื้อไฟฟ้าขยะชุมชน 50 MW กำหนด FiT ในอัตรา 3.66 บาทต่อหน่วย
  + Fund Flow ต่างชาติพลิกเป็น Net Sell ราว 5 ร้อยลบ. แต่ตั้งแต่ต้นพ.ค. ยังเป็น Net Buy 4 ร้อยลบ. และเงินบาทแข็งค่าขึ้นล่าสุด 34.5 Bath/USD.
  - ธนาคารขนาดใหญ่ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25 – 0.5% กดดันต่อ NIM
  +/- EARTH รับฟอร์ซเซลต้นเหตุกดหุ้นร่วงติดฟลอร์ "ขจรพงศ์" โดนไปด้วย ย้ำพื้นฐานธุรกิจไม่เปลี่ยน การันตีรายได้ปี 60 ทะลัก 30,000 ล้านบาท เติบโตขั้นต่ำ 50% ขานรับยอดขายถ่านหินกระฉูด 15 ล้านตัน (ข่าวหุ้น)
  ตลาดหุ้นไทยแม้ว่าจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น รวมถึง GDP Q1/60 ของไทยที่ขยายตัวดี อย่างไรก็ตามแรงกดดันจาก Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงผันผวน รวมถึงความกังวล NIM กลุ่มธนาคารที่อ่อนตัวลงหลังธนาคารขนาดใหญ่ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25 – 0.5% เป็นตัวถ่วงดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,530 – 1,550 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
  - กลุ่มพลังงาน อานิสงส์ราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น
  - SUPER ประกาศกำไร Q1/60 เติบโต และออกวอร์แรนต์ 5.47 พันล้านหน่วยให้ฟรีผถห.เดิม 5:1
  - IVL ราคาฝ้ายพุ่งทำ High ในรอบ 2 ปีล่าสุด 84.8 US/Tons
  - MSCI Thailand Small Cap เพิ่ม BCPG BIG FORTH PTL THANI เข้าคำนวน มีผลตั้งแต่ 31 พ.ค.

หุ้นแนะนำพิเศษ
PTTEP Analyst Meeting (ราคาปิด 94.75 Bloomberg Consensus 103.04)
ประเด็นบวก คาดเปิดประมูลแหล่งเอราวัณและบงกชภายใน ก.ค.-ส.ค.นี้ และคาดว่าจะทราบผลการประมูลใน 1Q61 โดยเรามีมุมมองเชิงบวกต่อ PTTEP เนื่องจากเป็นผู้รับสัมปทานเดิมและมีความชำนาญในการดำเนินธุรกิจมากว่า 20 ปี
คาดในไตรมาส 2/60 กำลังการผลิตจะทรงตัวใกล้เคียงไตรมาส 1/60 ที่ 3 แสนบาร์เรลต่อวัน ขณะที่คาดว่าราคาน้ำมันจะรีบาวด์กลับมาที่ 50-51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเพราะคาดว่ากลุ่มโอเปกจะขยายเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมวันที่ 25 พ.ค. นี้ นอกจากนี้ราคาขายก๊าซฯ มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น 5%QoQ สู่ 5.5 ดอลลาร์/MMBTU ตามราคาน้ำมันเตาที่ปรับตัวขึ้นเป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการ
รัฐบาลอินโดนีเซียฟ้อง PTTEP เรื่องน้ำมันรั่วจะไม่กระทบต่อแหล่งผลิตนาทูน่าของ PTTEP ในอินโดนีเซีย (เงินลงทุน 2.2 หมื่นล้านบาท) เนื่องจากเป็นคนละบริษัทกัน

