- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 12 May 2017 19:17
- Hits: 2767
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ประมาณการกำไรหุ้นใหญ่ดีขึ้น หุ้นเล็กปรับลดลง
แม้ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,437 ล้านบาท แต่หุ้นไทยมีแรงทำกำไรปรับลดลงแรงโดยเฉพาะในหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่ซื้อขายในระดับ PER สูง แต่รายงานผลการดำเนินงานออกมาต่ำคาด น้ำมันที่ฟื้นตัวก่อนถึงการประชุมโอเปค 25 พ.ค.นี้ ส่งผลบวกต่อบรรยากาศการซื้อขายและราคาหุ้นพลังงานต้นน้ำ (ซึ่งเรามองการปรับขึ้นเป็นโอกาสลดน้ำหนักกลุ่ม ENERGY) แต่การที่ SET Index ปรับลดลงต่ำ 1555 จุด ทำให้มีความเสี่ยงในการลงทดสอบ 1520-1530 จุด
ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน เรายังคงเลือกหุ้นที่เป็นเป้าหมายของการเพิ่มน้ำหนักของนักลงทุนสถาบัน เน้นกลุ่มปิโตรเคมี อาหาร และท่องเที่ยว ลดน้ำหนักโรงกลั่นและสื่อสาร รวมทั้งระวังแรงขายทำกำไรในหุ้นกลาง-เล็ก ที่อยู่ในระดับที่แพง อาจเกิด De-Rating // หุ้นแนะนำ CPN*, SCB /เก็งกำไร PSL*, BIGC*
ภาพรวมการรายงานงบ – คาดการณ์กำไรต่อหุ้นของ SET Index เพิ่มขึ้น ทั้งนี้เมื่อเราลองดูรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงประมาณ การในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าหุ้นขนาดใหญ่และกลางมีการปรับเพิ่มประมาณการ 0.44% และ 0.09% ขณะที่หุ้นเล็กมีการปรับประมาณการลง 1.42% โดยภาพรวมกลุ่มที่กำไรดีกว่าคาด ได้แก่ ปิโตรเคมี ค้าปลีก // ขณะที่การรายงานล่าสุด /กลุ่มที่รายงานผลประกอบการลดลงมาก – PTG, COMAN, ALLA / กลุ่มที่รายงานผลประกอบการดีขึ้น – SAWAD, MTLS, WORK, OISHI
ปัจจัยต่างประเทศ – หุ้นสหรัฐปรับลดลงจากการรายงานผลประกอบการกลุ่มค้าปลีกที่อ่อนแอและสมาชิกเฟดสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและพิจารณาปรับลดงบดุล ขณะที่ยุโรปรับตัวลดลงหลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลด GDP สหราชอาณาจักรสู่ระดับ 1.9% ในปีนี้ จากคาดการณ์ก.พ.ที่ระดับ 2.0% และคณะกรรมมาธิการยุโรป (EC) ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP เป็น 1.7% (จาก 1.6%) แต่ยังคงต่ำกว่าการเติบโตปีก่อนที่ 1.8% / น้ำมันดิบ WTI ปรับเพิ่มขึ้น 0.50 เหรียญสหรัฐฯ 1.1% จากสต็อคน้ำมันที่ลดลงและแถลงการณ์ของอิรักและแอลจีเรีย ซึ่งสนับสนุนการขยายเวลาการลดกำลังการผลิตของโอเปคไปจนถึงสิ้นปี
ระมัดระวัง De-rating ในหุ้นแพง – ตั้งแต่ต้นก.พ.เราเริ่มเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังหุ้น PER สูง เสี่ยงต่อการเกิด De-rating หรือการที่หุ้นอาจซื้อขายด้วย PER ลดลงอันเนื่องมาจากหุ้นหลายตัวมีราคาแพงเกินกว่าการเติบโต ซึ่งอาจทำให้หุ้นปรับลดลงแรง หากไม่สามารถรายงานกำไรเติบโตได้ตามตลาดคาด
สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ: 11 พ.ค. – ประชุมธนาคารอังกฤษ (BOE meeting) / 15 พ.ค. – MSCI Review / 25 พ.ค. – โอเปคประชุมเรื่องปรับลดกำลังการผลิต / 14 มิ.ย. – ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC meeting)
คำแนะนำทางกลยุทธ์: หุ้นไทย (SET Index) ทะลุกรอบล่างของช่วงการซื้อขาย 1555-1570 คาดทำให้เกิดโมเมนตัมในทางลง 25-30 จุด หรือเป็นแนวรับถัดไปที่ 1520-1530 โดยประมาณ เรายังคงเลี่ยง/ลดน้ำหนักกลุ่มที่มีความเสี่ยงถูกลดน้ำหนักหรือคำแนะนำการลงทุนลง ได้แก่ สื่อสาร การแพทย์ และโรงกลั่น
แนวรับ 1540/แนวต้าน : 1560 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%
ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์
หุ้นที่มีการเติบโตปี 2560 เด่น: TU, MAJOR, SQ, BANPU
หุ้นที่ผลงานผ่านจุดแย่สุด: MAJOR, SGP*, SIMAT, JWD*, TSR, TU
หุ้นเด่นปี 2560: BANPU, PTTEP, SCB, TU, STEC, DTAC*, PSTC*, KSL*, BA*
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH หรือหุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)