WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CSGบล.คันทรี่ กรุ๊ป : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'เคลื่อนไหวในกรอบแคบรอผลการประชุมเฟด'
      ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังแกว่งตัวในกรอบแคบๆ รอผลการประชุมเฟดที่เริ่มประชุมตั้งแต่เมื่อวานและจะได้ข้อสรุปคืนนี้ นอกจากนี้ตลาดยังรอการทยอยประกาศงบในงวด 1Q17 โดยปิดตลาดปรับตัวลงเล็กน้อย 2.20 จุด ซึ่งกลุ่มที่ปรับตัวลงได้แก่ กลุ่มพลังงานลดลง 0.7% DoD จากความกังวลว่าสหรัฐจะเพิ่มปริมาณการผลิตและการขุดเจาะน้ำมันเพิ่ม ตามมาด้วยกลุ่มก่อสร้างลดลง 0.4% DoD นำโดย SCC ที่ลดลง 8 บาท และกลุ่มธนาคารลดลง 0.2% DoD ส่งผลทำให้ SET Index ปิดวานนี้ที่ 1,564.12 จุด (-0.14%) มูลค่าซื้อขายที่ 35,126 ล้านบาท

ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA +36.43 จุด (+0.17%) โดยยังคงได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดี อย่างเช่นไฟเซอร์ อิงค์มีกำไรสุทธิ 69 เซนต์/หุ้นสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 67 เซนต์/หุ้น
(+) ตลาดหุ้นยุโรปDAX+56%CAC40 +0.70% และFTSE100 +0.64%
(+) คาดรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพูจะได้รับอนุมัติผลการประมูลจากที่ประชุมครม.ในสัปดาห์หน้า ส่วนกระทรวงคมนาคมเตรียมผลักดันรถไฟฟ้าอีก 3 เส้นทางมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาทเข้าประชุมครม.ภายในเดือน พ.ค.
(+)คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)ปรับประมาณการณ์ตัวเลขส่งออกปี 60 เป็น +2.0-3.5% จากเดิมที่คาดว่าจะ +1.0-3.0% หลังตัวเลขส่งออกในช่วง 1Q60 ออกมาดีกว่าคาด
(+) กระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อผลักดัน GDP ให้เติบโตได้ในระดับ 4-5% จากที่คาดการณ์ไว้ว่าปีนี้จะเติบโต 3.5%
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI -1.2% มาอยู่ที่ 47.66 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังลิเบียเผยผลิตน้ำมันได้เพิ่มขึ้นเหนือระดับ 760,000 บาร์เรล/วันสูงสุดในรอบ 3 ปี
(-) ราคาทองคำที่ตลาด COMEX +1.50% อยู่ที่ 1,257 ดอลลาร์/ออนซ์
(-) ราคาถ่านหิน -0.5% มาอยู่ที่ 79 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน
(-) ราคาน้ำตาลดิบเบอร์ 11 ลดลง 1.3% มาอยู่ที่ 16.18 Cents/Pound
(-) นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 208 ล้านบาท
(-) BDI ลดลง 36 จุด (-3.25%) มาอยู่ที่ 1,073 จุด
(-) รฟท.เลื่อนประมูลรถไฟทางคู่เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์หลังจากร่าง TOR เดิมมีการคำนวณราคาผิดพลาดไป 100,000 บาทโดยคาดประมูลได้ในวันที่ 27 ก.ค. นี้ จากเดิมที่คาดว่าจะประมูล 21 ก.ค.
(+/-) อัตราการว่างงานกลุ่มยูโรเดือนมี.ค.อยู่ที่ 9.5% ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 9.4% เล็กน้อย

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบ 2 ในวันที่ 7 พ.ค.
การประชุม FED ระหว่างวันที่ 2-3 พ.ค. คาดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ ได้แก่ US PMI รวมเดือนเม.ย. (3 พ.ค.) ดุลการค้าเดือนมี.ค. (4 พ.ค.) อัตราว่างงานเดือนเม.ย. (5 พ.ค.) EU GDP ไตรมาส 1 (3 พ.ค.) ตัวเลขค้าปลีกเดือนมี.ค. (4 พ.ค.) TH ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. (3 พ.ค.)

กลยุทธ์การลงทุน "ไม่มีปัจจัยเด่น"
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มแกว่งตัวกรอบแคบ โดยภาพรวมตลาดยังไม่มีปัจจัยเด่น เราประเมินตลาดวันนี้จะเงียบเหงา ทั้งจากที่ตลาดจะรอการประชุม FOMC แม้ว่าตลาดจะคาดการณ์การคงดอกเบี้ย เรามองประเด็นในตลาดไทยยังจำกัด หลังจากที่โครงการรถไฟฟ้าทางคู่มีแนวโน้มล่าช้า ทำให้ลดความน่าสนใจลงในกลุ่มรับเหมา แนะนำเก็งกำไรกลุ่มที่ Laggard ตลาดและประเมินว่าผลประกอบการในปี 60 จะเติบโตเด่น

หุ้นเด่นประเด็นร้อน
BLA เก็งกำไร
มองได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น
จ่ายปันผล 0.43 บาท/หุ้น XD วันที่ 12 พ.ค.
ราคาเป้าหมายตาม Bloomberg Consenssus 54.29

ASAP เก็งกำไร
ตลาดมองผลดำเนินงาน 1Q60 เติบโตเด่นได้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีและราคารถมือ 2 ที่ฟื้นตัว
ราคาหุ้น Laggard กลุ่มที่ปรับตัวขึ้นก่อนหน้า KCAR , PL
มีโอกาสเติบโตจากการเติบโตของรถเช่าจากลูกค้า Corporate ที่มีอัตราส่วนเช่า/ซื้อ ต่ำกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว

ทีมวิเคราะห์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!