- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 14 August 2014 17:23
- Hits: 2542
บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ขึ้น-แต่อาจปรับฐานบริเวณ 1560 จุด+/-10จุด
Highlight
ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดบวก หลังนักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเฟดรีบขึ้นดอกเบี้ย อิงตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ต่ำกว่าคาด
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ รายงาน 2Q57F GDP ของ EU Germany France คาด +0.1% -0.1% 0.1%q-q sa (Vs 0.2% 0.8% 0%) Japan: Machinery Orders มิ.ย. คาด +7.2%m-m (Vs-19.5%)
+ วันทำการก่อนหน้า ต่างชาติ กลับมาซื้อ +3.68 พันลบ. (จากขายสะสม 2 รวม -2.2 พันลบ.) ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อเพิ่ม +2.61 พันลบ. (ซื้อสะสม 2 วันรวม +3.07 ลบ.) คาดมาจากแรงซื้อของกองทุน Trigger Funds ที่เปิดขายสัปดาห์ก่อน 5 กองทุน
+ การเมือง คาดประชุมสนช.สัปดาห์นี้ พิจารณางบประมาณปี 58 /ลุ้นรายชื่อครม./กพช.ประชุมศุกร์นี้ จับตา แผนโซล่าร์ชุมชุน
คาดดัชนีฯ วันนี้ ขึ้นต่อ แนวต้าน 1545/1560จุด ปัจจัยภายนอกยังคงลุ้นการชะลอตัวของเศรษฐกิจยุโรป และ Geopolitical Risks แต่ปัจจัยในประเทศยังคงเป็นบวก ลุ้นนายกฯและครม.ใหม่ การผ่านพ.ร.บ. งบปี 58 การประกาศจ่ายปันผลของบจ.
กลยุทธ์วันนี้ แนะนำ ทยอยขายที่แนวต้าน 1560 จุด +/-10 จุด หลังจากรับข่าวดีไปเป็นส่วนใหญ่แล้ว แต่อาจวิตกต่อแรงขายของบางกองทริกเกอร์ ฟันด์ ซึ่งอาจถึงเป้าหมายบริเวณดังกล่าว แนะนำ Trading Buy รายตัว (Earnings Play& Dividend Play) กลุ่มขนส่งทางเรือ กลุ่มรับเหมาฯ กลุ่มโซล่าร์ กลุ่มการเงิน
หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ KBANK SCB TMB GUNKUL DEMCO PSL TTA IVL SYNTEC CK PS LHBANK THCOM เพิ่ม QH CPF จากกำไรดีกว่าคาด
หุ้นในกระแส:
หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 5.0%) ได้แก่ SAPPE SEAFCO GEL TTA THCOM GLOW VNG BH SF THAI KKP หุ้นที่ลงกว่า 6.0% ได้แก่ TWS HFT SINGER GRAND RICHY AQUA JAS
NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ ได้แก่ CK+1060 ADVANC+369 CPALL+252 KBANK+249 สูงสุดด้านขาย ได้แก่ INTUCH-196 JAS- 189 CPF-185
หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ KBANK 106 PTTEP 65
Market Outlook
คาดดัชนีฯ วันนี้ ขึ้นทดสอบแนวต้านหลัก 1560 จุด+/-10 จุด แรงหนุนจากต่างประเทศ นักลงทุนคลายกังวลความขัดแย้งยูเครน และเฟดไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย ส่วนปัจจัยในประเทศ มีข่าวดีรอลุ้นรายชื่อครม. และการผ่านร่างพ.ร.บ. งบฯ ปี58 การประกาศจ่ายปันผลของบจ. แนะนำ ทยอยขายที่แนวต้าน หุ้นเด่นด้านกำไรดี QH CPF
คาดดัชนีฯ วันนี้ ปรับขึ้น แนวต้าน 1560 จุด+/- 10 จุด แรงหนุนมาจากทั้งในและนอกประเทศ โดยความตึงเครียดจาก Geopolitical risk ผ่อนคลายลง และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำคาดคลายความวิตกเรื่องเฟดรีบขึ้นดอกเบี้ย วันนี้ จับตารายงานตัวเลขจีดีพีไตรมาสสองของยุโรป ส่วนในประเทศ ประเด็นหนุนมาจาก รายงานผลกำไรบจ.(บจ.ทั้งหมดประกาศงบฯภายในวันจันทร์หน้า) ลุ้นรายชื่อนายกฯและคณะรัฐบาล รวมถึงการผ่านร่างงบประมาณฯ ปี 58 (คาดเบิกจ่ายได้ตั้งแต่ 1 ตค.57) แนะนำ Trading Buy กลุ่มแบงก์ กลุ่มธุรกิจโซล่าร์ กลุ่มขนส่งทางเรือ กลุ่มรับเหมาฯ
