- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 02 May 2017 17:39
- Hits: 1454
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (2/05/60)
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่แล้ว “Sideway ลง หลังยังมีปัจจัยรุมเร้า”
ดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่แล้วเปิดตลาด Sideway ลงในกรอบแคบ หลังยังเผชิญแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับประเด็น NPL ของกลุ่ม ธพ. บวกกับรอติดตามประกาศงบกลุ่ม Real sector และแผนปฏิรูปภาษีสหรัฐฯ ของทรัมป์ อย่างไรก็ดีเนื่องด้วยมาตรการปฏิรูปภาษีสหรัฐฯ สุดท้ายไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน ตลอดจนค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ทำให้ Fund Flow ต่างชาติคาดยังไหลออก ทั้งนี้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มที่ปรับตัวลงได้แก่ กลุ่มรับเหมาก่อสร้างลดลง 1.1%WoW, กลุ่มธนาคารพาณิชย์ลดลง 0.9%WoW กดดันภาพ SET Index ปิดตลาดวันศุกร์ที่ระดับ 1,566.32 จุด (-3.7 จุด หรือ 0.24%WoW) และมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยที่ 41,212 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ไทยเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.38%YoY และ 0.16%MoM โดยกระทรวงพาณิชย์คาดทั้งปีจะอยู่ที่ระดับ 1.5-2.2%
(+) ราคาทองคำที่ตลาด COMEX -1.01% อยู่ที่ 1,255.50 ดอลลาร์/ออนซ์
(+) กระทรวงคมนาคมเตรียมของบปี 61 เพิ่ม 3.4 แสนล้านบาทรองรับโครงการเมกะโปรเจ็คก์
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA -27.05 จุด (-0.13%) ตลาดได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาไม่ดีนัก โดยค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนมี.ค.ลดลง 0.2% รวมถึงดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค.ลดลง 0.2%MoM
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI -1% มาอยู่ที่ 48.84 ดอลลาร์/บาร์เรล แรงกดดันหลักยังคงมาจากความกังวลต่อการเพิ่มกำลังการผลิตของสหรัฐฯหลังตัวเลขแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่มอีก 9 แท่นสู่ระดับ 697 แท่น
(+) นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 3,693 ล้านบาท โดยมีรายการ Big lot ใน BJC และ BH มูลค่ารวมกันกว่า 9,200 ล้านบาท
(+) ราคาน้ำตาลดิบเบอร์ 11 +0.4% มาอยู่ที่ 16.4 Cents/Pound
(+/-) ราคาถ่านหินปิดทรงตัวที่ระดับ 79.4 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน
(+/-) ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ขายหน่วยลงทุนไม่ทันเดือน พ.ค.
(+/-) รฟท.ปฎิเสธข่าวที่ทางไจก้าเตรียมขึ้นบัญชีดำ ITD ไม่ให้รับงานที่ไจก้าให้เงินทุนหลังเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
(+/-) คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลคาดว่าแผนลอยตัวน้ำตาลจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ต.ค. ก่อนจประกาศใช้ในเดือน ธ.ค.
(+/-) GGC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรก ราคา IPO 11.20 บาท จำนวนหุ้น IPO 246.67 ล้านหุ้นและมีทุนหุ้นสามัญรวม 986 ล้านหุ้น
(+/-) ตลาดหุ้นยุโรป และ BDI ปิดทำการเนื่องในวันแรงงาน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบ 2 ในวันที่ 7 พ.ค.
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ ได้แก่ US PMI รวมเดือนเม.ย. (2 พ.ค.) ดุลการค้าเดือนมี.ค. (4 พ.ค.) อัตราว่างงานเดือนเม.ย. (5 พ.ค.) EU ตัวเลขการว่างงานเดือนมี.ค. (2 พ.ค.) GDP ไตรมาส 1 (3 พ.ค.) ตัวเลขค้าปลีกเดือนมี.ค. (4 พ.ค.) TH ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. (3 พ.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน “แกว่งตัวกรอบแคบ”
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มแกว่งตัวบวกตามมุมมองบวกด้านเทคนิค เรามองว่าตลาดที่ขาดปัจจัยเด่น รวมถึงขาดโมเมนตัมของราคา commodities หนุน จะทำให้ตลาดแกว่งตัวออกข้าง เรายังคงแนะนำทยอยสะสมหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่มี Catalyst เด่นในช่วง 2H60 และแนะนำเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่มี Catalyst เฉพาะตัวหนุน
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
BDMS เก็งกำไร
เตรียมรับรู้กำไรพิเศษหลังจากขายเงินลงทุนบางส่วนใน BH ที่ราคาหุ้นละ 179 บาท 25 .19 ล้านหุ้น มูลค่าราว 4.5 พันล้านบาท
เตรียมเปิด BDMS Wellness Clinic บนพื้นที่ปาร์คนายเลิศในช่วง 4Q60
ราคาเหมาะสมปี 60 อิง IAA Consensus ที่ 23.60 บาท
CK เก็งกำไร
Backlog เพียงพอสำหรับรับรู้รายได้ปี 60-61
รอลุ้นงานเขื่อนที่ลาว ขนาดโครงการราว 7-8 หมื่นล้านบาท
CGS แนะนำซื้อราคาเหมาะสม 33.50 บาท
ทีมวิเคราะห์