- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 21 April 2017 17:34
- Hits: 12466
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'จะซื้อใหม่/ถือต่อเน้นค่าบวกไว้ก่อน'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ SET Index รีบาวด์แบบอ่อนแรง ทั้งนี้ดัชนีปรับขึ้น 5.7 จุดในวัน นำโดยกลุ่มแบงค์และสื่อสาร แล้วก็อ่อนตัวลงมาปิด -0.91 จุด ปิดที่ 1566.28 ต่างชาติขายสุทธิ 410 กว่าล้านบาท สถาบันในประเทศซื้อสุทธิเล็กๆ 140 ล้านบาทภาพตลาดโดยรวมยังค่อนไปทางลบ และนักลงทุนส่วนใหญ่ยัง Wait & See ปัจจัยต่างประเทศ & ผลประกอบการ 1Q60
+ มีความหวังว่าคณะทำงานทรัมป์จะประกาศแผนปฎิรูปภาษีเร็วๆนี้ ซึ่งเป็นเรื่องหนึ่งที่หนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐบวกขึ้นเมื่อคืนนี้
• จับตาเลือกตั้งฝรั่งเศส 23 เม.ย. ความไม่แน่นอนทำให้นลท. Wait & See ก่อน
-/•BBL : NPL งวด 1Q60 +13%QoQ ขณะที่สินเชื่อ -0.9%QoQ ทำให้ NPL Ratio เพิ่มเป็น 3.5% คาดจะตั้งสำรองฯสูงต่อในช่วงที่เหลือปีนี้และอาจทำให้กำไรปีนี้อ่อนกว่าที่คาดไว้, SCB : NPL +3.6%QoQ ทำให้ NPL Ratio เพิ่มเป็น 2.7% ในสิ้นมี.ค.60 ด้านสินเชื่อ +0.6%QoQ แนวโน้มยังต้องระวังการเพิ่มของ NPL ในกลุ่มลูกค้า SME และที่พักอาศัย, KBANK : NPL สิ้นมี.ค.60 ทรงตัว QoQ สินเชื่อ+0.2%QoQ
- ANAN : คาดกำไร 1Q60 จะต่ำเพียง 91 ล้านบาท (-39%YoY, -90%QoQ) เพราะโอนลดลงและขาดทุนในบริษัทร่วมทุน โมเมนตัมการโอนดูช้ากว่าที่เคยประเมินไว้ ปรับลดคาดการณ์กำไรและราคาพื้นฐานลงเป็น 5.5 บาท (เดิม 6.05 บาท) แนะนำซื้ออ่อนตัว
- DTAC : กำไรออกมาตามคาด 250 ล้านบาทใน 1Q60 รายได้ค่าบริการฟื้นตัวขึ้นบ้าง แต่จำนวนลูกค้า Prepaid ยังลดลง แนะนำเต็มมูลค่าหุ้นกลยุทธ์ (พื้นฐานดี) แนะนำทยอยซื้อสะสมจังหวะอ่อนตัววันนี้เป็น SEAFCO
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดยังเป็นลบ การซื้อใหม่เน้นค่าบวก ค่าลบควร Wait & See ก่อน รีบาวน์ไม่ผ่าน 1580 ขายก่อน
สำหรับการ SCAN หุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ SEAFCO, SYNEX, SAMTEL, ROBINS ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ MONO, STEC, ACAP, IRPC, ERW, M, ECL, PL, TCMC หุ้นแนะนำไปและให้หาจังหวะ Take Profit คือ PTG, SINGER, VNT หุ้นหลุด List เป็น M
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ :
• ฝรั่งเศส : จับตาเลือกตั้ง 23 เม.ย.นี้
ฝรั่งเศสจะจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีขึ้นในวันที่ 23 เม.ย.นี้ โดยผลการสำรวจล่าสุดของ Harris Interactive แสดงให้เห็นว่า นายเอมมานูเอล มาครอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ ซึ่งมีแนวคิดสายกลาง จะได้คะแนนเสียง 25% ในการเลือกตั้งรอบแรก ขณะที่นางมารีน เลอเปน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรค National Front (FN) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองชูนโยบายประชานิยมขวาจัด และหนุนให้ฝรั่งเศสแยกตัวจากสหภาพยุโรป จะได้คะแนน 22% และทั้งสองจะควงคู่กันผ่านเข้าสู่การเลือกตั้งรอบ 2 ในวันที่ 7 พ.ค.