ปัจจัยต่างประเทศ ยังเป็นแรงหนุนต่อเนื่อง โดยตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐฯ วานนี้ออกมาทรงตัวในเดือนก.ค.ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่ม 0.2% แต่ทำให้นักลงทุนมีมุมมองมากขึ้น ว่าเฟดจะไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย ประกอบกับความกังวลเรื่องยูเครนที่ผ่อนคลายลง ทำให้หุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นจากการร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ก่อน โดยวันนี้ นักลงทุนจับตารายงานตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/57 ของกลุ่มยุโรป คาดยังไม่ดีขึ้นมากนัก
ปัจจัยในประเทศ การประชุมสนช. สัปดาห์นี้คาดเป็นวาระผ่านร่างงบประมาณปี 58 ที่คาดวาระแรกจะผ่านได้ในวันเดืยว โดยนักลงทุนจับตาการสรรหาผู้มาเป็นนายกฯ รัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งบางกระแสข่าวอาจมีการเสนอรายชื่อในสัปดาห์หน้า
ประกาศการทบทวน MSCI Quarterly Review เช้านี้ (มีผล 1 กันยายน) พบว่า มีเพียง 2 หลักทรัพย์ไทย GJS GSTEL ที่ถูกตัดออกจาก MSCI Global Small Cap Indexes ไม่มีหุ้นไทย ถูกถอดออกจากการคำนวณสำหรับ MSCI Global Standard Indexes (ดูรายละเอียดด้านในเล่ม)
1. + กลุ่ม Cyclical Play อิงเศรษฐกิจโลก แนะนำ กลุ่มเรือเทกอง PSL และกลุ่มปิโตรเคมี เลือก IVLจากรายงานเศรษฐกิจจีน ที่แข็งแกร่ง (คาด 2H57F GDP เติบโตสูงกว่า 7.4%y-y) แต่อาจผันผวนระยะสั้นหาก 2Q57F GDP ญี่ปุ่น-ยุโรป สัปดาห์นี้ แย่กว่าคาด
2. + กลุ่ม Domestic Play แนะนำ สะสมเมื่ออ่อนตัว กลุ่มแบงก์ KBANK SCB TMB กลุ่มอสังหาฯ AP QH กลุ่มค้าปลีก CPALL ส่วนข่าวลบคือ 2Q57F GDP ไทย อาจไม่ดีมาก +0.6%y-y (ดีขึ้นจาก -0.1%y-y ใน 1Q57) ส่วนข่าวดีคือ การเตรียมผ่านร่าง พ.ร.บ. งบปี 58 (สภาฯเริ่มพิจารณาสัปดาห์นี้) และรายชื่อคณะรัฐบาลใหม่ อาจส่งผลต่อการเก็งกำไร การยกเลิกกฎอัยการศึก ในอนาคต
3. +Dividend Play : คาดให้ยิลด์ปีนี้ สูงกว่า 5% แนะนำ SAMTEL MODERN TISCO BCP และสะสมเมื่ออ่อนตัว ADVANC DTAC BTS TTW LPN SPALI (ความเสี่ยงขาลงมีจำกัด)
4. + Earnings Play : เก็งกำไรหลักทรัพย์ที่คาดว่ากำไร 2Q57F เติบโตสูง/ดีกว่าคาด อาทิ TUF CSS ANAN JUBILE MINT THCOM AP QH หรือหลักทรัพย์ที่มี %Upward Revision สูง ได้แก่ MJD CCET SYNTEC HANA AEONTS CK SEAFCO ในทางตรงกันข้าม ขายหลักทรัพย์ ที่มีการปรับลดประมาณการกำไรสูง ได้แก่ SITHAI ERW PF ส่วนหุ้นกำไรเด่นวานนี้ QH CPF
พอร์ตลงทุนหุ้นระยะยาว : เน้นลงทุนกลุ่ม Domestic Play หุ้นเด่นแนะนำ KBANK SCB ADVANC SIRI PS CPALL SCC AAV CENTEL และกลุ่ม Cyclical Play หุ้นเด่นแนะนำ PTT IVL IRPC PSL
