- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 05 May 2017 17:39
- Hits: 3006
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'อยู่ในโหมดเก็งกำไรผลประกอบการ'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : BBL (จากซื้อเป็นถือ), ORI (จากถือเป็น Fully Valued)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยปิดเพิ่มขึ้น 8.96 จุดมาที่ 1573.05 นำโดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มขนส่ง (หลักๆ คือ THAI) นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิต่อ 1.5 พันล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 502 ล้านบาท
• ฝรั่งเศส : โพลล์ BFMTV ระบุคะแนนนิยมมาครองล่าสุดอยู่ที่ 63% นำเลอแปงอยู่มาก...ติดตามผลเลือกตั้ง 7 พ.ค.นี้
• สหรัฐ : ร่างกฏหมายอเมริกันเฮลธ์แคร์ผ่านสภาผู้แทนราษฎรอย่างฉิวเฉียด จะเข้าพิจารณาในวุฒิสภาต่อ ซึ่งไม่น่าผ่านง่าย (อาจมีการแปรญัตติ) ถ้าร่างฯนี้ไม่ผ่าน จะเป็นอุปสรรคต่อแผนปฏิรูปภาษีของทรัมป์
• จับตา : ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.สหรัฐที่จะออกมาคืนนี้ ตลาดคาดไว้ที่ 1.85 แสนตำแหน่ง อัตราว่างงาน 4.6%
- ราคาน้ำมันดิบดิ่งแรง : กดดัน Sentiment หุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีในช่วงสั้น การลงทุนเน้นซื้อจังหวะอ่อนตัว โดยไม่หวัง Gap กำไรมากนัก เพราะราคาน้ำมันปีนี้ปรับขึ้นได้น้อยและช้ากว่าคาดจากอุปทานสูง หุ้นเด่นกลุ่มนี้เป็น PTT (TP 443 บาท), PTTGC (TP 79 บาท)
+ GFPT : คาดกำไร 1Q60F โต 52%YoY เป็น 419 ล้านบาท จากปริมาณส่งออกไก่ที่ +7%YoY) และ GPM สูง 16% แนะซื้อ TP 19.10 บาท
• PTTEP : กำไร 1Q60 ดีเกินคาดเพราะรายการพิเศษ แต่ EBITDA เป็นไปอย่างคาด (+12%QoQ แต่ -2%YoY) ปริมาณขายใน 1Q60 ต่ำกว่าคาดแต่ Unit Cost ก็น้อยกว่าที่ประเมินไว้ แนวโน้มไปได้ดี จากราคาก๊าซที่ขยับขึ้นต่อในช่วงที่เหลือปีนี้ ให้ TP 105 บาท
• TASCO : กำไร 1Q60 ออกมาตามตลาดคาด แต่ต่ำกว่า DBSV ประเมินไว้ แนวโน้มไปได้ดี เชื่อกำไรปีนี้โตกว่า 40% แนะนำซื้อ TP 35 บาท
- BBL : ปรับเป็นถือ (จากซื้อ) โดย NPL ยังเพิ่มต่อ คาดสินเชื่อฟื้นดีขึ้นใน 2H60 แต่รายได้ค่า Fee จะเติบโตอ่อนลง ให้ TP 190 บาท
หุ้นกลยุทธ์ (พื้นฐานดี) แนะนำวันนี้เป็น GFPT
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดกลับมาเป็นบวกเล็กๆ การซื้อใหม่เน้นค่าบวก SET ที่ต่ำกว่า 1565 ดูไม่ค่อยดี ควร Wait & See
สำหรับการ SCAN หุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ ECL, SCCC, TOP, WICE, BDMS, AAV ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ ROBINS, VNT, EPG, SMIT, TCMC, SYNTEC, TU หุ้นแนะนำไปและให้หาจังหวะ Take Profit คือ RCI, WORK หุ้นหลุด List –ไม่มี-
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ :
+ ยูโรโซน : ดัชนี PMI รวมภาคผลิต-บริการยูโรโซนขยายตัวสูงสุดรอบ 6 ปีในเดือนเม.ย.
