- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 24 April 2017 17:04
- Hits: 3510
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
การเลือกตั้งฝรั่งเศสเริ่มผ่อนคลายและแผนภาษีของทรัมป์หนุนอารมณ์ตลาด
คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส Emmanuel Macron คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งรอบแรกไปได้เมื่อวันอาทิตย์ รวมถึงผลสำรวจจากโพลเผยคะแนนเสียงของเขาจะนำห่างในการเลือกตั้งในรอบถัดไป ทำให้ลดความเป็นไปได้ของ Frexit นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกจากการที่ทรัมป์บอกว่าจะมีการประกาศการปฏิรูปภาษีสหรัฐในวันพุธ ขณะที่ IHS Markit เผยข้อมูลดัชนี PMI ของยูโรโซนและญี่ปุ่นเดือน เม.ย.ออกมาค่อนข้างดี แม้ตัวเลขสหรัฐจะออกมาไม่ดีมากนัก ธนาคารกลาง ECB และ BOJ จะมีการประชุมในสัปดาห์นี้ โดยตลาดคาดว่าธนาคารทั้งสองแห่งจะยังคงนโยบายไว้อยู่ ปัจจัยภายในประเทศค่อนไปทางบวกเช่นกัน โดยส่งออกเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 9.22% YoY ดีกว่าคาดการณ์อีกครั้ง ขณะที่กำไรกลุ่มธนาคารไตรมาส 1/60 ปรับตัวขึ้นทั้ง QoQ และ YoY
หุ้นเด่นวันนี้ : KKP (ราคาปิด 71.50 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 79.00 บาท)
ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นแนะนำในวันนี้จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง สินเชื่อที่กำลังฟื้นตัว รวมถึงอัตราเงินปันผลตอบแทนที่น่าสนใจมาก KKP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/60 ที่ 1.52 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9% QoQ และ 37.7% YoY หนึ่งในการปรับตัวที่ดีขึ้นที่สำคัญในช่วงไตรมาส 1/60 คือการกลับมาเติบโตของสินเชื่ออีกครั้งหนึ่งหลังจากที่หดตัวมา 3 ปีติดต่อกัน โดยสินเชื่อในไตรมาส 1/60 ขยายตัว 1.3% YTD หนุนโดยหลากหลายกลุ่ม ได้แก่ สินเชื่อเคหะ สินเชื่อไมโครเอสเอ็มอี สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อองค์กรขนาดใหญ่ และสินเชื่อ Lombard ในระหว่างที่สินเชื่อกลุ่มเช่าซื้อยังหดตัวอยู่ เราคาดว่าแนวโน้มสินเชื่อของ KKP จะยังดำเนินต่อไปในช่วงที่เหลือของปีนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของธนาคารที่จะขยายสินเชื่อไปกลุ่มอื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่มเช่าซื้อมากขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ของสินเชื่อรายย่อยจะถูกผลักดันผ่านทางช่องทางใหม่ เช่น ตัวแทนขายตรง รวมถึงผ่านทางช่องทางเดิมหรือสาขาธนาคาร เราคาดสินเชื่อของธนาคารจะเติบโต 6% ในปีนี้ ฟื้นตัวจาก -3.5% ในปี 58 และ -0.7% ในปี 59 เราคาดการณ์กำไรจะเติบโต 6.4% ในปี 60 และ 11.2% ในปี 61 นอกจากนี้ ประมาณการกำไรในปี 60 ของเราอาจมีอัพไซด์เพิ่มเติมหากระดับการตั้งสำรองฯ ของธนาคารต่ำกว่าที่เราคาด นอกจากนั้นแล้ว หุ้นดังกล่าวให้อัตราเงินปันผลตอบแทนที่ดีมาก โดยมีเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 59 ที่อัตรา 4.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนครึ่งปีที่ 5.6% หรือ 11.2% ต่อปี มีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 28 เมษายน 2560 นี้ Price Pattern ของ KKP ยังมีความแข็งแกร่งในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) อย่างชัดเจน จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ KKP มีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 81 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 100 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ KKP มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 68.25 บาท (Resistance: 72.25, 73.25, 75.00; Support: 70.75, 69.75, 68.00)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ส่งออกเดือน มี.ค. 60 โตเกินคาด : ยอดส่งออกของไทยเดือน มี.ค.เพิ่มขึ้น 9.22%YoY ทะลุ 2.08 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ไตรมาสแรกส่งออกโต 4.92% YoY เหตุเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่วนการนำเข้าเดือน มี.ค.60 เพิ่มขึ้น 19.26% YoY เป็น 1.92 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้เดือน มี.ค.เกินดุล 1,617 ล้านเหรียญสหรัฐฯ การส่งออกเดือน มี.ค.60 กลับมาพลิกเป็นบวกอีกครั้งหลังจากที่ติดลบ 2.8%YoY ไปในเดือน ก.พ.60 (โพสต์ทูเดย์)
กำไรกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY โดยกำไรของธนาคารทั้ง 11 แห่งในไตรมาส 1/60 อยู่ที่ประมาณ 5.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% QoQ และ 8.5% YoY การปรับตัวขึ้น QoQ ส่วนใหญ่มาจากการปรับตัวลงตามฤดูกาลของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ขณะที่กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY หนุนโดยการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลงเนื่องจากธนาคารส่วนใหญ่ได้ตั้งสำรองในระดับสูงไว้แล้วตั้งแต่ช่วงต้นปี 59 (SET) ความเห็น: กำไรสุทธิรวมของธนาคารทั้ง 9 แห่งที่เราศึกษาค่อนข้างเป็นไปตามที่เราประมาณการ เรายังคงาเพิ่มน้ำหนัก" สำหรับกลุ่มธนาคารเนื่องจากเราคาดว่ากลุ่มดังกล่าวจะค่อยๆ ฟื้นตัว ทั้งในแง่ของสินเชื่อและคุณภาพสินทรัพย์ ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ร่าง พ.ร.บ. การบินพลเรือนใหม่เพื่อปลดธงแดงส่อแววล่าช้า รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนิน การร่าง พ.ร.บ.การบินพลเรือน... พ.ศ. เพื่อนำไปสู่ขบวนการปลดล็อกธงแดง จากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) ว่า ขณะนี้เกิดปัญหาความล่าช้าในขั้นตอนการตรวจพิจารณากฎหมายของคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะที่ 4 ซึ่งมี นายอมร จันทรสมบูรณ์ เป็นประธาน (ข่าวสด)
พับแผนโรงไฟฟ้าถ่านหินที่กระบี่ หลังนายกฯ ประยุทธ์ให้ผลการประเมินสิ่งแวดล้อม (EHlA) อันเดิม ไม่ผ่านและสั่งให้ กฟผ. ร่างอันใหม่มา EGAT ระบุจะต้องใช้เวลาราว 18 เดือน ถึงสองปีในการร่าง EHlA ใหม่แต่อาจจะนานกว่านั้นหรือไม่มีกำหนดก็ได้เพราะผู้ประท้วงยังยืนยันจะสู้แม้ EHlA ใหม่เห็นชอบแล้วก็ตาม (Bangkok Post) ความเห็น: ที่ต้องพยายามตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินกันเพราะไฟฟ้าภาคใต้นั้นขาดแคลน บริษัทที่ได้ประโยชน์จากข่าววนี้คือบริษัทโรงไฟฟ้าที่จะตั้งโครงการในภาคใต้หรือที่อื่นของประเทศก็ตาม ถ้า กฟผ. ต้องซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ก็จะต้องสร้างระบบไฟฟ้าเพิ่มเติมและบริษัทที่รับสร้างสายส่งไฟฟ้าอย่าง ETE (3.96 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 6.20 บาท) น่าจะได้ประโยชน์ด้วย
SCB (ราคาปิด 160.00 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายของ AWS ปี 60 185.00 บาท) แหล่งข่าวเผยว่าข้อตกลงในการซื้อขาย SCB Life คาดว่าจะสรุปในเบื้องต้นได้ในเดือน พ.ค. นี้ ปัจจุบัน มีผู้ประมูล 4 รายที่ให้ความสนใจ ได้แก่ AlA Group Manulife Prudential และ FWD Group (ข่าวหุ้น) ความเห็น : ถึงแม้จะมีข่าวลือออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ SCB ยังไม่ได้มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด
ต่างประเทศ :
ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส Emmanuel Macron คว้าชัยชนะไปได้ในการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้ลดความเสี่ยงเรื่องผลการเลือกตั้งที่จะออกมาเหนือความคาดหมายในการเลือกตั้งรอบสุดท้ายลงไปได้ โดย Macron คว้าชัยและจะผ่านเข้าสู่การเลือกตั้งในรอบถัดไปในวันที่ 7 พ.ค.นี้ ขณะที่ Marine Le Pen ตามมาเป็นอันดับสอง ชัยชนะของ Macron ทำให้กลุ่มขวาสุดและซ้ายสุดของฝรั่งเศสพ่ายแพ้หลังจากครอบงำการเมืองฝรั่งเศสมากว่า 60 ปี (Reuters)
ประธานาธิบดีทรัมป์เผยว่าเขาจะประกาศแผนปฏิรูประบบภาษีครั้งใหญ่ในวันพุธนี้ โดยเขาจะลงนามออกคำสั่งพิเศษเกี่ยวกับพลังงานและสิ่งแวดล้อมในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะทำให้สหรัฐสามารถพัฒนาพลังงานทั้งบนดินและในทะเล จากคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่ง (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในวันอาทิตย์ โดยไม่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ๆ ที่จะกำหนดทิศทางของตลาด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวลงอยู่ที่ 2.23% หลังจากที่ปรับตัวลงช่วงสั้น ๆ ที่ระดับ 2.165% เมื่อวันอังคาร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่วันที่ 10 พ.ย. และร่วงลงจากที่ระดับ 2.63% เมื่อวันที่ 14 มี.ค. (Reuters)