ปัจจัยเทคนิค: ระยะสั้น ดัชนีฯ ยังคงแกว่งตัวในกรอบขาขึ้น 1475-1568 จุด โดยแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 1560 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1511-1514 จุด (38.2% retracement และเส้น SMA 25 วัน) คาดสัปดาห์นี้มีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง อิงระดับ Overbought ของสัญญาณชี้นำต่างๆ ลดลงสู่ระดับปกติอย่างไรก็ดี ยังมีสัญญาณเตือนว่าดัชนีอาจลงมาทดสอบแนวรับ 1500 จุดได้อีก
ประเด็นจับตา
1. +ประเด็นการเมือง: เข้าสู่โรดแมพระยะที่ 2 ประชุมสภาฯนัดแรก พิจารณาร่างงบประมาณปี 58
ประเด็นการเมือง (Update):
กกต. พร้อมคิกออฟรับรายชื่อสรรหาสปช. 14 ส.ค. นี้ นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. กล่าวถึงกรณีรับเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ว่า หลังจาก คสช. มีการประกาศรายชื่อ คณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 คณะแล้ว ตนก็จะลงนามในคำสั่งในเอกสารประกาศการสรรหา เพื่อส่งไปลงราชกิจจานุเบกษาและในวันที่ 14 ส.ค. ก็จะเริ่มเปิดรับการเสนอชื่อบุคคล
'สุรชัย' คาดถกร่าง พ.ร.บ. งบปี 58 ศุกร์นี้ เบื้องต้นหากมีการโปรดเกล้าตำแหน่งประธานและ รองประธานสนช. ลงมาภายในวันที่ 14 ส.ค. ก็จะนัดประชุมได้ในวันที่ 15 ส.ค. โดยมีเรื่องเร่งด่วนคือการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ซึ่งจะรับหลักการวาระแรกภายในวันเดียว พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณา และเปิดให้ยื่นแปรญัตติภายใน 7 วัน
2. MSCI Quarterly Review
มีผล 1 กันยายน พบว่า มีเพียง 2 หลักทรัพย์ไทย GJS GSTEL ที่ถูกตัดออกจาก MSCI Global Small C ap Indexes:
รายงานทบทวนครั้งล่าสุด ประกาศเช้านี้ พบว่า ไม่มีหุ้นไทย ถูกถอดออกจากการคำนวณสำหรับ MSCI Glob al Standard Indexes แต่มี 2 บริษัทคือ GJS GSTEL ถูกถอดออกจาก MSCI Global Small Cap Indexes (ถือว่าดีกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ว่าอาจมี BEC ถูกตัดออก) ดูรายละเอียดทั้งหมดใน Attached Files ส่วนการทบทวนครั้งต่อไปจะมีในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นการทบทวนรายครึ่งปี MSCI Semi-annual review
MSCI Global Standard Indexes: พบว่ามี เพิ่ม 6 หลักทรัพย์ แบ่งเป็น Hilton Worldwide Holdin gs (USA) Ally Financial (USA) Seibu Holdings(Japan) Mesaieed Petrochemical (Qatar) LPP(Poland) Brait(South Africa) และตัดออก 1 หลักทรัพย์ จากประเทศแอฟริกาใต้
MSCI Global Small Cap Indexes: พบว่ามี เพิ่ม 1 หลักทรัพย์ และตัดออก 12 หลักทรัพย์ โดยไทย มีการตัดออก 2 บริษัท ได้แก่ GJS GSTEL ส่วนประเทศ จีน อินเดีย ตัดออกประเทศละ 2 หลักทรัพย์ส่วนมาเลเซีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส รัสเซีย ตัดออกประเทศละ 1 หลักทรัพย์ ส่วนแอฟริกาใต้ตัดออก 1 หลักทรัพย์และเพิ่ม 1 หลักทรัพย์
3. Geopolitical risks ยังเป็นความเสี่ยงระยะสั้น
รัสเซียเริ่มซ้อมรบในแปซิฟิก
รัสเซีย เริ่มปฏิบัติการซ้อมรบในหมู่เกาะแปซิฟิกแห่งหนึ่ง ที่ญี่ปุ่นอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่บางส่วน ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้ อาจบั่นทอนพยายามของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ที่เปิดประตูสำหรับเจรจาข้อพิพาทกับรัสเซีย แม้ยังมีความตึงเครียดเกี่ยวกับวิกฤติยูเครนอยู่ก็ตาม โดยการซ้อมรบครั้งนี้ ใช้ทหารมากกว่า 1,000 นาย เฮลิคอปเตอร์จู่โจมจำนวน 5 ลำ และอาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆ อีก 100 ชิ้น
