- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 12 May 2017 19:15
- Hits: 2778
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (12/05/60)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “ปรับลงแรง หลังงบ 1Q60 หลายตัวแย่กว่าคาด”ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดตลาดปรับตัวลงแรงสวนทางตลาดหุ้นภูมิภาคจากแรงขายทำกำไรโดยเฉพาะกลุ่มหุ้นที่ผลประกอบการช่วง 1Q60 แย่กว่าคาด โดยกลุ่มที่ปรับตัวลงแรงวานนี้ ได้แก่ กลุ่มวัสดุก่อสร้างปรับลง 2.4%DoD และกลุ่มอสังหาฯ ลดลง 1.9%DoD สวนทางกลุ่มค้าปลีกที่ปรับขึ้นกว่า 1%DoD นอกจากผลประกอบการ บจ. แล้ว นักลงทุนยังรอจับตา GDP ไทยช่วง 1Q60 ที่จะประกาศวันจันทร์นี้ (ตลาดคาดโต 2.8%YoY) ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ นักลงทุนยังคงจับตาประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยที่คาดจะเกิดในรอบประชุมหน้า (เดือน มิ.ย.) รวมถึงการประชุมเพื่อยืดเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC ออกไปถึงสิ้นปี (จากเดิมสิ้นสุด มิ.ย.) โดยวานนี้ SET Index ปิดที่ 1,550.27 จุด (-0.6%DoD) ด้วย Vol. 54,342 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI +1.1% มาอยู่ที่ 47.83 ดอลลาร์/บาร์เรลการที่อิรักและอัลจีเรียมีแถลงการสนับสนุนการขยายระยะเวลาปรับลดกำลังการผลิต
(+) คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซนปี 60 ขยายตัว 1.7% จากเดิมคาดไว้ที่ 1.6%
(+) สหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ลดลง 2,000 รายมาอยู่ที่ 236,000 รายสวนทางที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 245,000 ราย ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.5%MoM และ 2.5%YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%
(+) นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 2,437 ล้านบาท
(+) BDI เพิ่มขึ้น 7 จุด (+0.7%) มาอยู่ที่ 1,012 จุด
(+) CPALL รายงานกำไรสุทธิช่วง 1Q60 4,765 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 17%YoY ส่วน OISHI มีกำไรสุทธิงวด 2Q60 419 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 44%YoY
(-) รมว.คลังต้องการให้ธนาคารพาณิชย์ปรับลดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับธุรกิจรายย่อยและประชาชนทั่วไปลง
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA -23.69 จุด (-0.11%) โดยแรงกดดันมาจากผลประกอบการของบริษัทเอกชนที่ประกาศออกมาต่ำกว่าคาด รวมถึงประเด็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่คาดกันจะมีการปรับขึ้นในการประชุมครั้งถัดไป
(-) ราคาน้ำตาลดิบเบอร์ 11 -0.9% มาอยู่ที่ 16.02 Cents/Pound
(-) ราคาทองคำที่ตลาด COMEX +0.44% อยู่ที่ 1,224.20 ดอลลาร์/ออนซ์
(-) ราคาถ่านหิน -1.07% ปิดที่ 73.30 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน
(-) LH กำไรใน 1Q17 อยู่ที่ 1.77 พันล้านบาท ลดลง 11% YoY และ QoQ ต่ำกว่าตลาดคาด 3.5%
(+) ERW กำไรช่วง 1Q17 ทำสถิติใหม่แตะ 208 ลบ. ตามตลาดคาด หลังได้อานิสงส์บวกจาก High season และ ธุรกิจท่องเที่ยวเริ่ม ฟื้นตัว
(+/-) หุ้นยุโรป CAC40 -0.32% DAX -0.36% แต่ FTSE100 +0.02%
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การประกาศผลประกอบการงวด 1Q60
การจัดงาน Money Expo ระหว่างวันที่ 11-14 พ.ค.
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ ได้แก่ US ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย. EU ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย.
กลยุทธ์การลงทุน “ลุ้นรีบาวด์”
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เรามองว่าผลประกอบการที่เริ่มประกาศในกลุ่มท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัว และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จะหนุนให้มีการเก็งกำไรรายตัว และมีการเก็งกำไรสั้นในการฟื้นตัวของหุ้นที่ปรับตัวลงแรงวานนี้ เราแนะนำเก็งกำไรในกลุ่มพลังงานรับราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น และเก็งการประชุม OPEC ในช่วงปลายเดือนนี้ เราแนะนำเก็งกำไรสั้นหุ้นที่มีการรายงานผลประกอบการโดดเด่นในไตรมาส 1Q60 โดยมีมุมมองลบต่อภาพเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอในระยะกลาง
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
SGP เก็งกำไร
กำไรใน 1Q17 ออกมาที่ 1.15 พันลบ. เทียบเท่ากับกำไรทั้งปี 16 ที่ทำได้ 1.11 พันลบ. ได้รับผลดีจากราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกที่ปับตัวเพิ่มขึ้นถึง 60% YoY
สามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าที่เมียนมาร์ได้ภายในปีนี้
BEAUTY เก็งกำไร
ช่วง 1Q60 กำไร 200 ลบ. โต 54.5%YoY (ตลาดคาด 180 ลบ.)
ยอดขายโต 30%YoY จาก SSSG โต 14%+เปิดสาขาใหม่ 16 แห่ง
ราคาเป้าหมายปี 60 ตาม IAA Consensus ที่ 13.60 บาท
ทีมวิเคราะห์