- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 25 April 2017 17:12
- Hits: 1411
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มลงทดสอบ 1550 แนวต้าน 1570-1575
SET Index: 1559.64 ปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับที่ 1558-1560 จุด หลังจากฟื้นตัวไปทดสอบแนวต้านที่ 1570 จุด ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้น สะท้อนถึงแรงขายที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มในระยสั้นยังมีโอกาสปรับตัวลดลง โดยมีแนวรับที่ 1550 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1520 จุด และมีแนวต้านที่ 1570 จุด
แนวต้าน : 1564 และ 1567
แนวรับ : 1558 และ 1555
BANPU = 19.50 / 19.70, BEAUTY = 9.00 / 9.40, IRPC = 5.30 / 5.40, KBANK = 184 / 186, AOT = 41.00 / 41.50
Lam Soon (Thailand) (LST TB; THB 5.65) -ซื้อ
แนวต้าน : 6.00 และ 6.10 / แนวต้านสำคัญ 6.40
แนวรับ : 5.65 และ 5.60
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคต่อเนื่อง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น
MACD ปรับตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเข้าใกล้ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ LST โดยมีแนวรับที่ 5.65 และ 5.60 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 6.00 และ 6.10 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 5.30 ลงไป
Premier Products (PPP TB; THB 5.85) -ซื้อ
แนวต้าน : 6.30 และ 6.50 / เป้าหมาย 7.20
แนวรับ : 5.85 และ 5.75
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น
MACD เคลื่อนไหวออกด้านข้างที่ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเริ่มทะลุผ่านแนวโน้มขาขึ้น RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบระดับ 50
แนะนำซื้อ PPP โดยมีแนวรับที่ 5.85 และ 5.75 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 6.30 และ 6.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 5.65 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…แกว่งตามเหตุการณ์ในต่างประเทศ
หากดูในตลาดต่างประเทศที่จะส่งผลต่อการลงทุนในลตาดหุ้นไทย ทางจิตวิทยา คือ การประกาศงบ Q1/17 ของหุ้นใน S&p 500 ที่คาดว่าจะทยอยประกาศถึง 190 บริษัท คือเป็น 40% ของมูลค่าดัชนี ดังนั้นในช่วงการประกาศงบในอาทิตย์นี้ น่าจะมีส่วนที่ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐคึกคักและผันผวนแรงขึ้น จากการคาดการณ์ใน IBES พบว่า Q1/17 อัตราการทำกำไรของหุ้นใน S&P 500 จะโตถึง 11.4% เพิ่มขึ้นจากประมาณการณ์เดิมที่ 10.4% สะท้อนตลาดมีมุมมองในเชิงบวกมากขึ้นกับผลการดำเนินงาน Q1/17 ของบริษัทใน S&P 500
หากยังไม่มีเหตุการณ์เพิ่มเติมในคาบสมุทรเกาหลี เรามองว่าการประกาศงบ Q1/17 ของหุ้นในสหรัฐ จะเป็นปัจจัยครอบงำตลาด คือ หากออกมาดีแล้วตลาดหุ้นสหรัฐขึ้น ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย น่าจะดีดตัวขึ้นตาม และในทางตรงข้าม หากแย่กว่าคาด ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน ก็จะส่งผลให้ในภูมิภาคผันผวนตาม ส่วนผลการดำเนินงานในตลาดหุ้นไทย หลังจากนี้คือประมาณ ต้นเดือน พ.ค. คงจะมีผลการดำเนินงานของหุ้นใหญ่ในกลุ่มพลังงานทยอยประกาศ
หลังตลาดผิดหวังผลการดำเนินงานของหุ้นใหญ่ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หลังจากนี้ทิศทางดัชนี คงจะอิงกับเหตุการณ์ที่เข้ามากระทบในแต่ละวัน จนกว่างบของหุ้นในกลุ่มที่ไม่ใช่ธนาคารทยอยประกาศ ซึ่งมองกันว่าคงจะไม่แย่ลง โดยเฉพาะพลังงาน-ปิโตรเคมี แต่ยังต้องเพิ่มความระมัดระวังหุ้นที่โตจากภายใน ทั้ง ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์สร้างบ้าน โยงท่องเที่ยว อาหาร-เครื่องดื่ม หลังอัตราการขยายตัวของสินเชื่อ ส่งสัญญาณการชะลอตัวกว่าที่คาดไว้
ระหว่างที่ยังรองบ Q1/17 ของหุ้นที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน คาดดัชนี SET จะยังแกว่งในกรอบแคบตามปัจจัยในต่างประเทศที่เข้ามาในแต่ละวันรวมทั้งราคาน้ำมัน หากตลาดหุ้นสหรัฐขึ้นต่อจากแรงหนุนของงบ ตลาดหุ้นไทยจะมีกรอบในการลงจำกัดลง ในทางกลับกัน กรอบการขึ้นก็คงจำกัดเช่นกัน เพราะประเด็นที่จะหนุนตลาดหุ้นไทยในรอบนี้ คือ ปัจจัยทางพื้นฐาน อย่างงบของหุ้นที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน เนื่องจากที่ผ่านมาการที่ตลาดหุ้นไทยยัง Laggard กว่าเพื่อนบ้านก็มาจากอัตราการทำกำไรของตลาดยังต่ำกว่าภูมิภาค ค่อนข้างมาก เราจึงมองว่าอัตราการทำกำไรของตลาดจะเป็นปัจจัยตัดสินดัชนี ท่ามกลางยังไม่เห็นความชัดเจนการไหลเข้าของเม็ดเงินจากต่างประเทศ
วันนี้มองทิศทางดัชนี SET จะยังเผชิญกับแรงขายทำกำไรหุ้นใหญ่ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หลังยังไม่มีประเด็นใหม่ๆ ในการเทรด ขณะที่ปัจจัยใน ต่างประเทศ แม้จะดีดตัวขึ้นรับข่าวการเลือกตั้งในฝรั่งเศสแต่ ยังรอดูการประกาศงบ โดยวันนี้ดัชนี SET น่าจะเปิดในแดนบวกแล้วค่อยๆ เผชิญกับแรงขายทำกำไรจนลงไปติดลบ โดยคาดจะยังแกว่งในกรอบแคบ โดยมีแนวรับที่ 1558-1554 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1568-1572 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร SAWAD และ HMPRO
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,559.64 จุด ลดลง 5.02 จุด (-0.32%) มูลค่าการซื้อขาย 21,584.65 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลง สวนทางตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่เป็นบวกตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปที่ปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังนักลงทุนคลายกังวลการเลือกตั้งในฝรั่งเศส ขณะที่บ้านเรามีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงานและวัสดุก่อสร้าง
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งตัวลง ภาพรวมยังขาดปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน โดยปัจจัยที่มากดดันตลาดคือแนวโน้มค่าเงินบาทที่เริ่มกลับมาอ่อนค่าลงรอบใหม่ ซึ่งอาจจะกดดันให้เกิดแรงขายปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติรอบใหม่ ทางเทคนิคหากกลับไปยืนเหนือระดับ 1560 จุดไม่ได้จะยืนยันสัญญาณขาย และมีโอกาสลงต่อไปที่ระดับ 1535 จุด
Technical Pick (PM) ...
Lam Soon (Thailand) (LST TB; THB 5.65) - ซื้อ
Premier Products (PPP TB; THB 5.85) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]