สหรัฐส่งทหารไปอิรักเพิ่ม 130 นาย
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ทหารอเมริกันอีก 130 นาย เดินทางมาถึงอิรัก เมื่อวันอังคาร (12 ส.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อปฏิบัติภารกิจชั่วคราวในการประเมินขอบเขตของวิกฤตด้านมนุษยธรรม ที่ประชาชนชาวอิรักหลายพันคน กำลังประสบอยู่บนภูเขาซินจาร์ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ นายชัค ฮาเกล ยืนยันว่า ทหารที่ส่งไปอิรัก ไม่ได้ไปรบแต่ถูกส่งไปเพื่อประเมินสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมเท่านั้น
ยูเครนขวางขบวนรถช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากรัสเซียเข้าประเทศ
ขบวนรถบรรทุกของรัสเซียที่ขนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ได้ออกเดินทางเมื่อวานนี้ เพื่อเข้าไปยังภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งกองกำลังของรัฐบาลกำลังปิดล้อมกลุ่มกบฏที่ฝักใฝ่รัสเซีย แต่ยูเครน ระบุว่า จะไม่อนุญาตให้ขบวนรถดังกล่าวเข้าไปยังดินแดนของยูเครน
เราประเมินว่า Geopolitical risk ยังคงความเสี่ยงต่อตลาดหุ้นโลกในระยะสั้นต่อไป แม้ว่าในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนคลายความกังวลจากท่าทีของรัสเซีย ที่บอกว่าจะถอนทหาร ออกจากชายแดนก็ตาม เนื่องจากที่ผ่านมารัสเซีย เคยสร้างผิดหวังมาหลายครั้งจากการไม่ทำตามที่ กล่าวว่าจะไม่แทรกแซงยูเครน นอกจากนี้ หลายฝ่ายยังแคลงใจเกี่ยวกับ ประเด็น รัสเซียที่ส่งคนเข้าไปในยูเครน โดยอ้างว่าเป็นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม อย่างไรก็ดี อาจไม่เห็นแรงเทขายอย่างหนักเหมือนในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนรับรู้ประเด็นนี้มาพอสมควรแล้ว
4. +/- 2Q57F Earnings Results: Consensus คาดบจ. ไทยมีกำไรเพิ่มขึ้น 18% YoY -3.9%q-q ใน 2Q14
ประมาณการกำไรเติบโตปี 57F-58F
คาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในปี 57F และ 58F ปรับลดลงอีกเล็กน้อยในเดือน ก.ค. อิง consensus ที่คาดผลกำไรของตลาดฯ เติบโตที่ 13.4% และ 14.7% จากเดิม 13.7% และ 14.8% ตามลำดับ แม้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งปีหลังมีทิศทางดีขึ้น และเริ่มเห็นการฟื้นตัวของบางกลุ่มอุตสาหกรรมแล้วก็ตาม แต่จากผลกำไรใน 2Q57 ที่ยังรับผลกระทบทางการเมืองอยู่ ทำให้นักวิเคราะห์ยังไม่ปรับประมาณการณ์กำไรปีนี้ขึ้น สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการปรับคาดการกำไรปี 57F เพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ +6.0% กลุ่ม ยานยนต์ +2.2% และมีเดีย +1.4% ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการปรับคาดการณ์กำไรปี 57F ลดลงสูงสุด ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยว -5.9% กลุ่มธนาคาร -4.5% และกลุ่มปิโตร -2.9%
