- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 02 May 2017 17:37
- Hits: 1485
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ความตึงเครียดเกาหลีเหนือคลายหลัง Trump ลดคำพูดรุนแรง
คาดหุ้นไทยขยับขึ้นวันนี้จากความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีผ่อนคลายลง และมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อเศรษฐกิจโลกและผลประกอบการไตรมาส 1 ของสหรัฐและยุโรป ประธานาธิบดี Trump กล่าวในวันจันทร์ว่าถือว่าเป็นเกียรติหากได้พบผู้นำเกาหลีเหนือ เปิดโอกาสให้อาจจะมีการเจรจากันได้ สหรัฐหลีกภาวะต้องปิดการดำเนินงานของรัฐบาลหลังจากตกลงกันได้ในรัฐสภาต่อร่าง พรบ.งบประมาณเมื่อคืนวันอาทิตย์ ปัจจัยภายในประเทศ เศรษฐกิจส่งสัญญาณดีขึ้นอีกหลังราคาสินค้าปรับตัวดีขึ้นในเดือน เม.ย. นักลงทุนสถาบันในประเทศยังมองบวกต่อตลาด โดยซื้อสุทธิ 3.5 หมื่นล้านบาทในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้
หุ้นเด่นวันนี้: IRPC (ราคาปิด 5.60 บาท; NR; ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 6.00 บาท)
เราเลือก บมจ. ไออาร์พีซี (lRPC) เป็นหุ้นเด่นจากมุมมองธุรกิจปิโตรเคมีที่โดดเด่นมากในปีนี้ รวมไปถึง Valuation น่าสนใจ โดยเราคาดว่าราคาน้ำมันที่ไม่ผันผวนมากในปีนี้ จะทำให้ธุรกิจปิโตรเคมีซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำมันเป็นต้นทุนการผลิตได้รับประโยชน์กันอย่างถ้วนหน้า แม้เราคาดว่ากำไรสุทธิของ lRPC ในไตรมาส 1/60 จะไม่โดดเด่น เนื่องจากมีช่วงปิดซ่อมบำรุง แต่คาดว่าทั้งปีจะดีมาก โดยธุรกิจได้แรงหนุนจากค่าการกลั่น และสเปรดปิโตรเคมีที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะสเปรดของ Butadiene-Naphtha เพิ่มขึ้นมาเป็น 2,080 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน (1 เท่าตัวจากไตรมาสก่อน และ 3.8 เท่าของช่วงเดียวกันของปีก่อน) นอกเหนือไปจากนั้นแล้วโครงการ UHV (Upstream Project for Hygiene & Value Added Products) ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนผลการดำเนินงานของ lRPC เราคาดว่าปีนี้เป็นปีทองของธุรกิจปิโตรเคมี เนื่องจากดีมานด์ความต้องการแข็งแกร่งตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะจีนซึ่งมีการ Restocking ปิโตรเคมีตั้งแต่ไตรมาส 4/59 แล้ว ขณะที่ lAA consensus คาดการณ์ว่าปี 2560 นี้ EPS จะเติบโตราว 24%YoY เป็น 0.585 บาทต่อหุ้น และเติบโตต่อเนื่องอีกราว 17% เป็น 0.685 บาทต่อหุ้น ในปี 2561 ค่า PER ปี 2560 ของ lRPC ยังต่ำเพียง 9.5 เท่า lAA consensus ให้ราคาเหมาะสมของ lRPC ที่ 6.00 บาท ยังเหลือ Upside อีกราว 7% lRPC ราคาปิด 5.60 บาท ขณะที่ Price Pattern ของ lRPC มีความแข็งแกร่งในแนวโน้มหลักที่เป็นขาขึ้น (Uptrend) อย่างชัดเจน จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal โดยมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 6.70 บาท ทั้งนี้ lRPC มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 5 บาท (Resistance: 5.70, 5.80, 5.90; Support: 5.50, 5.40, 5.30)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ:
นายกฯ ประยุทธ์ตอบรับคำเชิญจากทรัมป์ ในการไปเยือนสหรัฐ จากแถลงการณ์ของทำเนียบขาว การตอบรับในครั้งนี้ ทั้งประธานาธิบดีทรัมป์และพลเอกประยุทธ์ต้องการเน้นย้ำความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศที่ได้สนับสนุนสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมาโดยตลอด (Bangkok Post)
