- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 26 April 2017 17:52
- Hits: 3831
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
ผันผวน? คาดมีโอกาสปรับขึ้น หลัง 2 วันที่ผ่านมา ดัชนีฯ สวนทางตลาดส่วนใหญ่ที่ยังตอบรับในเชิงบวกต่อผลการเลือกตั้งของฝรั่งเศส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23/4/60) ซึ่งนายเอมมานูเอล มาครอง ที่มีแนวคิดสายกลางมีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 และเข้าชิงกับนางมารีน เลอเปน ที่ชูนโยบายประชานิยมขวาจัด ในการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ในวันที่ 7/5/60 ขณะที่ผลสำรวจล่าสุด พบว่า การเลือกตั้งรอบ 2 นายมาครอง มีคะแนนนำ นางเลอเปน ซึ่งช่วยคลายความกังวลต่อประเด็นฝรั่งเศสจะถอนตัวออกจาก EU และยังทำให้ทั้งตลาดสหรัฐฯ และยุโรป ปรับขึ้นต่อเนื่อง
ขณะที่ปัจจัยหนุนจากความคาดหวังต่อการดำเนินงานนโยบายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ตามที่ ปธน.ทรัมป์ หาเสียงไว้ เริ่มมีน้ำหนักมากขึ้น คาดว่าจะมีการประกาศมาตรการปฏิรูปภาษี ในวันนี้ (คาดทราบเช้าวัน พฤ. ตามเวลาไทย) โดยล่าสุดคาดจะปรับลดภาษีธุรกิจลงเหลือ 15% จาก 39.6% และจะลดภาษีการโอนกำไรธุรกิจในต่างประเทศกลับสู่สหรัฐลงเหลือ 10%
ทางด้านราคาน้ำมัน ฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อย คาดส่งผลดีบ้างต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน แต่อย่างไรก็ตาม คาดยังถูกกดดันจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในสหรัฐฯ
ส่วนประเด็นในประเทศ ยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ อย่างไรก็ตามได้รับปัจจัยบวกเข้ามาบ้างจาก Fund Flow และยังอยู่ในช่วงการทยอยประกาศผลการดำเนินงาน ที่คาดมีแรงเก็งกำไรจนถึงกลางเดือนพ.ค. ขณะที่คาดยังมีความกังวลอยู่บ้าง โดยเฉพาะต่อตัวเลข NPL ของกลุ่มธนาคารที่เพิ่มขึ้น
และยังแนะติดตามประเด็นที่สหรัฐฯ ระบุว่าไทยเป็น 1 ใน 16 ประเทศ ที่ทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลการค้า ล่าสูงสุดในรอบ 3 ปี มูลค่า 18,920 ล้านUSD หรือประมาณ 650,000 ล้านบาท และคาดสหรัฐฯ อาจมีมาตรการตอบโต้ออกมา (เช่น มาตรการด้านภาษี) ภายใน 90 วัน โดยเฉพาะต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน รวมถึงประมง เป็นต้น
ส่วนทางด้านปัจจัยกดดันจากความไม่แน่นอนในการเปิดประมูลของภาครัฐ ซึ่งส่งผลต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง คาดเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลัง ครม. เห็นชอบประเด็นการปรับร่างทีโออาร์ใหม่สำหรับรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง และแนะให้จัดทำร่าง TOR ใหม่ เสร็จภายใน 3 เดือน คาดมีความเป็นไป ได้ที่จะเปิดประมูลในช่วง 2H/60
SET SET50 SET100
1,562.27 -2.39 993.39 +0.88 2,234.59 +0.13
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดต่างประเทศ DJIA +232.23, NASDAQ +41.67, S&P +14.46, FTSE +10.96, CAC +9.03 และ DAX +12.06
ภายใต้ปัจจัยหนุน (1) ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ รวมถึงแคทเธอร์พิลลาร์ และแมคโดนัลด์ (2) ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยยอดขายบ้านใหม่ - มี.ค. เพิ่มขึ้น 5.8%MoM อยู่ที่ 621,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่ก.ค.’59 สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 0.8% เช่นเดียวกับราคาบ้าน – ก.พ. เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 32 เดือนในเดือนก.พ. จากสต็อกบ้านที่อยู่ในระดับต่ำ โดยดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐฯ – ก.พ. เพิ่มขึ้น 5.8%YoY และ (3) มาตรการปฏิรูปภาษี ที่คาดจะมีการเปิดเผยรายละเอียดในวันนี้ (คาดทราบเช้า พฤ.ตามเวลาไทย) ขณะที่มีแผนที่จะผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากกว่า 3% ต่อปี สูงกว่าระดับ 1.6% เมื่อปี’59
ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ยังตอบรับในเชิงบวกต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก โดยนายเอมมานูเอล มาครอง ผู้สมัครซึ่งมีแนวคิดสายกลาง มีคะแนนนำเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับการที่ฝรั่งเศสอาจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. +US$0.33 อยู่ที่US$49.56 ต่อบาร์เรล ภายใต้คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จะปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นเป็นไปอย่างจำกัด จากความไม่มั่นใจว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะสามารถทำให้ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบทั่วโลกปรับตัวลงได้หรือไม่? แม้โอเปกและผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก พยายามปรับลดกำลังการผลิตเพื่อทำให้ตลาดน้ำมันกลับสู่ภาวะสมดุล หลังจากอยู่ในภาวะน้ำมันล้นตลาดก่อนหน้านี้
ขณะที่สมาชิกโอเปกจะจัดการประชุมในวันที่ 25/5/60 เพื่อตัดสินใจว่าจะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตเกินเดือนมิ.ย.หรือไม่?
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
17.32 1.93 3.14
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 46,297.44
สถาบัน -1,280.93
บัญชีหลักทรัพย์ -117.21
ต่างประเทศ +1,141.94
ในประเทศ +256.21
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. -US$10.3 อยู่ที่US$ 1,267.2 ต่อออนซ์ ยังถูกกดดันหลังนายเอมมานูเอล มาครอง
ผู้สมัครสายกลางพรรคอิสระ ได้รับชัยชนะด้วยคะแนนสูงสุดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้มีการขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +1,142 ล้านบาท สะสม YTD +6,084 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,173 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ปี’59 ซื้อสุทธิสะสม 77,927 ล้านบาท)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 26 - 28 เม.ย. 2560
26/4/60 สหรัฐฯ เปิดเผย
สต็อกน้ำมัน
27/4/60 ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)
สหรัฐฯ เปิดเผย
ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค.
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมี.ค.
28/4/60 สหรัฐฯ เปิดเผย
ตัวเลขประมาณการครั้งแรก GDP – 1Q/60
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนเม.ย.
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงท้ายเดือนเม.ย.
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มอาหาร ได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เช่น BR และ CBG เป็นต้น
(2) กลุ่มธนาคาร ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยปี ’60 เช่น KBANK และ SCB เป็นต้น
(3) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง เช่น IVL และ PTTGC เป็นต้น
(4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น และความต้องการในประเทศที่คาดดีขึ้น เช่น SCC
(5) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาคเอกชนที่เข้ามาต่อเนื่อง เช่น SQ เป็นต้น
(6) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น และ BANPU ปรับตัวขึ้นตามราคาถ่านหิน
(7) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วง 1Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น WORK
(8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจขนส่งทางเรือ เช่น PSL คาดได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินที่มีแนวโน้มฟื้นตัว จากการปรับตัวของอุตสาหกรรมเรือเทกอง
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.05 อยู่ที่ 2.33%
(ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.08 อยู่ที่ 10.76
หุ้นแนะนำ : IVL
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร .02-684-8788