- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 12 May 2017 19:24
- Hits: 3030
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : ติดตามประกาศงบ Q1/60
Stock of the town : ITEL SUPER
หุ้นแนะนำพิเศษ : BCPG
หุ้นมีข่าว : TM TSR TRC QH LPN
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงแรงจากแรงขายกลุ่มถ่านหินหลังราคาถ่านหินทรุดตัวต่ำสุดในรอบ 7 เดือน อีกทั้งมีแรงขายกลุ่มหุ้นที่ประกาศงบ Q1/60 แย่กว่าคาด ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,550.27 จุด (-10.04 จุด) ด้วย Volume 5.4 หมื่นลบ.โดย Foreign Net +2,437 ลบ. TFEX Net -9,642 สัญญา และตราสารหนี้ไทย Net +807 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+/- ตลาดหุ้น DJ อ่อนตัวลงเล็กน้อย จากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ รวมถึงกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
+/- BOE คงดอกเบี้ยที่ 0.25% และ QE ที่ 4.35 แสนล้านปอนด์ตามคาด
+ จำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 236,000 ราย
+ ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นล่าสุด 47.9 US/Barrel หลังอิรักและอัลจีเรียสนับสนุนการขยายเวลาปรับลดการผลิตน้ำมันของกลุ่มในและนอกโอเปกไปจนถึงสิ้นปี
+ Fund Flow ต่างชาติพลิกเป็น Net Buy 3 วันราว 3.5 พันลบ. และเงินบาททรงๆตัวล่าสุด 34.7 Bath/USD.
+ EU คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนจะขยายตัว 1.7% ในปีนี้ และ 1.8% ในปีหน้า อัตราการว่างงานในยูโรโซนจะลดลงสู่ 9.4% ในปีนี้ (จากระดับ 10.0% ในปีที่แล้ว) ก่อนที่จะลดลงต่อไปสู่ระดับ 8.9% ในปีหน้า
** ติดตามการประกาศงบ Q1/60 ของบริษัทฯซึ่งจะส่งผลให้ดัชนีมีความผันผวนในช่วงนี้
** วันประกาศงบ 12 พ.ค. RATCH / 15 พ.ค. TRUE PTT TOP CK
ตลาดหุ้นไทยยังคงมีปัจจัยบวก/ลบที่คละเคล้า โดยราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นรวมถึง Fund Flow ต่างชาติที่พลิกเป็น Net Buy 3 วันราว 3.5 พันลบ.เป็นบวกต่อทิศทางตลาด อย่างไรก็ตามความกังวล FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.ยังคงเป็นตัวถ่วงดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,540 – 1,560 จุด
กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- รัฐปรับเพิ่มการใช้ BIODIESEL จาก B5 เป็น B7 GGC EA BCP UAC
- 15 พ.ค. ประกาศ MSCI รอบใหม่ คาด TCAP ได้เข้าคำนวณ
- หุ้นที่คาดว่ากำไร Q1/17 เติบโต TOP WICE JWD LIT
หุ้นแนะนำพิเศษ
BCPG Analyst Meeting (ราคาปิด 13.50 Bloomberg Consensus 15.00)
รายงานกำไร 1Q60 อยู่ที่ 454 ล้านบาท +16%YoY (ไม่รวมการปรับปรุงกำไรใน 1Q59 อีก 223 ล้านบาท จากการซื้อ SunEdison Japan) และ +299%QoQ เนื่องจากมีกำไรจากการขายที่ดินและสิทธิ์ในโครงการ Suimei Japan 62 ล้านบาท นอกจากนี้ได้รับแรงหนุจากการ COD โรงไฟฟ้าโซลาร์สหกรณ์ 12 MW และโรงไฟฟ้าโซลาร์ญี่ปุ่นอีก 11 MW ทำให้มีกำลังการผลิตรวม 160 MW (ไทย 130 MW และญี่ปุ่น 30 MW)
เข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลม 20 MW (COD แล้ว 14.4 MW กำลังก่อสร้าง 5.6MW) ในฟิลิปปินส์ และเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่อินโดนีเซียอีก 182 MW (COD แล้ว 158MW และกำลังก่อสร้าง 24 MW) ซึ่งคาดว่ากระบวนการจะลงทุนจะแล้วเสร็จภายใน 2Q/60