ราคาผู้บริโภคขึ้นอีกครั้งในเดือน เม.ย. กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคของเดือนเม.ย. ซึ่งอิงจากราคาสินค้าและบริการ 422 รายการ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.38% YoY และ 0.16% MoM โดยการปรับขึ้น YoY นับเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 แล้ว หนุนโดยราคาน้ำมันและสินค้าสำเร็จรูปที่สูงขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.5% YoY และ 0.02% MoM นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วง 4 เดือนแรกของปี 60 เพิ่มขึ้น 1.03% YoY ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับขึ้น 0.61% YoY (Bangkok Post)
นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 3.5 หมื่น ลบ. ช่วงสี่เดือนแรก ขณะที่นักลงทุนในประเทศ (เช่น รายย่อย) มีสถานะขายสุทธิ 4.7 หมื่น ลบ. บริษัทจัดการกองทุนแห่งหนึ่งระบุว่าการแนวโน้มเติบโตของหุ้นไทยยังดูดีแม้ราคาไม่ไปไหน และชี้ว่าหุ้นขนาดเล็กและขนาดกลางบางหุ้นดูน่าสนใจ (กรุงเทพธุรกิจ, Setsmart)
คาดลอยตัวราคาน้ำตาลได้ ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นช่วงฤดูหีบอ้อย ปี 60/61 สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผย (เดลินิวส์)ความเห็น: น่าจะเป็นข่าวบวกสำหรับบริษัทน้ำตาลเพราะน่าจะได้ราคาขายสูงขึ้น
BDMS (ราคาปิด 20.30 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายของ AWS 28.00 บาท) คณะกรรมการได้อนุมัติให้บริษัทขายเงินลงทุนใน BH (Bt175.50) จำนวน 25,189,494 หุ้น หรือ 3.45% ของทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วของ BH ให้แก่นักลงทุนสถาบันที่ราคาหุ้นละ 179 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 4.5 พันล้านบาท หลังจากรายการดังกล่าว สัดส่วนหุ้นที่บริษัทถือใน BH จะเหลืออยู่ 20.50% (SET) ความเห็น: กำไรหลังหักภาษีจากธุรกรรมนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.3 พันล้านบาท ซึ่งจะเกิดขึ้นในไตรมาส 2/60
ต่างประเทศ:
ประธานาธิบดี Trump เปิดประตูเจรจารัฐบาล kim Jong Un ผู้นำเกาหลีเหนือ ระบุว่าเป็นเกียรติถ้าจะได้พบผู้นาในบรรยากาศที่เหมาะสม (Bloomberg)
เลี่ยงชัทดาวน์รัฐบาลสหรัฐ ผู้เจรจาในสภาคองเกรสบรรลุข้อตกลงในช่วงท้ายวันอาทิตย์บนงบประมาณรัฐราว 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหาการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐได้ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ สภาคองเกรสยังได้เห็นชอบข้อตกลงทวิภาคีซึ่งจะเป็นการออกกฎหมายหลักอันแรกเพื่อปูทางในคองเกรสนับตั้งแต่ Trump เข้าเป็นประธานาธิบดีวันที่ 20 ม.ค. งบประมาณได้ถูกแช่ไว้เมื่อ 7 เดือนที่แล้วหลังจากเริ่มปีงบประมาณ 60 ไปเมื่อ 1 ต.ค. ปีก่อน ถ้าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ก่อนเที่ยงคืนวันศุกร์จะทำให้รัฐบาลต้องปิดทำการสำหรับการดำเนินการทุกอย่าง แนวคิดจากรัฐบาลหลายอย่างถูกปฏิเสธจากผู้เจรจา อาทิ เงินที่จะเอาไปสร้างกำแพงกั้นสหรัฐ-เม็กซิโกซึ่ง Trump อ้างว่าจำเป็นเพราะจะช่วยกั้นการอพยพที่ผิดกฎหมายและยาเสพติด Trump กล่าวว่าแผนโครงสร้างพื้นฐานที่แยกออกไปจะเข้าสู่กระบวนการภายใน 3 สัปดาห์ (Reuters)
เกาหลีเหนือทดลองยิงขีปนาวุธเมื่อวันเสาร์แต่ไม่สำเร็จ นับเป็นการทดลองยิงมิสไซล์ไม่สำเร็จติดต่อกันสี่ครั้งแล้วตั้งแต่ มี.ค. เกาหลีได้ทดลองยิงขีปนาวุธไม่นานหลังจาก Rex Tillerson เลขาธิการรัฐของสหรัฐเตือนว่าหากห้ามโครงการนิวเคลียร์หรือขีปนาวุธไม่สำเร็จอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นหายนะได้ ก่อให้เกิดการประณามทั่วโลก (Reuters)
ราคาพันธบัตรปรับตัวลงเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนจำกัดการซื้อขายก่อนการประกาศข้อมูลต่าง ๆ ในสัปดาห์นี้ เริ่มจากการประชุมคณะกรรมการ FOMC และรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย. ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลง 2/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 2.289% เพิ่มขึ้นจาก 2.282% เมื่อวันศุกร์ (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเทียบกับเงินยูโรและอ่อนค่าจากระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเทียบกับเงินเยนเมื่อวันจันทร์ จากข้อมูลภาคการผลิตและเงินเฟ้อที่อ่อนแอ เงินยูโรแข็งค่า 0.2% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0912 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบวันที่ 1.0923 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 111.63 เยน แต่อยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ 111.91 เยน ก่อนการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว (Reuters)
สหรัฐ:
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเมื่อวันจันทร์ ได้แรงหนุนจากหุ้น Apple และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ตัวอื่น ๆ ซึ่งชดเชยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอและดันให้ดัชนี NASDAQ ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง หุ้น Apple ปรับตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคาดว่าผลประกอบการจะออกมาแข็งแกร่งซึ่งมีกำหนดจะเผยแพร่ในวันอังคารนี้ ในสัปดาห์นี้นักลงทุนรอการประกาศผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาดีกว่าที่คาดการณ์ (Reuters)
คาดกำไรสุทธิบริษัทในดัชนี S&P500 จะเพิ่มขึ้น 13.6% ในไตรมาส 1/60 ซึ่งมากที่สุดนับแต่ปีค.ศ. 2011 เพิ่มขึ้นจาก 12.4% เมื่อวันพฤหัสที่แล้ว และจาก 10% เมื่อวันที่ 12 เม.ย. จากข้อมูลของ Thomson Reuters l/B/E/S นักลงทุนรอการประกาศผลประกอบการเพื่อปรับมูลค่าหุ้นให้เหมาะสมเนื่องจากที่ผ่านมา S&P500 เทรดกันอยู่ที่ค่าพีอี 18 เท่า ซึ่งสูงกว่าค่าพีอีเฉลี่ยระยะยาวที่ 15 เท่า อิงจากประมาณการพีอีล่วงหน้า (Reuters)
เฟดจะจัดการประชุมนโยบายเป็นเวลา 2 วันเริ่มวันนี้ เป็นที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะคงนโยบายไว้ตามเดิมและจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อสิ้นสุดการประชุมในวันพุธ เนื่องจากการใช้จ่ายผู้บริโภคอ่อนตัวลงและแรงกดดันเงินเฟ้อลดลงในเดือนมี.ค. ตลาดจึงไม่คาดว่าปัจจัยเหล่านี้จะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนมิ.ย. หรืออย่างน้อยที่สุดตราบเท่าที่การจ้างงานปรับตัวดีขึ้นในเดือนเม.ย. และพ.ค. (Reuters)
เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในอัตรา 0.7% ในไตรมาส 1/60 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี และต่ำกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.2% และต่ำกว่าการขยายตัวในไตรมาส 4/59 ที่ระดับ 2.1% เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ซบเซาและธุรกิจต่าง ๆ ลงทุนเกี่ยวกับสินค้าคงคลังน้อยลง อย่างไรก็ตาม เฟดสาขาแอตแลนตาเผยว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 4.3% YoY ในไตรมาส 2/60 ซึ่งเป็นการขยายตัวเร็วขึ้นกว่าตัวเลข GDP ประมาณการไตรมาส 2/60 ของเฟดสาขานิวยอร์กที่ระดับ 2.3% (Reuters)
การใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐคงที่ในเดือน มี.ค. ซึ่งติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 แล้ว โดยตัวเลขปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% YoY ในไตรมาส 1/60 เป็นการเติบโตช้าที่สุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/52 เนื่องจากการซื้อขายสินค้าคงทน เช่น รถยนต์ ที่ปรับตัวลง 0.7% (Reuters)