หุ้นมีข่าว
CK (ราคาปิด 26.75 Consensus Bloomberg 35.63) รายงานกำไร 1Q60 ที่ 304 ล้านบาทหดตัว 6%YoY และหดตัว 12%QoQ โดยกำไรได้แรงหนุนหลักจากดอกเบี้ยรับ 170 ล้านบาทจากเงินให้กู้ยืม ไซยะบุรี พาวเวอร์ แม้ว่ารายได้หดตัว 10%YoY สู่ 8.04 พันล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลง 1.2% สู่ 7.5% เนื่องจากงานก่อสร้างส่วนใหญ่ใกล้แล้วเสร็จทำให้รับรู้รายได้ช้ากว่าช่วงกลางโครงการ
BANPU (ราคาปิด 17.60 Bloomberg Consensus 23.02) รายงานกำไร 1Q60 ที่ 1.4 พันล้านบาท +865%YoY แต่หดตัวลง 7%YoY โดยเมื่อเทียบเป็นรายปีกำไรเติบโตจากราคาขายถ่านหินที่ปรับตัวขึ้นจาก 48-64 ดอลลาร์ต่อตันสู่ 66-79 ดอลลาร์ต่อตัน ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นจาก 32% เป็น 38% อย่างไรก็ตามกำไรปรับตัวลงเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาสจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลงราว 700 ล้านบาทและมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 800 ร้อยล้านบาทเข้ามากดดันผลประกอบการ นอกจากนี้ได้ลงทุนเพิ่ม 16.25 ล้านดอลล์ในแหล่ง Marcellus shale หวังเพิ่มปริมาณผลิต-สำรองก๊าซฯ
SYNTEC (ราคาปิด 4.36 Bloomberg Consensus 5.20) รายงานกำไร 1Q60 ที่ 251 ล้านบาทเติบโต 9%YoY และเติบโต 49%QoQ โดยรายได้อยู่ที่ 1,986 ล้านบาทเติบโต 18%YoY แต่หดตัวลง 6%QoQ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจาก 1Q59 ที่ 17.5% และ 4Q59 ที่ 15% มาอยู่ที่ระดับ 21% เนื่องจากงานในปัจจุบันมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าในอดีตเพราะมีการปรับเพิ่มราคาตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
PTT (ราคาปิด 386 Bloomberg Consensus 412.74) รายงานกำไร 1Q60 ที่ 46.16 หมื่นล้านบาทเติบโต 95%YoY และ 142%QoQ เนื่องจากผลประกอบการบริษัทลูกเติบโตทั้ง PTTEP PTTGC และ TOP ที่เติบโต 1,508%QoQ 35%QoQ และ 22%QoQ ตามลำดับ อย่างไรก็ตามธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ มีผลประกอบการลดลงจากผลิตภัณฑ์ Propane Ethane และ LPG นอกจากนี้ยังมีผลขาดทุนเพิ่มขึ้นใน NGV จากต้นทุนก๊าซฯ ปรับตัวขึ้นจากไตรมาส 4/59
BIZ (ราคาปิด 4.12 ถือ ราคาเหมาะสม 4.80 โดยยังคงประมาณการกำไรที่ 63 ล้านบาทเนื่องจากมี Backlog แล้ว 73%ของประมาณการรายได้ปี 60 ที่ 640 ล้านบาท) รายงานกำไร 1Q60 ที่ 4.12 ล้านบาทเติบโต 1,064%YoY และเติบโต 400%QoQ เนื่องจากในไตรมาส 1/60 ไม่มีรายได้จากการจำหน่ายและติดตั้งเครื่องฉายรังสีมีเพียงการขายอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ และรายได้ค่าบริการรวม 48 ล้านบาท
ประเด็นลบหุ้นกลุ่มธนาคาร : ธนาคารขนาดใหญ่ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้มีผล 16 พ.ค. 60 เป็นต้นไป
KTB ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี MRR ลง 0.50% ต่อปีเหลืออัตรา 7.12% ต่อปี
KBANK ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MRR ลง 0.50 %เหลือ 7.12 %
BBL ลดอัตราดอกเบี้ย MOR หรืออัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชีลง 0.250% เหลือ 7.125% และปรับลดอัตราดอกเบี้ย MRR ลง 0.500% เหลือ 7.125%
SCB ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รวดทุกประเภท ตั้งแต่ MLR, MOR, และ MRR โดยปรับลดลง 0.25%
ความเห็น : การลดดอกเบี้ยเงินกู้มีผลให้ yield on loan และ NIM แคบลง ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง อย่างไรก็ดี คาดว่าจะช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของ NPL ได้บางส่วน เบื้องต้นประเมินว่าจะไม่ทำให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากที่ผ่านมาการปล่อยสินเชื่อยังชะลอตัว ฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำ “Underweight” หุ้นกลุ่มธนาคาร Top Pick ได้แก่ KBANK SCB
BCH จะลงทุนสร้างรพ.ใหม่ 4 แห่งในไทย-ตปท. มูลค่ารวม 3.33 พันลบ. หวังขยายพื้นที่การให้บริการเพิ่ม
BANPU ลงทุนเพิ่ม 16.25 ล้านดอลล์ในแหล่ง Marcellus shale หวังเพิ่มปริมาณผลิต-สำรองก๊าซฯ


สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : +85.33 จุด
  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,981.94 จุด เพิ่มขึ้น 85.33 จุด หรือ +0.41% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,149.67 จุด เพิ่มขึ้น 28.44 จุด หรือ +0.46% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,402.32 จุด เพิ่มขึ้น 11.42 จุด หรือ +0.48% โดยตลาดได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ และการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มบริษัทรักษาความปลอดภัยในระบบไซเบอร์ หลังจากมีข่าวการโจมตีจากมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อคอมพิวเตอร์ราว 200,000 เครื่องใน 150 ประเทศทั่วโลก

ตลาดน้ำมัน NYMEX : +1.01 USD/Barrel
  สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 1.01 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 48.85 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.ปีนี้ หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียเห็นพ้องที่จะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศผู้ผลิตรายอื่นๆดำเนินการตามเช่นกัน

Analyst Meeting : PS (ราคาปิด 21.70 ซื้อ ราคาเหมาะสม 25 )
  กำไรสุทธิ 1Q60 เท่ากับ 681 ลบ. -45%YoY เนื่องจากมีรายได้ 8,072 ลบ. -22%YoY เนื่องจากมีรายได้จากการโอนคอนโด -57%YoY อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 34.3% ลดลงจาก 35.7% ใน 4Q59 แต่ปรับดีขึ้นจาก 32.9% ใน 1Q59 การที่รายได้ที่ต่ำทำให้มี % คชจ.ขายและบริหารต่อรายได้เพิ่มขึ้น Net Margin ลดเหลือ 8% จาก 14% ใน 4Q59 และ 12% ใน 1Q59
  โครงการโรงพยาบาล “วิมุตติ” ยังไม่มีความคืบหน้ามากนักมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทำเลที่ตั้งย่านสะพานควายใกล้กับธนาคารออมสิน ขนาด 250 เตียง รองกับลูกค้าระดับกลาง โดยอยู่ระหว่างก่อสร้าง วงเงินลงทุน 4.9 พันลบ.
  ความเห็น : กำไร 1Q60 คิดเป็น 11% ของประมาณการทั้งปีที่ 6.2 พันลบ. เบื้องต้นฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการตามเดิม โดยมี 2.3 หมื่นลบ.ปลาย 1Q60 และมีแผนเปิดโครงการใหม่ รวม 66 โครงการเปิดแล้ว 11 โครงการเหลืออีก 55 โครงการที่จะเปิดในปีนี้ และแผนการโอนคอนโดจะมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปี

Analyst Meeting : APX (ราคาปิด 0.49)
  ปัจจุบันดำเนินโครงการโรงแรมและที่พักอาศัย 4 โครงการมูลค่ารวม 1.1 หมื่นลบ. ได้แก่ Movenpick พัทยา , Sherton ภูเก็ต , Four points by Sheraton จอมเทียน และ Hyatt Centric -ภูเก็ต โดยรายได้หลักในปีนี้เป็นโครงการ Movenpick ที่พัทยาในส่วนของที่พักอาศัยซึ่งยังขายไม่หมดเหลืออีกประมาณ 600 หน่วย มูลค่าคงเหลือราว 600 ลบ.เศษ
  1Q60 มีกำไร 2 ลบ. -93%YoY โดยมียอดขาดทุนสะสม 1,025 ลบ. ซึ่งผู้บริหารมีแผนลดพาร์จากเดิม 1 บาทเหลือ 0.5 บาทเพื่อล้างขาดทุนสะสมซึ่งคาดจะพลิกมีกำไรสะสมในปี 2018
  ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER 42 เท่า PBV 1.8 เท่าซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกุล่มที่ระดับ 18 เท่าและ 1.7 เท่า ตามลำดับ

Analyst – วิลาสินี บุญมาสูงทรง , ชัยยศ จิวางกูร, ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์-ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!