ความเห็น แนวโน้มผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นจากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าโซลาร์สหกรณ์และญี่ปุ่นรวม 23 MW เต็มไตรมาหส อีกทั้งราคาขายไฟฟ้าปรับตัวขึ้นตามค่าผันแปรไฟฟ้า (Ft) เพิ่มขึ้นอีก 12.52 สตางค์ต่อหน่วยและมีโอกาสปรับขึ้นอีกครั้งช่วงเดือนต.ค.ตามราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับขึ้น(โซลาร์กำลังการผลิต 118MW เป็นรูปแบบ Adder) นอกจากนี้หากการเข้าลงทุนในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียแล้วเสร็จภายใน 2Q60 จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตามวิธี Equity Method ได้ในช่วงครึ่งปีหลังช่วยหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม
หุ้นมีข่าว
ปัจจัยลบกลุ่มถ่านหิน – ราคาถ่านหินปรับตัวลงสู่ระดับ 74 ดอลลาร์ต่อตันแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จากอุปสงค์ที่อ่อนแอลงของจีน 1)ความต้องการใช้ไฟฟ้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และ2) ราคาเหล็กรับตัวลง โดยสัญญาซื้อขายเหล็กล่วงหน้าส่งมอบเดือน ก.ย. ของจีนราคาแตะ 445 หยวนต่อตันแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ขณะที่อุปทานทรงตัวเพราะรัฐบาลจีนไม่ปรับลดวันทำงานของเหมืองถ่านหินลงจาก 330 วันทำการแม้ว่าจะผ่านช่วงที่มีความต้องการสูงสุดไปแล้ว
TM (ราคาปิด 3.36 ถือ ราคาเหมาะสม 3.78) รายงานกำไร 1Q60 อยู่ที่ 7.89 ล้านบาทเติบโต 4%YoY และเติบโต 87%QoQ โดยยอดขายเพิ่มขึ้น 7%YoY เป็นผลจากการขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งชดเชยต้นทุนขายที่ทรงตัวในระดับสูงที่ 59% เนื่องการการแข่งขันที่สูงทำให้ไม่สามารถปรับขึ้นราคาสินค้าได้ และชดเชยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับเพิ่มขึ้น 5 ล้านบาทจาก 1Q59 สู่ 51 ล้านบาทจากการเพิ่มขึ้นของพนักงานขายได้
TSR (ราคาปิด 4.92 ราคาเหมาะสม 7 บาท มีแนวโน้มปรับประมาณการลงเพราะกำไรคิดเป็นเพียง 15% ของประมาณทั้งปีที่ 130 ล้านบาท) รายงานกำไร 1Q60 อยู่ที่ 19 ล้านบาท -39%YoY เพราะอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลง 1.5%YoY สู่ 74% และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับตัวขึ้น 9%YoY อย่างไรก็ตามผลประกอบการ +43%QoQ เนื่องจากการตั้งสำรองหนี้สูญลดลง 23.5 ล้านบาทสู่ระดับ 45 ล้านบาท
TRC (ราคาปิด 1.28 ซื้อ ราคาเหมาะสม 1.53 บาทปรับลด diluted 12.5%) รายงานกำไร 1Q60 ขาดทุนสุทธิ 40 ล้านบาท -161%YoY และ -130%QoQ เนื่องจากรายได้ลดลง 14%YoY และอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลงจาก 15% สูระดับ 10% เนื่องจากรับรู้งานก่อสร้างโยธาเป็นหลัก และค่าใช้จ่ายในการบริหารปรับตัวขึ้น 43 ล้านบาท +52%YoY จากรับรู้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้มีรับรู้ผลขาดทุนจาก APOT อีก 29 ล้านบาทมากดดันผลประกอบการเพิ่มเติม
PTTGC (ราคาปิด 72 Bloomberg Consensus 78.34) รายงานกำไร 1Q60 ที่ 13,182 ล้านบาท +180%YoY และ+35%QoQ จากแรงหนุนจากธุรกิจอะโรเมติกส์ที่ส่วนต่างผลิตภัณฑ์พาราไซลีนและเบนซีนปรับตัวขึ้น 17% และ 59% ตามลำดับ และธุรกิจโอเลฟินส์ที่ปรับตัวขึ้นตามราคาผลิตภัณฑ์ MEG และ Butadiene ขณะทีธุรกิจโรงกลั่นผลประกอบการอ่อนตัวตามส่วนต่างน้ำมันดีเซล น้ำมันอากาศยาน และน้ำมันเตาที่ปรับตัวลง 2% 8% และ 87% ตามลำดับ
ประเด็นบวก PTTEP (ราคาปิด 95 Bloomberg Consensus 103.04) รมว.พลังงาน เตรียมเสนอครม.ในมิ.ย.พิจารณาประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณ เชื่อไม่กระทบแม้อาจล่าช้ากว่าแผน 1-2 เดือน
CPF (ราคาปิด 25 Bloomberg Consensus 38.18) ออกหุ้นเพิ่มทุน 1.55 พันล้านหุ้น ขายผถห.เดิม 5:1 ที่ราคา 25 บาท จะนำเงินจากการเพิ่มทุนใช้คืนเงินกู้-หุ้นกู้ 2.7 หมื่นลบ. และสำรองลงทุนในอนาคต 1.17 หมื่นลบ.