เงินเฟ้อเดือนมี.ค. ปรับลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2544 ดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคล ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ลดลง 0.1% นับเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกตั้งแต่ปี 2544 หลังจากก่อนหน้านี้ที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือน ก.พ. ขณะที่ตัวเลขในช่วง 12 เดือนแรกจนถึง มี.ค. ดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐานเพิ่มขึ้น 1.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. ปีที่แล้ว โดยดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐานเป็นดัชนีที่ Fed จะใช้วัดอัตราเงินเฟ้อ โดยที่ธนาคารกลางตั้งเป้าไว้ที่ 2% (Reuters)
ยุโรป:
ตลาดยุโรปส่วนใหญ่ปิดทำการวันจันทร์ เนื่องในวันแรงงาน (Reuters)
เอเชีย:
ญี่ปุ่น: นายชินโซ เอเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่าญี่ปุ่นต้องการแก้ปัญหาเรื่องดินแดนที่มีความผูกพันกับรัสเซียตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง พวกเขาไม่ได้ลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพอย่างเป็นทางการเมื่อสิ้นสุดสงคราม เนื่องจากมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับหมู่เกาะในแปซิฟิกตะวันตกเรียกว่า Northern Territories ในประเทศญี่ปุ่นและ Kuriles ใต้ในรัสเซีย หมู่เกาะเหล่านี้ถูกยึดครองโดยกองกำลังโซเวียตและประชาชนชาวญี่ปุ่นจำนวน 17,000 คนถูกบังคับให้หลบหนี (Reuters)
ระดับหนี้ของจีนกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึงจุดที่ส่งสัญญาณเตือนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการเงิน เจ้าหน้าที่อาวุโสของธนาคารกลางกล่าวในความเห็นเกี่ยวกับความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงิน นาย Xu Zhong หัวหน้าสำนักวิจัยของ PBOC กล่าวว่าจีนต้องการลดค่าใช้จ่ายในระดับ "เหมาะสม" เพื่อลดหนี้ของภาคการเงินและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางการเงินที่เป็นระบบ (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์:
น้ำมันดิบร่วงกว่า 1% วันจันทร์ เพราะบ่อน้ำมันสำคัญสองแห่งในลิเบียกลับมาผลิตและสหรัฐที่ผลิตน้ำมันสวนการลดกำลังผลิตของ OPEC น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้าลบ 53 เซนต์ ปิด 51.52 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้า มิ.ย. ลบ 49 เซนต์ (-1%) ปิด 48.84 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
แท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก 9 แท่นสำหรับสัปดาห์ถึงวันที่ 28 เม.ย. มากสุดนับแต่ เม.ย. 58 Baker Hughes บริษัทข้อมูลพลังงานระบุ (Reuters)
ทองคำเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยวันจันทร์ ผลักดันโดยข้อมูลการใช้จ่ายก่อสร้างของสหรัฐที่และตัวเลขการผลิตอ่อนแอกว่าคาดทำให้ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลง แต่อีกทางก็มีแรงกดดันจากการตกลงกันเพื่อไม่ให้เกิดการหยุดทำการของรัฐบาลสหรัฐ ทองคำตลาดจรลบ 0.2% ปิด 1,265.46 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังขึ้นไปถึง 1,265.46 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 0-2680-5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 0-2680-5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 0-2680-5056
MISS. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