ผลการสำรวจของไอเอชเอส มาร์กิตระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซน ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 56.8 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2011 หลังแตะ 56.4 ในเดือนมี.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
• ฝรั่งเศส : โพลล์ระบุคะแนนนิยมมาครองนำเลอแปงอยู่มาก...ติดตามผลเลือกตั้ง 7 พ.ค.นี้
จับตาผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค.นี้ ขณะที่ผลสำรวจพบว่านายเอมมานูเอล มาครองซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ทำผลงานในการโต้วาทีได้ดีกว่านางมารีน เลอเปน ผู้สมัครจากพรรค National Front (FN) โดยโพลล์จากสถานีโทรทัศน์ BFMTV บ่งชี้ว่าผู้ชมจำนวน 63% มีความเชื่อมั่นในตัวนายมาครอง ส่วนนางเลอแปงอยู่ที่ 37%
• สหรัฐ : กฏหมายอเมริกันเฮลธ์แคร์ผ่านสภาล่างแล้ว รอโหวตในวุฒิสภาต่อไป (ซึ่งไม่น่าจะผ่านง่าย)
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติอนุมัติร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ (อเมริกันเฮลธ์แคร์) ด้วยคะแนนเสียงฉิวเฉียด 217-213 เสียงเมื่อวานนี้ และจะนำร่างขึ้นพิจารณาในวุฒิสภาต่อไป แต่มีการคาดการณ์ว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะเผชิญอุปสรรคมากกว่าในสภาผู้แทนราษฎร โดยแนวโน้มว่าวุฒิสมาชิกจะทำการแปรญัตติเนื้อหาสำคัญในร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งหากร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่าน ก็จะเป็นอุปสรรคต่อแผนปฏิรูปภาษีของทรัมป์
• สหรัฐ : ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นแต่น้อยกว่าคาด
ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และปรับตัวขึ้นน้อยว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%
• สหรัฐ : ประสิทธิภาพแรงงานนอกภาคเกษตรใน 1Q60 ลดลง จับตาตัวเลขจ้างงานฯเดือนเม.ย.คืนนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐลดลง 0.6% ในไตรมาส 1/60 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี หลังจากเพิ่มขึ้น 1.8% ในไตรมาส 4/59 นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนเม.ย.ในวันนี้ ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.6%
• ตลาดหุ้นสหรัฐ : อยู่ในกรอบแคบ
IQ> ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 6.43 จุด วิตกร่างกม.ประกันสุขภาพไม่ผ่านวุฒิสภา
ดัชนี DJIA ปิดที่ 20,951.47 จุด ลดลง 6.43 จุด หรือ -0.03% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,075.34 จุด เพิ่มขึ้น 2.79 จุด หรือ +0.05% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,389.52 จุด เพิ่มขึ้น 1.39 จุด หรือ +0.06% ทั้งนี้ตลาดยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น
- สัญญาน้ำมันดิบ : ดิ่งแรง 4.8% เมื่อคืนนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 2.30 ดอลลาร์ หรือ -4.8% ปิดที่ 45.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ดิ่ง 2.41 ดอลลาร์ หรือ -4.8% ปิดที่ 48.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยกดดัน คือ EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงเพียง 930,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล ขณะเดียวกันสหรัฐและลิเบียผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นด้วย ติดตามผลประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบวันที่ 25 พ.ค.นี้
- สัญญาทองคำ : ดิ่งลง 1.6%
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 19.90 ดอลลาร์ หรือ -1.6% ปิดที่ระดับ 1,228.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากสภาทองคำโลก (WGC) รายงานว่าความต้องการทองคำทั่วโลกใน 1Q60 ลดลง 18%YoY สู่ระดับ 1,034 ตัน เนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนในกองทุน ETF ขณะที่ธนาคารกลางซื้อทองคำน้อยลง (เป็น 76 ตันจาก 104 ตันใน 1Q59) ประกอบกับสถานการณ์การเมืองโลกดีขึ้น เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นใน 2Q60
ปัจจัยในประเทศ :
+ ไทย : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเม.ย.ขยับขึ้นต่อเป็นเดือนที่ 5 แต่ยังไม่แกร่งนัก
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.60 ว่าขยับขึ้นเป็น 77.0 จากเดือนก่อนที่ 76.8 ซึ่งเป็นการเพิ่มต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นยังเป็นไปได้น้อย เพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ราคาสินค้าเกษตรดีขึ้นเฉพาะยางพารา แต่ราคาข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลังยังไม่ดี ทำให้กำลังซื้อในต่างจังหวัดฟื้นช้า ทางภาครัฐน่าจะต้องเร่งใช้จ่ายงบประมาณกลางปี 1 แสนล้านบาทเพื่อกระตุ้นการบริโภคในต่างจังหวัด และใช้การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ช่วยหนุนด้วย
• THAI (ราคาปิด 20.90 บาท) : เตรียมรับมอบใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ 8 พ.ค.นี้
ผู้บริหาร THAI เปิดเผยว่าบริษัทจะรับมอบใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (Re-certification of Air Operator Certification: AOC) และใบอนุญาตขนส่งวัตถุอันตรายในวันจันทร์ที่ 8 พ.ค.60 โดย THAI เป็นสายการบินลำดับที่ 3 ที่ได้รับใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ (BA) และสายการบินไทยแอร์เอเชีย (ของ AAV) ผ่านการตรวจสอบและได้รับใบรอบรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ไปก่อนหน้าแล้ว จากสายการบิน 24 สายการบินที่ยื่นความจำนงเข้ารับการตรวจสอบเพื่อออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ โดยมี CAA International Limited หรือ CAAI สหราชอาณาจักร ที่ทำหน้าดำเนินการตรวจสอบและประเมินเพื่อออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]