WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSSบล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน



สถานการณ์ต่างประเทศกดดัน ซื้อลบแล้วถือ
  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งแคบเกือบตลอดวัน ถูกกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่ขึ้น XD และสถานการณ์ความไม่สงบในซีเรีย แต่พลิกเป็นบวกได้ในช่วงท้ายจากแรงซื้อ SCC และ ADVANC
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1575 – 1590 จุดด้วยปริมาณการซื้อขายเบาบางเพราะมีวันทำการเพียง 3 วันในสัปดาห์นี้ นักลงทุนยังระวังในการซื้อขายเพราะมีสถานการณ์ความไม่สงบในซีเรียและในคาบสมุทรเกาหลีเหนือ ซึ่งส่งผลให้ Fund flow ไหลเข้าตลาดพันธบัตรมากกว่าสินทรัพย์เสี่ยง ตลาดหุ้นไทยจึงมีโอกาสพักฐานในระยะสั้นแต่เชื่อว่ากลุ่มพลังงานยังจะพอประคองตลาดได้ อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อหุ้นที่คาดการณ์ผลประกอบการดียังพอทำได้ ในด้านรูปแบบทางเทคนิคของกราฟ SET แม้ว่าดัชนียังทรงตัวแถวแนวรับจากเส้นต้นทุนเฉลี่ย sma.10 วันได้ แต่ก็มีจังหวะหลุดต่ำกว่าให้เห็นบ้างแล้ว และยังมีแรงขายกดดันให้ผันผวนด้วย ทำให้ยังลุ้นโอกาสปรับพักตัวลงต่อได้อีกมากกว่า

  กลยุทธ์ : FSS แนะนำให้รอเลือกหุ้นทยอยซื้อเพิ่มช่วงลบต่อไป ขณะที่ส่วนที่ซื้อแล้วยังสามารถเน้นถือต่อเนื่องเพื่อรอรอบบวกได้เช่นเดิม
  แนวรับ  1578-1575 , 1572-1568 จุด  
  แนวต้าน  1585-1586 , 1588-1590 จุด
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : MAJOR, TNP, CHG(buy back)
  Fund Flow วันศุกร์ที่ผ่านมา กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาครวม US$94ล้านจากสถานการณ์ความไม่สงบในซีเรีย นำโดยเกาหลีใต้ US$101 ล้าน และอินโดนีเซีย US$11 ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้าเล็กน้อย US$16ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางชะลอการไหลเข้า (และเข้าไปอยู่ในตราสารหนี้และสินทรัพย์ปลอดภัยมากกว่า) จากความวิตกในสถานการณ์ซีเรีย

