- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 05 May 2017 17:00
- Hits: 1950
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : BBL, SAPPE, SPRC
Our Portfolio May 17 : CPF, GLOBAL, SYNEX, TACC, THANI
ระยะสั้นยังเน้น Trading ในกรอบแบบขึ้นขายลงซื้อ ระยะกลาง-ยาวยังถือต่อ
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวขึ้นมาได้ค่อนข้างดีโดยมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่หลังจากที่ FED คงดอกเบี้ยตามคาดในการประชุมล่าสุด โดยดัชนีสามารถปิดใกล้เคียงแนวต้านแถว 1573 จุดได้ซึ่งถือว่าเริ่มมีสัญญาณเป็นบวกมากขึ้น แรงซื้อส่วนใหญ่มาจากสถาบันในประเทศที่มียอดซื้อสุทธิถึง 1.6 พันลบ. อย่างไรก็ตามยังต้องจับตาดูกระแสเงินทุนต่างชาติที่ยังไม่ไหลเข้าชัดเจนโดยยังขายสุทธิในตลาดหุ้นราว 500 ลบ.แต่ซื้อสุทธิในตลาดฟิวเจอร์ส 800 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : แม้ทิศทางการเคลื่อนไหวของ SET จะดูดีขึ้น แต่เพราะปริมาณการซื้อขายยังไม่หนาแน่นเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 10 วัน และแรงซื้อส่วนใหญ่ยังมาจากสถาบันในประเทศ ขณะที่ กระแสเงินทุนต่างชาติยังออกไปในโทนทรงตัวหรือไหลออกเพื่อรอดูทั้งตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯและการเลือกตั้งรอบสุดท้ายของฝรั่งเศส ส่วนราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงต่อเนื่องอีกกว่า 5% ก็มีโอกาสกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีน้ำหนักราว 19% ของ SET (Energy Index มีโอกาสลงหา 20600 จุด จาก 20829 จุด) ทำให้ Upside การปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อในวันนี้อยู่ในกรอบจำกัดกว่าเมื่อวาน โดยถ้าอิงตามกรอบทางเทคนิค สัญญาณบวกจะกลับมาเต็มตัวต่อเมื่อ SET กลับไปยืนเหนือ 1576 จุด ถ้าไม่เช่นนั้นยังมีโอกาสอ่อนตัวลงหา 1560-1563 จุด ขึ้นต่อวันนี้เน้นขายทำกำไรมากกว่าซื้อตาม
กลยุทธ์ : ระยะสั้น แนะนำ Trading ในกรอบ 1560-1575 จุด ระยะกลาง-ยาว ยังแนะนำถือต่อ
แนวรับ 1570 , 1564-1560 จุด
แนวต้าน 1575 , 1580-1585 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : HANA, TACC, AMATA (short)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$530ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$404ล้าน ไต้หวัน US$166ล้าน ขณะที่ไหลออกจากอินโดนีเซีย US$24ล้าน และไทย US$14ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค ติดตามการเลือกตั้งฝรั่งเศสในสุดสัปดาห์นี้
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) มีปัจจัยต่างประเทศที่ต้องรอดู ตลาดคาดการจ้างงานของสหรัฐเพิ่ม 1.9 แสนตำแหน่ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่แข็งแกร่ง หนุนการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเดือนหน้า แม้เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยแต่ไม่กดดันให้กนง.ต้องขึ้นตาม แต่ดอกเบี้ยในตลาดเงินมีโอกาสขยับขึ้น เป็นบวกกับแบงก์โดยเฉพาะ KBANK (ราคาพื้นฐาน 240 บาท) ที่มีสัดส่วนสินเชื่อภาคธุรกิจสูงถึง 70% เป็นลบกับกลุ่มไฟแนนซ์ แต่กระทบจำกัดเพราะผู้ประกอบการทยอยปรับโครงสร้างเงินกู้เป็นระยะยาวมากขึ้นแล้ว โดยเฉพาะ LIT ที่เพิ่งได้เงินจากการขาย warrant ส่วนการเลือกตั้งฝรั่งเศสรอบ 2 หากนายมาครองชนะ เงินยูโรน่าจะถูกขายทำกำไร เป็นลบกับราคา Commodity
(+) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 มาอยู่ที่ 77.0 ในเดือน เม.ย. จาก 76.8 ในเดือน มี.ค. แม้จะดีขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 แต่ขยับขึ้นเพียงเดือนละเล็กน้อย สะท้อนว่าการฟื้นตัวยังเปราะบาง แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีต่อสินค้าอุปโภคบริโภคในกลุ่มค้าปลีก แนะนำหุ้นที่กำไร 1Q17 มีแนวโน้มดี GLOBAL (ราคาพื้นฐาน 21 บาท) และ BJC (ราคาพื้นฐาน 58 บาท)
(+) จำนวนักท่องเที่ยวในช่วง 4M17 มีจำนวนเกือบ 12 ล้านคน (+1.7% Y-Y) ทำรายได้เข้าประเทศ 6.1 แสนล้านบาท (+3.4% Y-Y) ไตรมาสแรกเป็น Peak season ของกลุ่มท่องเที่ยวพอดี เราคาดกำไรปกติของกลุ่ม + 49% Q-Q, +4% Y-Y Top picks คือ MINT (ราคาพื้นฐาน 43 บาท) รองลงมาคือ ERW (ราคาพื้นฐาน 6 บาท) สำหรับสายการบิน แนะนำ AAV (ราคาพื้นฐาน 7.10 บาท) คาดกำไร +1637% Q-Q แต่ -29% Y-Y เพราะต้นทุนน้ำมันต่ำผิดปกติในปีก่อน
