WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

UOBบล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

เลือกลงทุนรายตัว คาดบรรยากาศทยอยดีขึ้นหลัง ประมาณการกำไร SET Index ปรับขึ้น
  แม้ SET Index ไม่ไปไหนเรายังคงมองบรรยากาศการลงทุนรายตัวเป็นบวก ทั้งนี้ Concensus มีการปรับประมาณการกำไรต่อหุ้นของ SET Index ลงในช่วง 3 เดือนแรก แต่หลังการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 กำไรต่อหุ้นของตลาด (SET Index) ถูกปรับขึ้นจาก 101 สู่ 103 บาท/หุ้น ดังนั้นเรายังคงมุมมองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวสนับสนุนจาก 1) การรายงานผลประกอบการที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากอุปสงค์ภายนอก โดยเฉพาะ ปิโตรเคมี 2) แรงหนุนกลุ่มธนาคารตามการปรับขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 23 แรงกดดันจากราคาน้ำมันเริ่มจำกัดและมีโอกาสฟื้นตัวก่อนถึงการประชุมโอเปค 25 พ.ค.นี้ แม้การฟื้นตัวของค่าเงินเหรียญและผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงเงินทุนไหลออก

 

       แต่เราคาดว่าในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยจะได้รับผลกระทบจำกัดจากตัวเลขบัญชีเดินสะพัดที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งจะเป็นปัจจัยช่วยชะลอการอ่อนค่า ขณะที่การเคลื่อนไหวที่ Underperform หุ้นภูมิภาคของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาทำให้มีโอกาสเป็น Laggard play ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน เรายังคงเลือกหุ้นที่เป็นเป้าหมายของการเพิ่มน้ำหนักของนักลงทุนสถาบัน เน้นกลุ่มปิโตรเคมี อาหาร และท่องเที่ยว ลดน้ำหนักโรงกลั่นและสื่อสาร รวมทั้งระวังแรงขายทำกำไรในหุ้นกลาง-เล็ก ที่อยู่ในระดับที่แพง อาจเกิด De-Rating // หุ้นแนะนำ IRPC, IVL, KBANK /เก็งกำไร TLUXE*, TTA*
  ประธานเฟดคลีฟแลนด์หนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ย – นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่าเฟดควรเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังบรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานที่เต็มศักยภาพและอัตราเงินเฟ้อที่กำลังปรับตัวเข้าใกล้เป้าหมายของเฟดที่ 2%
กำไรกลุ่มปิโตรเคมี – ออกมาดีกว่าคาดมาก ทั้ง IRPC และ IVL ซึ่งตบาดม๊โอกาสปรับเพิ่มประมาณการคำแนะนำและราคาเหมาะสม ขณะที่ JAS รายงานกำไรเพิ่มขึ้นสูง YoY แต่เป็นรายการพิเศษ ขณะที่กลุ่มโรงกลั่นเราคาดกำไรที่ดีเป็นช่วงสูงสุดของปี ดังนั้นแนะนำทยอยทำกำไรลดน้ำหนักกลุ่มโรงกลั่นลง


  สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ: 11 พ.ค. – ประชุมธนาคารอังกฤษ (BOE meeting) / 25 พ.ค. – MSCI Review / 25 พ.ค. – โอเปคประชุมเรื่องปรับลดกำลังการผลิต / 14 มิ.ย. – ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC meeting)
  คำแนะนำทางกลยุทธ์: ยังคงกลยุทธ์เลือกตัวซื้อ (Selective buy) เน้นกลุ่มปิโตรเคมี อาหาร และท่องเที่ยว ประเมินตลาดแกว่งตัว 1560-1600 เนื่องจากยังไม่มีเม็ดเงินใหม่และคนรอดูทิศทางการปรับประมาณการหลังงบไตรมาส 1/60 เลี่ยง/ลดน้ำหนักกลุ่มที่มีความเสี่ยงถูกลดน้ำหนักหรือคำแนะนำการลงทุนลง ได้แก่ สื่อสาร การแพทย์ และโรงกลั่น
  แนวรับ 1565/แนวต้าน : 1575-1580 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

 

ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์
  ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ดี: BDMS, SGP*, AOT, MINT, ERW, TASCO, PTTGC
  หุ้นที่มีการเติบโตปี 2560 เด่น: TU, MAJOR, SQ, BANPU
  หุ้นที่ผลงานผ่านจุดแย่สุด: MAJOR, SGP*, SIMAT, JWD*, TSR, TU
  หุ้นเด่นปี 2560: BANPU, PTTEP, SCB, TU, STEC, DTAC*, PSTC*, KSL*, BA*
  (* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH หรือหุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!