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (-) เม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มน้อยกว่าคาด เพิ่มเพียง 98,000 ตำแหน่งในเดือน มี.ค. และมีการทบทวนตัวเลขเดือนก.พ. ลงเป็น 219,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงาน 235,000 ตำแหน่ง ส่วนค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเช่นกัน ตัวเลขดังกล่าวถูกกลบด้วยข่าวการสหรัฐส่งขีปนาวุธโจมตีซีเรีย ทำให้ Flow ไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย ส่วนการเจรจาระหว่างระหว่างทรัมป์และสี่จิ้นผิงเป็นไปค่อนข้างดี แต่บรรยากาศตลาดหุ้นเอเชียยังเป็นไปแบบระมัดระวัง 
  (+) คาดการณ์ผลประกอบการกลุ่มธนาคาร เราคาดกำไร 1Q17 จะสดใสเป็นกำไรที่ดีที่สุดในรอบ 10 ไตรมาสที่ 5.25 หมื่นล้านบาท +4.2% Q-Q จากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ฟื้นตัว และ +11.7% Y-Y จากสำรองที่ลดลง โดย KTB (ราคาพื้นฐาน 24 บาท) น่าจะมีกำไรโตดีที่สุด +11% Q-Q, +10% Y-Y ส่วน SCB (ราคาพื้นฐาน 195 บาท) น่าจะมี PPOP (กำไรก่อนสำรอง) โตดีสุด สำหรับ NPL น่าจะยังเพิ่มอยู่แต่เพิ่มในอัตราชะลอลง และแบงก์ต่างมี Coverage ratio แข็งแกร่งขึ้นมากตั้งแต่ปีก่อน จึงไม่น่ากังวล ปัจจุบันกลุ่มแบงก์ซื้อขายที่ PBV 1.2 เท่า ต่ำกว่าในอดีตที่ 1.5-1.6 เท่า เราจึงให้น้ำหนัก Overweight แนะนำ Top Pick คือ TISCO (ราคาพื้นฐาน 78 บาท) และ KBANK  (ราคาพื้นฐาน 240 บาท)
  (+) GLOBAL แนวโน้มกำไร 1Q17 เติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 504 ล้านบาท +47% Q-Q, +11.5% Y-Y จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ทำจุดสูงสุด เราคาด 21.6% เพราะปรับ Product mix และได้อานิสงส์จากราคาเหล็กที่สูงขึ้น เรายังคาดกำไรทั้งปีโตดี +31% Y-Y ปัจจุบันมี PE 33 เท่า PEG 1.1 เท่า ต่ำกว่าในอดีตที่ซื้อขายที่ PE เกือบ 40 เท่าและ PEG 1.5 เท่า จึงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 21 บาท     
  (+) TU แนวโน้มกำไรปกติ 1Q17 ยังไม่สดใสนัก เราคาด 989 ล้านบาท -23.6% Q-Q, +2.3% Y-Y เพราะเป็น low season ของธุรกิจทูน่า และถูกกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่า ส่วนธุรกิจ Red Lobster คาดว่าจะพลิกเป็นกำไรได้ ในไตรมาสนี้จะมีกำไรอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้กำไรสุทธิดูดี +43% Q-Q, +4.7% Y-Y แนวโน้มผลประกอบการทั้งกลุ่มจะฟื้นตั้งแต่ 2Q17 เรายังคาดกำไรทั้งปี +26% Y-Y ปัจจุบันมี PE เพียง 15 เท่า คิดเป็น PEG 0.6 เท่า ยังแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 24 บาท

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
10 เม.ย. - ไทย:WHAUPเข้าเทรด (ราคา IPO 26.25 บาท)
11 ม.ย. - ไทย:MMเข้าเทรด (ราคา IPO 5.25 บาท)
- ยูโรโซน:ZEW Survey Expectations (เม.ย.), Industrial Production (ก.พ.)
13 เม.ย. - จีน:ดุลการค้า (มี.ค.)
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BoK)ประชุม
14-เม.ย. - สหรัฐ:อัตราเงินเฟ้อและยอดขายปลีก (มี.ค.)
17-เม.ย. - จีน: 1Q17 GDP
18 เม.ย. - สหรัฐ:Housing starts & Building permits (มี.ค.)
19 เม.ย. - สหรัฐ:Fed Beige Book
- ยูโรโซน:อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
20 เม.ย. - อินโดนีเซีย:ธนาคารกลางประชุม
21 เม.ย. - ไทย:ยอดขายรถ (มี.ค.)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Composite PMI (เม.ย.)

  (-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ปิดลบเล็กน้อย โดยการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยมีแรงกดดันมาจากความตรึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและซีเรีย และ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ทั้งนี้ มีแรงซื้อกลับหลังนักลงทุนซึมซับตัวเลขเศรษฐกิจที่อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2007
  (+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อย โดยนักลงทุนซึมซับข่าวลบจากประเด็นขีปนาวุธสหรัฐฯ และ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ประกอบกับมีแรงหนุนจากกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมัน
  (0)  ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมตามทิศทางตลาดโลก
  (0) ค่าเงินบาทแกว่งตัว Sideway ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.61-34.63 บาท/ดอลลาร์

  (+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. ปิดบวก 0.54 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 52.24 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยมีแรงหนุนจากเหตุการณ์ความตรึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และ ซีเรียทำให้เกิดความเสี่ยงด้านภูมิศาสตร์การเมือง
  ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดบวก 4.00 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,257.30 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเนื่องจากมีความกังวลต่อเหตุการณ์สหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธใส่ซีเรีย และ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มน้อยกว่าคาด

Contact person : Jitra  Amorntham 
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!