+/- USA: ผลการดำเนินงาน 2Q57F ของบจ.สหรัฐฯ ที่น่าสนใจ : ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก MACY(13/8) Nordstrom Wal-mart(14/8) Estee(15/8)
5) +/-รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ : ไฮไลท์อยู่ที่ รายงาน 2Q57F GDP ของ Japan, EUR
วันพฤหัสบดี ที่ 14 ส.ค. : รายงาน 2Q57F GDP ของ EU Germany France คาด +0.1% -0.1% 0.1%q-q sa (Vs 0.2% 0.8% 0%) Japan: Machinery Orders มิ.ย. คาด+7.2%m-m (Vs-19.5%)
วันศุกร์ที่ 15 ส.ค. : USA Industtrial Production ก.ค. คาด +6.5%m-m (Vs 7.2%) Empire State Survey ส.ค. คาด 20 (Vs 25.6) รายงาน 2Q57F GDP ของ มาเลเซีย ฮ่องกง คาด 5.5% 2.3%y-y (Vs 6.2% 2.5% y-y) UK:2Q57F GDP ครั้งที่ 2 คาดเท่าเดิม 0.8%q-q sa
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:
จีน เผยการลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์พุ่ง 13.7% ในช่วง 7 เดือนแรกของปี สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนรายงานว่า การลงทุนภาคอสังหา ริมทรัพย์ของจีนพุ่งขึ้น 13.7% ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ลดลง 8.2% ส่วนการลงทุนในภาคดังกล่าวในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 14.1% ขณะที่รายได้ลดลง 6.7% ในช่วงเดียวกัน
จีน เผยผลผลิตอุตฯ เพิ่ม ขณะค้าปลีก, การลงทุนสินทรัพย์ถาวรโตน้อยกว่าคาด สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีน เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ของจีน พุ่งขึ้น 9% ในเดือนก.ค.จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับ ที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 12.2% ซึ่งต่ำกว่าคาดเล็กน้อย การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพิ่มขึ้น 17% ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่า ที่คาดการณ์ไว้
แบงก์ชาติจีน เผยภาคธนาคารปล่อยเงินกู้ใหม่สกุลหยวนต่ำกว่าคาดใน ก.ค. ข้อมูลของธนาคารกลางจีน (PBOC) บ่งชี้ในวันนี้ว่า ธนาคารของจีน ได้ปล่อยเงินกู้ใหม่สกุลหยวน 3.852 แสนล้านหยวน (6.253 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือน ก.ค. ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือน มิ.ย. และต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด ผลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่าธนาคารจีนจะปล่อยเงินกู้ใหม่ 7.275 แสนล้านหยวนลดลงจาก 1.08 ล้านล้านหยวน ในเดือน มิ.ย.
สหรัฐ เผยยอดค้าปลีกทรงตัวในเดือนก.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกทรงตัวในเดือน ก.ค. ขณะที่ยอดค้าปลีกไม่รวมรถยนต์เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือน ก.ค. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจ โดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ยอดค้าปลีก จะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือน ก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือน มิ.ย. และยอดค้าปลีกไม่รวมรถยนต์จะเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน ก.ค. หลังจาก เพิ่มขึ้น 0.4% เช่นกันในเดือน มิ.ย.
