WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

SET Index: แนวรับสำคัญ 1530 ถ้าหลุดแนวรับถัดไป 1510
  SET Index: 1536.77 ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลุดแนวรับที่ 1550 จุดลงไป ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวลดลงในระยะสั้น น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวในระยะสั้นแนวรับสำคัญที่ 1530 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่ถ้าไม่มีแรงซื้อกลับเข้ามา จะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1510 จุด และมีแนวต้านที่ 1550 จุด
  แนวต้าน : 1540 และ 1544
  แนวรับ : 1534 และ 1530

EARTH = 2.00 / 2.40, CPF = 24.40 / 24.80, SCC = 500 / 514, PTT = 380 / 384, TKN = 19.20 / 19.80

IRPC (IRPC TB; THB 5.05) – ซื้อ
  แนวต้าน : 5.25 และ 5.30
  แนวรับ : 5.05 และ 5.00
  ราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่องค่อนข้างไปทดสอบแนวรับสำคัญของเส้นแนวโน้มขาขึ้น และเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้น น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวทาเงทคนิคที่แนวรับสำคัญ
  MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวลดลงต่ำกว่าแนวโน้มลง RSI ปรับตัวลดลงเข้าใกล้ระดับ 30
  แนะนำซื้อ IRPC โดยมีแนวรับที่ 5.05 และ 5.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.25 และ 5.30 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.96 ลงไป

Union Petrochemical (UKEM TB; THB 2.10) – ซื้อ
  แนวต้าน : 2.20 และ 2.30
  แนวรับ : 2.10 และ 2.06
  ราคาหุ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคในระยะสั้น พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องอย่างรุนแรง แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิค
  MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวลดลงทดสอบระดับ 50
  แนะนำซื้อ UKEM โดยมีแนวรับที่ 2.10 และ 2.06 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.20 และ 2.30 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.02 ลงไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