(0) SAPPE แนวโน้มกำไรปกติ 1Q17 ไม่สดใส คาด -18.3% Q-Q, -10.8% Y-Y เพราะยอดขายในประเทศยังหดตัว และอินโดนีเซียมีน้ำท่วมทำให้ลูกค้าสต็อกสินค้าลดลง แม้บริษัทจะออกสินค้าใหม่และได้รับผลตอบรับดีแต่ชดเชยไม่ได้ แต่เชื่อฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q17 ประเด็นอย.สั่งระงับโฆษณาเครื่องดื่มสูตร Relaxing Calm เรามองว่าไม่กระทบบริษัท แต่ปรับลดกำไรปกติปีนี้ลง 7% เป็นเติบโต 16% Y-Y ลดราคาพื้นฐานเป็น 33 บาท จาก 39 บาท แต่ยังแนะนำซื้อ
(0) BBL การประชุมกับผู้บริหารเมื่อวานนี้ ผู้บริหารกล่าวถึงเป้าหมายทางการเงินปี 2017 ในเชิงบวกกว่าที่เราคาดไว้โดยเฉพาะการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญว่าน่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนหน้าแม้ว่า NPL จะสูงขึ้นใน 1Q17 แต่ผู้บริหารคาดว่ามีความสบายใจต่อการจัดการขึ้นกว่าปีก่อนเนื่องจากการเกิดใหม่ชะลอลงและการปรับโครงสร้างฯทำได้เร็วขึ้น เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 3.44 หมื่นลบ. (+8.2%Y-Y) โดยคาดว่ากำไรใน 2H17 จะดีกว่า 1H17 ราคาหุ้น BBL ที่แม้จะ Outperform กลุ่มตั้งแต่ต้นปี (BBL +14%YTD VS SETBANK +7%YTD) แต่ยังซื้อขายในระดับที่ต่ำกว่า 2017 Prospective BVS ขณะที่ความแข็งแกร่งฐานะการเงิน BBL ไม่เป็นรองธนาคารใดทั้งด้านสภาพคล่อง และเงินกองทุน เราจึงคงคำแนะนำ ซื้อ โดยคงราคาเหมาะสมที่ 230 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
5 พ.ค. - สหรัฐ:การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (เม.ย.)
- อินโดนีเซีย: 1Q17 GDP
7 พ.ค. - ฝรั่งเศส: การเลือกตั้งรอบ 2
8 พ.ค. - จีน: ดุลการค้า (เม.ย.)
10 พ.ค. - จีน: อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.),ยอดสินเชื่อ (เม.ย.)
11 พ.ค. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลางประชุม
12 พ.ค. - ฮ่องกง: 1Q17 GDP
15 พ.ค. - ไทย: 1Q17 GDP
- จีน:ยอดค้าปลีก,Industrial Production, Fixed asset (เม.ย.)
16 พ.ค. - MSCI Semi-annual index review
- ยูโรโซน:ZEW Survey Expectations (พ.ค.), 1Q17 GDP
- สหรัฐ: Housing starts & Building permits (เม.ย.)
17 พ.ค. - ยูโรโซน:อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.)
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดลบ โดยแม้มีปัจจัยหนุนจากตัวเลขผลประกอบการที่แข้งแกร่ง และ การเห็นชอบร่างกฎหมายใหม่ที่จะมาแทน Obama care อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายดังกล่าวยังถือว่ามีความเสี่ยงเพราะคะแนนเสียงยังเด็ดขาด นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังถูกฉุดจากหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ร่วงแรง
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกจากตัวผลประกอบการ และ ตัวเลขเศรษฐกิจทั้งภาคการผลิตและภาคการบริการที่ออกมาแข็งแกร่ง
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดค่อนไปทางลบตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ และ แรงกดดันจากราคาน้ำมัน
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางแข็งค่า โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.57-34.62 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดลบ 2.30 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 45.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลงอย่างหนักสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน จากความกังวลอุปทานล้นตลาด โดยแม้โอเปกระบุว่าอาจขยายการลดการผลิตไป 2H17 แต่อาจจะไม่ปรับลดการผลิตไปมากกว่า 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดลบ 19.90 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,228.60 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า สถานการณ์การเมืองโลกที่ผ่อนคลายขึ้น และ ความต้องการทองคำโลกลดลง
Contact person : Jitra Amorntham
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research