- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 15 May 2017 18:39
- Hits: 950
'ซื้อใหม่เน้นค่าบวก'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์พักฐานต่อ ปิดตลาด -6.33 จุดที่ 1543.94 (ต่ำสุด 1537.43) โดยตลาดยังมี Sellon fact ต่อในช่วงรายงานกำไร 1Q60 แต่ก็เห็นการทยอยซื้อหุ้นที่คาดว่าจะมีแนวโน้มดีที่ราคาอ่อนลงมาบ้างแล้ว
• ตลาดหุ้นสหรัฐ : ความกังวลและความหวังต่อนโยบายและมาตรการของทรัมป์มีเข้ามาเป็นระยะ ผนวกกับการซื้อขายอิงรายงานกำไร1Q60 ทำให้ตลาดแกว่งในกรอบ เงินเฟ้อที่ขยับขึ้นหนุนโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยเฟด ดัชนีค่าเงินดอลลาร์แกว่าอยู่ที่ 99 ต้นๆ
+ กลุ่มโอเปกลดการผลิตลงเกินเป้าหมายที่ตกลงในเดือนเม.ย.60
- กำไรของธุรกิจที่อิงเศรษฐกิจภายในส่วนใหญ่เติบโตชะลอตัวลงในงวด 1Q60 เรายังคงคาดการณ์ EPS Growth ของตลาดหุ้นไทยปีนี้ที่ 4%
+ HANA : กำไร 1Q60 ฟื้นตัวแกร่ง (+76%YoY) หนุนโดย GPM ที่เพิ่มเป็น 16.1% จาก 12.3% ใน 1Q59 ดีกว่าคาด คำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่องโดย 3Q เป็นช่วงที่ดีสุดของปี ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปีนี้ 8% ฐานะการเงินเป็นเงินสดสุทธิ 12.7 บาท/หุ้น แนะซื้อ ปรับเพิ่ม TP เป็น 54 บาท
+ ASIAN : กำไร 1Q60 เท่ากับ 106 ล้านบาทเพิ่มก้าวกระโดดจาก 11 ล้านบาทใน 1Q59 เพราะการฟื้นตัวของธุรกิจกุ้ง หมึกส่งออก & อาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตแกร่งและมีมาร์จิ้นสูง รายได้จากการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น คาดกำไรทั้งปีนี้ +83% แนะซื้อ ให้ TP 9.40 บาท
+ MINT : ธุรกิจโรงแรม & อาหารฟื้นตัวดีใน 1Q60 ทั้งรายได้และมาร์จิ้น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มียอดขายที่ดีขึ้น แนวโน้มไปได้ดี โดยบริษัทอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา แนะซื้อ ให้ TP 46 บาทหุ้นกลยุทธ์ (พื้นฐานดี) แนะนำทยอยซื้อสะสมวันนี้เป็น HANA
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นลบ แต่มีโอกาสรีบาวด์ การซื้อใหม่จึงเน้นตามด้วยค่าบวกเป็นสำคัญ รับ 1540-1530 กรณีรีบาวด์มีแนวต้าน 1550, 1560
สำหรับการ SCAN หุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ KTB, SAWAD, EA, BDMS ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือTISCO หุ้นแนะนำไปและให้หาจังหวะ Take Profit คือ SCCC, DELTA หุ้นหลุด List ได้แก่ TCAP, BEC
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ :
• สหรัฐ : เงินเฟ้อเดือนเม.ย.เพิ่มตามคาด ยอดค้าปลีกเติบโต MoM แต่ก็ต่ำกว่าคาด
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) +0.2%MoM ในเดือนเม.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจาก -0.3% ในเดือนมี.ค. ส่วน Core CPI +0.1%MoM ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้สำหรับยอดค้าปลีก +0.4%MoM ในเดือนเม.ย. หลังจาก +0.1%MoM ในเดือนมี.ค. และ -0.3%MoM ในเดือนก.พ.หนุนโดยยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น แต่ยอดขายในห้างสรรพสินค้าร่วงลง
• ตลาดหุ้นสหรัฐ : แกว่งแคบ
ดัชนี DJIA ปิดที่ 20,896.61 จุด ลดลง 22.81 จุด หรือ -0.11% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,390.90 จุด ลดลง 3.54 จุด หรือ-0.15% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,121.23 จุด เพิ่มขึ้น 5.27 จุด หรือ +0.09% โดยตลาดขาดปัจจัยกระตุ้น ความกังวลและความหวังต่อนโยบายและมาตรการของทรัมป์มีเข้ามาเป็นระยะ ผนวกกับการซื้อขายอิงรายงานกำไร 1Q60
• สัญญาน้ำมันดิบ : กลุ่มโอเปกลดการผลิตมากกว่าแผนในเดือนเม.ย. แต่อุปทานน้ำมันสหรัฐเพิ่มขึ้นต่อ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 47.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.28% ปิดที่ 50.91 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะรายงานของโอเปกระบุว่ากลุ่มโอเปกเดินหน้าลดการผลิตอย่างต่อเนื่องตามแผน โดยผลผลิตน้ำมันของกลุ่มฯเดือนเม.ย.ลดลงสู่ 31.73 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งหมายความว่าโอเปกลดการผลิตเกินกว่า 1.2 ล้านบาร์เรล/วันที่กลุ่มฯตกลงกันในการประชุมเดือนพ.ย.59ด้านเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 9 แท่น สู่ระดับ 712 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2015 และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 17 ติดต่อกัน
+ สัญญาทองคำ : ขยับขึ้นต่อ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.5 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่1,227.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ :
• KBANK (ราคาปิด 189.50 บาท) : ธุรกิจพร้อมแพย์ยังกระทบไม่มาก
ทาง KBANK เปิดเผยว่าในไตรมาส 1/60 ธุรกิจพร้อมเพย์กระทบรายได้ค่าธรรมเนียมต่ำกว่าคาด แม้คนลงทะเบียนสูงแต่ยังโอนเงินผ่านพร้อมเพย์น้อย ชี้ปี 60 ยังมีนโยบายตั้งสำรองค่าเผื่อฯในระดับสูง ส่วนหนี้เสีย SME จะพยายามคุมไว้ไม่เกิน 5.1% (NPL Ratio เฉลี่ยในสิ้นไตรมาส 1/60 อยู่ที่ 3.3% และมี Coverage ratio 135%) โดยรวมแล้ว DBSVประมาณการว่าปีนี้กำไรธนาคารจะเติบโตจำกัดมาก เพราะภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าทำให้ต้องระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อและตั้งสำรองฯสูงต่อ ในเชิงกลยุทธ์แนะนำซื้อจังหวะอ่อนตัว โดยให้ราคาพื้นฐานปีนี้ไว้ที่ 208 บาท (อิงP/BV ปี 60 ที่ 1.4 เท่า)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]