เงินยูโรแข็งค่าสูงสุดในรอบ 5 เดือนเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายเช้าวันนี้ หลังจากนายมาครองกวาดชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก เงินยูโรแข็งค่า 0.9% สู่ระดับ 1.0868 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากก่อนหน้านี้แข็งค่าขึ้นไปถึง 1.0940 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่วันที่ 10 พ.ย. เมื่อเทียบกับเงินเยน เงินยูโรแข็งค่า 2.3% สู่ระดับ 119.66 เยน หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ 120.935 เยน ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลง 1% สู่ระดับ 99.998 แม้ว่าจะน้อยลงเนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเทียบกับเงินเยนก็ตาม ซึ่งดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า 0.9% ที่ระดับ 110.04 เยน โดยแข็งค่าเหนือระดับ 110 เยนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก แต่ดัชนี S&P500 สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์แรกในดัชนีทั้งสาม (Reuters)
ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 สดใส จากบริษัทจำนวน 95 แห่งซึ่งอยู่ในดัชนี S&P500 ที่ได้รายงานผลการดำเนินงานจนถึงเช้าวันศุกร์ ประมาณ 75% มีผลการดำเนินงานดีเกินคาด จากข้อมูลของ Thomson Reuters ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของ 4 ไตรมาสที่ผ่านมาที่ 71% โดยรวมแล้วกำไรของบริษัทที่อยู่ใน S&P500 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 11.2% ในไตรมาส 1/60 ซึ่งสูงสุดนับแต่ปีค.ศ. 2011 ณ วันที่ 11 เม.ย. กำไรของบริษัทเหล่านี้เพิ่มขึ้น 10% (Reuters)
ฟิสเชอร์คาดว่าจะมีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ นายแสตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟดเผยว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้แม้ว่าจะมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ประกาศในช่วงที่ผ่านมาไม่นานนี้จะอ่อนตัวลงก็ตาม (CNBC) การเติบโตของภาคเอกชนสหรัฐลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนในเดือนเม.ย. มาร์กิตเผยดัชนี US Composite Output เบื้องต้นของมาร์กิตอยู่ที่ 52.7 ลดลงจาก 53.0 ในเดือนมี.ค. และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ดัชนีกิจกรรมธุรกิจภาคบริการเบื้องต้นสหรัฐอยู่ที่ 52.5 ลดลงจากที่ระดับ 52.8 ในเดือนมี.ค. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อเบื้องต้นสำหรับภาคการผลิตสหรัฐอยู่ที่ระดับ 52.8 ลดลงจากที่ระดับ 53.3 ในเดือนมี.ค. และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนเช่นกัน ดัชนี US Manufacturing Output ลดลงสู่ระดับ 53.4 ในเดือนเม.ย. ลดลงจากที่ระดับ 54.3 ในเดือนมี.ค. และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน (lHS Markit)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปร่วงเมื่อวันศุกร์ ถูกฉุดโดยหุ้นบลูชิพฝรั่งเศสเนื่องจากนักลงทุนเทขายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกในวันอาทิตย์ (Reuters)
โดยตลาดคาดว่าธนาคารกลางจะยังคงนโยบายไว้อยู่ (Reuters)ECB จะจัดประชุมวันพฤหัสนี้
ฤดูกาลการประกาศผลกำไรไตรมาส 1/60 ของหุ้นยุโรปคาดว่าจะเริ่มสัปดาห์นี้ โดยข้อมูลจาก Thomson Reuters l/B/E/S คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น 7.2% YoY หากไม่รวมกลุ่มพลังงาน กำไรคาดเพิ่มขึ้น 2.9% YoY. (Reuters)
