- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 16 May 2017 17:44
- Hits: 367
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : BANPU, DRT, GFPT, GL, LIT, MGT, SWC, TOP
Our Portfolio May 17 : CPF, GLOBAL, SYNEX, TACC, THANI
ระยะสั้นเก็งกำไรเล่นรอบรีบาวด์ ระยะกลาง-ยาวที่สะสมเพิ่มแล้วแนะนำถือต่อ
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ยังคงได้รับ Sentiment เชิงลบต่อเนื่องจากผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ที่ต่ำคาด โดยมีจังหวะปรับตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1530 จุดก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาและทำให้ดัชนีรีบาวด์ขึ้นได้บ้าง โดยฝั่งสถาบันในประเทศแม้จะยังขายสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องแต่เริ่มเบาบางลงเหลือ 500 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิทั้ง 3 ตลาดรวมกันเกือบ 3 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET index จะมีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นไปได้จากบรรยากาศการลงทุนเช้านี้ที่เริ่มเป็นบวกมากขึ้นทั้งแรงหนุนของราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวแรงหลังรัสเซียและซาอุดิอาระเบียเห็นพ้องในการขยายระยะเวลาปรับลดการผลิตไปจนถึง 1Q18 รวมถึงเชื่อว่าการปรับพอร์ตของสถาบันในประเทศน่าจะใกล้สิ้นสุดเนื่องจากบริษัทจดทะเบียนประกาศผลการดำเนินงานออกมาครบแล้ว ขณะที่ด้านเทคนิคหลังจากที่ดัชนีปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับบริเวณ 1530 จุดก็เริ่มเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาและทำให้รูปแบบของแท่งเทียนยังทำหางด้านล่างติดต่อกันซึ่งเริ่มดูเป็นบวกมากขึ้น คาดว่ามีโอกาสที่จะเกิด Technical Rebound กลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1545-1550 ได้
กลยุทธ์ : ระยะสั้น เก็งกำไรเล่นรอบรีบาวด์ ระยะกลาง-ยาว หลังจากซื้อเพิ่มบริเวณ 1530 จุดแล้วแนะนำถือต่อ
แนวรับ 1532-1530 , 1520 จุด
แนวต้าน 1542-1545 , 1550-1555
หุ้นเด่นทางเทคนิค : FN, TACC, COM7 (short)
Fund Flow --
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) GDP 1Q17 เร่งตัวขึ้น +3.3% Y-Y, +1.3% Q-Q เร่งตัวขึ้นจาก 4Q16 ที่ +3.0% Y-Y, +0.5% Q-Q จากการการบริโภคภาคเอกชนที่ดีขึ้นจากการใช้จ่ายในหมวดบันเทิง ท่องเที่ยว สื่อสาร และยานยนต์ เชื่อว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจาก Delay effect มาจากไตรมาสก่อน และรายได้เกษตรกรที่ดีขึ้น นอกจากนี้ การส่งออกเร่งตัวขึ้น เราคาดการขยายตัวของเศรษฐกิจใน 2H17 จะดีกว่าครึ่งปีแรกจากการเร่งตัวของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ยังคงประมาณการ GDP ปีนี้โต 3.4% ปี 2018 โต 3.6%
(-) 4 แบงก์ปรับดอกเบี้ยลง ได้แก่ KBANK, KTB, BBL และ SCB ปรับลดอัตราดอกเบี้ย MRR ลง 0.50% และ MOR ลง 0.25% (SCB ปรับลดทั้ง MLR MOR และ MRR ลง 0.25%) เพื่อสนองนโยบายภาครัฐ การลด MRR และ MOR กระทบต่อธนาคารที่มีพอร์ต SME และ รายย่อยมากที่สุด (MRR เป็นอัตราดอกเบี้ยที่คิดกับผู้ประกอบการ SME และลูกค้าบุคคล ส่วน MOR และ MLR เป็นอัตราดอกเบี้ยที่คิดกับผู้ประกอบการธุรกิจรายใหญ่) ได้แก่ KBANK, KTB, BBL ขณะที่ TISCO และ KKP ไม่ได้รับผลกระทบเพราะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนใหญ่เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่
(+) LIT กำไรน่าประทับใจ ดีกว่าคาด +20% Q-Q, +72% Y-Y จากสินเชื่อที่เติบโตแข็งแกร่งทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยังอยู่ในระดับสูง 7% และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีมาก แม้ NPL จะเพิ่มเป็น 3.85% จาก 3.22% ใน 4Q16 แต่บริษัทก็ตั้งสำรองเพิ่ม เราปรับกำไรปีนี้ขึ้น 12% เป็น +47% Y-Y ปรับเพิ่มราคาพื้นฐานเป็น 13 บาทจาก 12.30 บาท ยังคงแนะนำซื้อ