SET…ตลาดอาเซียน ยัง Laggard โดยเฉพาะไทย
  วันนี้ทาง ธปท. จะประกาศตัวเลข GDP Q1/17 ซึ่งคาดกันว่าจะออกมาดีในรอบ 4 ปี คือคาดจะโต 3.2% (YoY) และ 1.2% (QoQ) จากการฟื้นตัวของภาคส่งออก ท่องเที่ยวและบริโภคภายใน แต่ดูเหมือนจะสวนทางกับกำไร Q1/17 ของตลาด เหตุผลส่วนหนึ่งมาจากภาคที่มีการฟื้นตัวยังมีสัดส่วนในบริษัทจดทะเบียนต่ำหรือพูดง่ายๆ ว่ามีน้อย โดยเฉพาะภาคส่งออก
  ดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ในอาเซียน 4 ประเทศ เทียบดัชนีเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน จากรูปด้านซ้ายพบว่า Underperform กว่าภูมิภาคมากๆ โดยปกติมักจะ Outperform กว่าภูมิภาค เหตุก็มาจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มยังดำเนินงานไปอย่างเชื่องช้า หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เผชิญกับแรงขายรอบใหม่ ดัชนีกลุ่มที่ถือว่าขึ้นได้ดีมากๆ ในตอนนี้จะเป็นตลาดในเอเชียเหนือที่อิงการเติบโตกับเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี อย่างไรก็ตามความน่าสนใจของหุ้นในตลาดเกิดใหม่ (EM) ตอนนี้มีสูงขึ้นเรื่อยๆ ดูได้จากน้ำหนักการลงทุนที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 15 เดือน ขณะที่น้ำหนักตลาดหุ้นเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น เพิ่มสูงสุดในรอบ 5 เดือน (จากการสำรวจของ 47 กองทุนทั่วโลก(ประจำเดือน เม.ย.) ขณะที่ดัชนีตลาดยังไม่ไปไหน
  หากมาดูดัชนีตลาดหุ้นไทย (MSCI Thailand รูปดอลลาร์) เทียบภูมิภาคในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา (รูปด้านขวา) พบว่าปัจจุบัน ดัชนีตลาดหุ้นไทย ยัง underperform โดยดูจากสัดส่วนของดัชนี MSCI Thailand เทียบภูมิภาค ที่ลดลงเรื่อยๆ ประเด็นคือ สัดส่วนดังกล่าวจะต้องลงมาเท่าไร ถึงจะพอ หากดูที่ผ่านๆ มา สัดส่วนการลงที่แข็งๆ จะอยู่ที่ 0.64-0.63 แต่หากเกิดแรงกระแทกแรงๆ เข้ามา สัดส่วนดังกล่าวอาจจะลงไปใกล้ 0.62 โดยเรามองว่าสัดส่วนที่เป็นอยู่ เริ่มน่าสนใจ แต่หากเกิดแรงขายออกมาอีกจากเหตุผลการลดน้ำหนักของ MSCI หรือเหตุการณ์ในเกาหลี สัดส่วนดังกล่าวน่าจะลงมาที่ 0.62 ได้ ซึ่งจะอยู่ที่ดัชนีประมาณกรอบ 1530-1520 จุด
  น้ำหนักการลงทุนของ MSCI ซึ่งจะประกาศในวันพรุ่งนี้ ถือเป็นประเด็นสำคัญของตลาด เพราะหากถูกลดน้ำหนักในหุ้นใหญ่หรือตลาดรวม ดัชนีจะผันผวนทันที แต่หากทรงๆ หรือลดไม่มาก ก็ไม่น่าจะเป็นอะไรมาก เนื่องจาก ดัชนีเริ่มลงมารอรับข่าวไปบ้างแล้ว ตรงข้ามหากเกิดได้เพิ่มน้ำหนักตลาดรวมหรือหุ้นใหญ่ ดัชนีจะวิ่งขึ้นแรง กลุ่มอุตสาหกรรมที่เราแนะนำ เริ่มทยอยซื้อในกรอบดัชนี 1550-1540 จุด คือพลังงาน (SPRC IRPC PTT) ปิโตรเคมี (IVL PTTGC) อสังหาริมทรัพย์ (AP SPALI) สื่อสาร (ADVANC) ธนาคารพาณิชย์ (SCB BBL TISCO) และค้าปลีก(CPALL HMPRO) และอาหาร CPF
  ทิศทางดัชนีวันนี้คาดจะยังซึมๆ และแกว่งในกรอบแคบทั้งบวกและลบ เพื่อรอการประกาศน้ำหนักของ MSCI, ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีและปัญหาการโจมตีในโลกไซเบอร์ อย่างไรก็ตามแม้การประกาศตัวเลข GDP Q1/17 ที่คาดว่าออกมาดีคงไม่ส่งผลอะไรมากมายกับดัชนี แต่อาจจะมีแรงซื้อหุ้นที่ผลการดำเนินงานออกมาดีสลับเข้ามา วันนี้มองแนวรับ 1535-1530 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1550-1555 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BEAUTY SVI ESSO และ WORK

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]

บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

Morning Market Summary…
  SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,536.77 จุด ลดลง 7.17 จุด (-0.46%) มูลค่าการซื้อขาย18,773.50 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลงต่อเนื่อง เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกมาหนุนล่าสุดสภาพัฒน์เผยตัวเลข GDP 1Q17 ของไทยที่ 3.3% ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ ขณะที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีเหนือ

Afternoon Perspective…
  แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งตัวลง ภาพใหญ่ตลาดไม่ตอบสนองต่อผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ที่ออกมา โดยเฉพาะในหุ้นขนาดใหญ่ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นผลมาจากการที่ราคาหุ้นมีการปรับตัวขึ้นนำมาล่วงหน้า อย่างกลุ่มพลังงาน ซึ่งตลาดเริ่มซึมซับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันที่ลดลง อย่างไรก็ตามเรามองว่าตลาดเริ่มเข้าช่วงระดับราคาในการซื้อเก็งกำไรเล่นรอบ โดยมอง PTT IRPC TASCO น่าสนใจหลังราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาสู่ระดับที่มีความเสี่ยงลดลง

Technical Pick (PM) ...
  IRPC (IRPC TB; THB 5.05) – ซื้อ
  Union Petrochemical (UKEM TB; THB 2.10) – ซื้อ

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 – [email protected]/ [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!