ดัชนี PMI ของยูโรโซนเดือนเม.ย. แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี ดัชนี Markit flash Eurozone PMl Composite Output ในเดือนเม.ย. อยู่ที่ 56.7 จุด เพิ่มขึ้นจาก 56.4 จุดในเดือนมี.ค. ขณะที่ดัชนี Flash Eurozone Services PMl Activity เดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 56.2 จาก 56.0 จุดในเดือน มี.ค. นอกจากนี้ ดัชนี Flash Eurozone Manufacturing PMl Output เดือนเม.ย.อยู่ที่ 58.0 จุด เพิ่มขึ้นจาก 57.5 จุดในเดือนมี.ค. ดัชนี Flash Eurozone Manufacturing PMl อยู่ที่ 56.8 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 56.2 จุดในเดือนมี.ค. ซึ่งตัวเลขทั้งหมดในเดือน เม.ย. นับเป็นระดับสูงสุดในรอบ 72 เดือน (lHS Markit)
เอเชีย :
เงินเฟ้อญี่ปุ่นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบสองปีในเดือน มี.ค. จากค่าใช้จ่ายพลังงานเพิ่มขึ้น รวมถึงตัวเลขการส่งออกจากโรงงานในเดือนก่อนดี โดยผลสำรวจของรอยเตอร์แสดงให้เห็นว่าข้อมูลทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้บ่งชี้ว่าสภาพแวดล้อมภายนอกสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในไตรมาส 1/60 อย่างไร ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาส 4/59 ขยายตัวได้ดีจากการใช้จ่ายเงินลงทุน ข้อมูล GDP อย่างเป็นทางการในไตรมาส 1/60 จะออกในเดือนพ.ค.นี้(Reuters)
BOJ จัดประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 26 เม.ย. นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่านโยบายจะยังคงเดิม ธนาคารกลางคาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้นเนื่องจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น (Reuters)
กิจกรรมการผลิตของญี่ปุ่นขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นในเดือน เม.ย.เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เนื่องจากยอดส่งออกเพิ่มขึ้น ดัชนี Markit/Nikkei Flash การผลิต PMl ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนที่ 52.8 ในเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้นจาก 52.4 ในเดือน มี.ค.(lHS Markit)
กลุ่มธนาคารโลกและธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคเอเชีย (AIIB) เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า พวกเขาตกลงที่จะกระชับความร่วมมือกันมากขึ้น บันทึกข้อตกลงการลงนามใน World Bank และ lMF ในการประชุมสัปดาห์สุดท้ายที่กรุงวอชิงตันมีขึ้นหนึ่งปีหลังจากที่ผู้ให้กู้ทั้งสองแห่งได้จัดตั้งกลไกในการแบ่งสรรค่าใช้จ่ายและการร่วมทุนโครงการลงทุน (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันร่วงกว่า 2% ในวันศุกร์ ร่วงรายสัปดาห์มากสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือนเพราะหลักฐานเพิ่มขึ้นว่าการเติบโตของผลิตและสต็อกน้ำมันนั้นมีผลมากกว่าความพยายามของ OPEC เพื่อลดภาวะอุปทานล้นเกิน น้ำมัน Brent ล่วงหน้าปิดที่ 51.96 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลลบ 1.03 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (2.0%) น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าปิด 49.62 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.09 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (2.2%) (Reuters)
ราคาทองคำเพิ่มขึ้นเล็กน้อยวันศุกร์ เพราะนักลงทุนรอผลการเลือกตั้งรอบแรกของประธานาธิบดีสหรัฐในวันสุดสัปดาห์และโอกาสที่จะมีการเปลี่ยนแปลงภาษีในสหรัฐ ทองคำตลาดจรบวก 0.3% ปิด 1,284.62 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ รายสัปดาห์เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเช่นกันหลังจากบวกมาห้าสัปดาห์ (Reuters)
ราคาทองแดงร่วงต่อเป็นสัปดาห์ที่สาม สอดคล้องกับการลดลงของราคาโลหะอุตสาหกรรมโดยรวมในวันศุกร์ เพราะความกังวลเรื่องการเมืองและอุปสงค์ทั่วโลกทำให้นักลงทุนลดการเก็งกำไรราคาขาขึ้น ทองแดงสามเดือนตลาด LME คงที่ ณ 5,622.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ลดลง 1.2% สัปดาห์ก่อน โลหะทองแดงที่ใช้ในกลุ่มพลังงานและภาคก่อสร้างลดลงแตะ 5,530 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันวันพุธอ่อนแอสุดนีบอต่ 4 ม.ค. (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094