(+) GFPT จากประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ เรามีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มกำไรในช่วงที่เหลือของปีนี้จากจากการที่หลายประเทศประสบปัญหาไข้หวัดนก ทำให้คำสั่งซื้อไหลเข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้น ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบยังไม่ปรับขึ้นมากนัก และ GFPT ได้สต็อกล่วงหน้าแล้วอย่างน้อย 3 เดือน เราปรับกำไรปีนี้ขึ้น 14.6% เป็น +14% Y-Y ปรับเพิ่มราคาพื้นฐานเป็น 21 บาท จากเดิม 18 บาท แนะนำซื้อ และชอบที่สุดในกลุ่มไก่
(+) BANPU หากตัด forex gain กำไรปกติเติบโตดีตามคาด +62% Q-Q, +314% Y-Y เป็น 2,392 ล้านบาท หลักๆมาจากราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะเหมืองในออสเตรเลีย ช่วยชดเชยปริมาณขายที่อินโดนีเซียที่ลดลงเพราะเป็นหน้าฝน และชดเชยธุรกิจโรงไฟฟ้าที่กำไรลดลงเพราะต้นทุนถ่านหินเพิ่ม ปัจจุบันที่ราคาถ่านหินปรับลงเหลือ US$74/ตัน แต่เฉลี่ยตั้งแต่ต้นปียังอยู่ที่ US$82/ตัน สูงกว่าสมมติฐานของเราที่ US$80/ตัน และยังอยู่ในกรอบตามนโยบายของจีนที่ US$70-80/ตัน กำไรปีนี้ที่เราคาด 1.1 หมื่นล้านบาท +226% Y-Y จึงเป็นไปได้ ยังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 24 บาท
(-) GL เรายังคงแนะนำขาย ปรับลดราคาพื้นฐานลงเหลือ 20 บาทจากการปรับกำไรปีนี้ลง 20% เหลือ +10% Y-Y เพราะเงินให้สินเชื่อที่ให้กับกลุ่มไซปรัสและสิงคโปร์ (ลูกหนี้เงินกู้ยืม SME) จะทยอยลดลง แต่ค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นตามการขยายกิจการ ประมาณการของเรายังไม่รวมความเสี่ยงที่อาจต้องตั้งด้อยค่าเงินลงทุนที่ศรีลังกา
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
16 พ.ค.
- MSCI Semi-annual index review
- ยูโรโซน:ZEW Survey Expectations (พ.ค.), 1Q17 GDP
- สหรัฐ: Housing starts & Building permits (เม.ย.)
17 พ.ค.
- ยูโรโซน:อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.)
18 พ.ค.
- ญี่ปุ่น:1Q17 GDP (ตลาดคาด +1.8% annualized)
- ฟิลิปปินส์: 1Q17 GDP
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI)ประชุม
19 พ.ค.
- สิงคโปร์: 1Q17 GDP
23 พ.ค.
- ไทย:ยอดขายรถ (เม.ย.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (เม.ย.)
24 พ.ค.
- ไทย: กนง.ประชุม (คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5%)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Composite PMI (พ.ค.)
- สหรัฐ:ยอดขายบ้านเก่า (เม.ย.), FOMC Meeting Minutes
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวก นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นราว 2% และ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจากข่าวการโจมตีเรียกค่าไถ่ในระบบคอมพิวเตอร์
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก นำโดยกลุ่มพลังงานเนื่องจากมีแรงหนุนตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกตามทิศทางตลาดโลกเพราะได้แรงสนับสนุนจากราคาน้ำมัน
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางแข็งค่า โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในช่วง 34.44-34.52 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดบวก 1.01 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 48.85 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังทั้งซาอุฯ และ รัสเซียออกมาสนับสนุนการขยายระยะเวลาลดการผลิตไปถึงช่วงมี.ค.2018
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดบวก 2.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,230.00 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า การโจมตีเรียกค่าไถ่ในระบบคอมพิวเตอร์ และ การทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
Contact person : Jitra Amorntham
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research