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : -23.69 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,919.42 จุด ลดลง 23.69 จุด หรือ -0.11% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,394.44 จุด ลดลง 5.19 จุด หรือ -0.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,115.96 จุด ลดลง 13.18 จุด หรือ -0.22%หลังจากบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ ซึ่งได้ฉุดหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
ตลาดน้ำมัน NYMEX : +0.50 USD/Barrel
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 47.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้แรงหนุนหลังจากอิรักและอัลจีเรียได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนการขยายระยะเวลาปรับลดกำลังการผลิตไปจนถึงสิ้นปีนี้
Analyst Meeting : QH (ราคาปิด 2.50 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 3.40 บาท)
ผู้บริหารเปิดเผยว่ากำไรสุทธิ 1Q60 จำนวน 653 ลบ.-4%QoQ -12%YoY เนื่องจากมีรายได้จากการโอนคอนโดฯน้อยมากเพียง 200 ล้านบาทเศษ ยอดขาย presale ทำได้ 3 พันลบ.คิดเป็น 17% ของเป้าทั้งปีที่ 1.8 หมื่นลบ. ปลาย 1Q60 มียอดขายรอโอน (backlog) ราว 5.7 พันลบ.มีกำหนดโอนในปีนี้ราว 3 .5 พันลบ.
ความเห็น : กำไร 1Q60 คิดเป็น 17% ของประมาณการกำไรทั้งปีที่ราว 3.8 พันลบ. เบื้องต้นฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 60 ตามเดิมเนื่องจากแนวโน้มกำไร 2H60 มีแนวโน้มสูงกว่า 1H60 จากแผนเปิดขายโครงการใหม่ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงปลายปี ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นน่าจะปรับดีขึ้นกว่าช่วง 1Q60
Analyst Meeting : LPN (ราคาปิด 11.20 ขาย ราคาเหมาะสม 10.80 บาท)
กำไร 1Q60 เท่ากับ 315 ลบ. -55%YoY โดยมีรายได้ 2.5 พันลบ.-79%YoY อัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวที่ 30.7% ปลาย 1Q60 มียอดขายรอโอน 5,061 ลบ. ส่วนที่จะโอนภายในปีนี้มีจำนวน 2.9 พันลบ.
ผู้บริหารยืนยันแผนเปิดขายใหม่ 12 โครงการในปีนี้มูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท ชัดเจนแล้ว 8 โครงการ คงเป้ายอดขาย presale ตามเดิมที่ 2 หมื่นล้านบาท 4M60 ทำได้ 5.9 พันล้านบาท คิดเป็น 29% ของเป้า
ความเห็น : กำไร 1Q60 คิดเป็น 21% ของประมาณการทั้งปีที่ 1.5 พันล้านบาทซึ่งหดตัว 30%YoY เบื้องต้นฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการตามเดิม เนื่องจากคาดกำไร 2H60 น่าจะมากกว่า 1H60 จากจำนวนโครงการที่เริ่มโอนจำนวน 6 โครงการใน 2H60 เทียบกับ 2 โครงการใน 1H60
Analyst – วิลาสินี บุญมาสูงทรง , ชัยยศ จิวางกูร, ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์-ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์