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
Global Momentum
+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดขึ้นจากแรงซื้อกลุ่มเทคโนโลยี
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกต่อเนื่อง โดยดัชนี DJIA ปิดบวก 91.26 จุดหรือ 0.55% สู่ระดับ 16,651.80 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดขึ้น 12.97 จุดหรือ 0.67% สู่ระดับ 1,946.72 จุด Nasdaq พุ่งขึ้น 44.88 จุด หรือ 1.02% สู่ระดับ 4,434.13 จุด หุ้นทั้ง 10 กลุ่มในดัชนี S&P ปรับตัวขึ้น แม้หุ้นบางตัว ร่วงลงจากความผิดหวังเกี่ยวกับผลประกอบการและการปรับลดคาดการณ์รายได้ลงก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์กลุ่มการขนส่งบวก 0.7% โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเข้าสู่แดนบวกในปีนี้อีกครั้ง ขณะที่การพุ่งขึ้นของหุ้นไบโอเทคเทคโนโลยี ทำให้นักลงทุนไม่สนใจข้อมูลยอดค้าปลีกที่น่าผิดหวัง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกทรงตัวในเดือนก.ค. โดยได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกันของยอดขายในบริษัทตัวเแทนจำหน่ายรถยนต์
+ ตลาดหุ้นยุโรป กลับมาปิดสูงขึ้น
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดสูงขึ้น โดย FTSE ปิดเพิ่มขึ้น 24.26 จุด หรือ 0.37% สู่ 6,656.68 จุด ดัชนี CAC40 ปิดขึ้น 32.63 จุด หรือ 0.78% สู่ 4,194.79 จุด และ DAX ปิดพุ่ง 129.41 จุด หรือ 1.43% สู่ 9,198.88 จุด ดัชนีหุ้นสำคัญๆในตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก เพราะได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มบริษัทประกัน ประกอบกับนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน
+ราคาน้ำมันดิบ ปิดสูงขึ้นจากปัญหาในจีเรีย
วันทำการที่ผ่านมา Brent ส่งมอบ กย. ปิดเพิ่มขึ้น 1.26 ดอลลาร์ สู่ 104.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน Nymex ส่งมอบ กย. ปิดสูงขึ้น 0.22 ดอลล์ต่อบาร์เรล มาปิดที่ระดับ 97.59ดอลล์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันพุธ ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากร่วงลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 13 เดือนในช่วงแรก โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ได้รับแรงหนุนจากเหตุการณ์ปั่นป่วนวุ่นวายในอิรักและลิเบีย ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลกับปัญหาขัดข้องด้านอุปทานน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า มีการขายน้ำมันดิบไนจีเรียได้ในตลาดน้ำมันดิบแอฟริกาตะวันตก โดยขณะนี้น้ำมันดิบไนจีเรียสำหรับการส่งมอบในเดือนก.ย.มีเหลืออยู่ในตลาดเพียง 10 คาร์โก โดยลดลงจากระดับใกล้ 20 คาร์โกในช่วงต้นสัปดาห์นี้
+ราคาทองคำ ปิดสูงขึ้น หลังยอดค้าปลีกสหรัฐฯต่ำกว่าคาด
วันทำการที่ผานมา ราคาสัญญาทองเดือน สิงหาคม กลับมาปิดขึ้นเล็กน้อย 3.90 ดอลล์ มาปิดที่ระดับ 1,314.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 4.02 ดอลลาร์ สู่ 1,312.36 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ หลังจากยอดค้าปลีกที่อ่อนแอของสหรัฐบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง และส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์กันว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
+ ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 จากผลกระทบฤดูกาล
วันทำการที่ผานมา ดัชนี Baltic Dry Index ปิดเพิ่มขึ้นแรง 35 จุดมาปิดที่ 871 จุด หลังจาก ปี 56 พิ่มขึ้น +28.14%y-y เป็น 2227 จุด (จาก 1738 จุด ณ สิ้นปี 55) โดยระดับสูงสุดอยู่ที่ 2337 จุด เมื่อ 12/12/56 และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 698 จุดเมื่อ 2/1/56 ขณะที่ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 554 กลุ่มเรือ (Shipping) คาดผ่านจุดต่ำสุด Bottom Out และฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก
ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. 14501 [email protected] 02-624-6244
ธิดารัตน์ ผโลดม, no. 16564 [email protected] 02-624-6270