+ สหรัฐ : ตัวเลขภาคแรงงานยังอยู่ในเกณฑ์ดี
จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 10,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 244,000 ราย แต่จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 เม.ย. มีจำนวนลดลง 49,000 ราย สู่ระดับ 1.98 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2000 ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 2.02 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2000
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ : บวกขึ้น...มีความหวังว่าทรัมป์จะเปิดเผยแผนปฎิรูปภาษีในไม่ช้านี้
นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยว่าคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเปิดเผยมาตรการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ในไม่ช้านี้ รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงอเมริกัน เอ็กซ์เพรสออกมาดี ทำให้ตลาดปรับขึ้นได้ ปิดตลาดดัชนี DJIA อยู่ที่ 20,578.71 จุด พุ่งขึ้น 174.22 จุด หรือ +0.85% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,355.84 จุด เพิ่มขึ้น 17.67 จุด หรือ +0.76% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,916.78 จุด เพิ่มขึ้น 53.74 จุด หรือ +0.92%
- สัญญาน้ำมันดิบ : อ่อนตัวลงต่อ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 17 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 50.27 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 52.99 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยเบเกอร์ ฮิวจ์ เปิดเผยว่าแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 13 เม.ย. มีจำนวนเพิ่มขึ้น 11 แท่น สู่ระดับ 683 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 13 ติดต่อกัน
• สัญญาทองคำ : ขยับขึ้นเล็กน้อย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ระดับ 1,283.80 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนในตลาดทองคำจับตาผลเลือกตั้งฝรั่งเศสในวันที่ 23 เม.ย.นี้
ปัจจัยในประเทศ :
• เอดีบีชี้ 3 ปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจไทย
เอดีบีคาดจีดีพีไทยปี 60 จะเติบโต 3.5% โดยคาดว่ามูลค่าส่งออกปีนี้จะเติบโตได้ 3% แนะให้จับตา 3 ปัจจัยเสี่ยง คือ การปรับขึ้นของดอกเบี้ยเฟด-นโยบายการค้าระหว่างประเทศ-ความมั่นคงของโลก รวมทั้งกล่าวว่าประเทศไทย 4.0 ต้องยกระดับการศึกษา-นวัตกรรม เพื่อดันไทยให้หลุดกับดักรายได้ปานกลาง
•/- ธนาคารพาณิชย์ : กำไรของ 9 ธนาคารเติบโต 7.7% ในไตรมาส 1/60...NPL ยังกดดันแบงค์ใหญ่ต่อ
9 ธนาคารพาณิชย์รายงานกำไรสุทธิไตรมาสแรกปีนี้เท่ากับ 4.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.7%YoY TISCO และ TCAP มีอัตราการเพิ่มขึ้นของกำไรสูงสุด คือ 18% และ 15% ตามลำดับ ธนาคารส่วนใหญ่ยังคงตั้งสำรองฯในระดับสูง เพราะ NPL แบงค์ใหญ่ยังขยับขึ้นต่อ ทั้งนี้ NPL ของ BBL เพิ่ม 13%QoQ และ KTB เพิ่ม 10%QoQ ในงวดไตรมาส 1/60 ขณะที่ NPL ของ SCB เพิ่ม 3.6%QoQ ส่วนของ KBANK ทรงตัว
+ SEAFCO (ราคาปิด 12.10 บาท) : มีโอกาสได้งานเพิ่ม...คาดกำไรปีนี้เติบโตก้าวกระโดด 51%
บริษัทเปิดเผยอยู่ระหว่างเตรียมเข้าทดสอบงานเสาเข็มในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งมีโอกาสสูงที่บริษัทจะได้รับการเซ็นสัญญา รวมถึงเตรียมเข้ารับงานในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลือง ซึ่งล่าสุดได้มีการเจรจากับบริษัทซิโน-ทัย เอนจิเนียริ่งฯ หรือ STEC ไปแล้ว ซึ่งทำให้บริษัทมั่นใจว่ารายได้ในปี 60 จะเติบโตขึ้น 10% จากปี 59 หรือ 2 พันล้านบาท ล่าสุดมีงานในมือ 1.5 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้
ฝ่ายวิจัยฯ DBSV แนะนำซื้อ โดยคาดการณ์กำไรปีนี้เติบโตสูงถึง 51% y-o-y หากได้งานฐานรากรถไฟฟ้าทันภายในปีนี้ และปี 61 ขยายตัวต่อเนื่องได้อีก 10% y-o-y ราคาพื้นฐานเท่ากับ 13.17 บาท ประเมินด้วย P/E ปี 60 ที่ 17 เท่า คาดกาณ์อัตราผลตอบแทนปันผลปี 60 อยู่ในเกณฑ์ปานกลางที่ 3% และปีหน้า 3.3%
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]