- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 04 April 2017 17:59
- Hits: 4597
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : Commodities WoW, DW Report, TPIPP (FirstDayTrade)
Our Portfolio Apr 2017 : GLOBAL, KBANK, MINT, SYNEX, TACC
SET ยังผันผวนภายในกรอบ จึงลุ้นอ่อนตัวลงให้เป็นโอกาสซื้อได้อยู่
ตลาดหุ้นวานนี้ : แม้ SET จะรีบาวด์กลับจากการปรับลงเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็ยังแกว่งผันผวนและมีกรอบบวกที่ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากยังขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนเพิ่ม ส่วนภาคบ่ายวานนี้แม้จะมีแรงซื้อหนุนเพิ่มบ้าง แต่แรงขายทำกำไรช่วงสั้นก็ยังกดดันให้ลดช่วงบวกลงอีก จึงถือว่ายังต้องระวังจังหวะอ่อนตัวลงอยู่
??แนวโน้มตลาดวันนี้ : เช้านี้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียไม่สดใสนัก หลังเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปิดปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ จากตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐที่ชะลอตัวลงในเดือน มี.ค. ขณะที่ยอดขายรถยนต์เดือน มี.ค. ของสหรัฐก็ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐ นอกจากนี้นักลงทุนบางส่วนยังรอดูรายงานการประชุมของ ECB ประจำเดือน มี.ค.ในวันพฤหัสนี้ว่าจะส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทิศทางด้านนโยบายหรือไม่ รวมทั้งราคาน้ำมันดิบโลกยังอ่อนแอลงอีกครั้ง หลังจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐยังเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 11 ติดต่อกัน ส่วนมุมมองทางเทคนิคหลังจาก SET ยังแกว่งตัวผันผวนภายในกรอบเดิมของเมื่อท้ายสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ Indicators ระยะสั้นอยู่ในภาวะ Overbought ทำให้เราคาดว่าโอกาสที่ SET จะปรับพักตัวลงก่อนยังมีความเป็นไปได้อยู่
??กลยุทธ์ : ดังนั้น FSS ยังแนะนำให้รอเลือกหุ้นทยอยซื้อเพิ่มช่วงลบต่อไปก่อน แต่ส่วนที่ซื้อแล้วยังสามารถเน้นถือต่อเนื่องเพื่อรอรอบบวกได้เช่นเดิม
??แนวรับ 1578-1576 , 1573-1566 จุด
??แนวต้าน 1582-1585 , 1587-1590 จุด
??หุ้นเด่นทางเทคนิค : SQ, SPALI, THANI(short)
??Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$126ล้าน เม็ดเงินไหลเข้าทุกประเทศพร้อมกันยกเว้นไต้หวันซึ่งหยุดทำการ นำโดยเกาหลีใต้ US$40ล้าน และไทย US$38ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางชะลอการไหลเข้าภูมิภาคหลังเกิดความกังวลต่อเหตุลอบวางระเบิดรถไฟใต้ดินที่รัสเซียซึ่งอาจจะเกิดจากการก่อการร้าย
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) เงินเฟ้อไม่เป็นตัวเร่งให้ขึ้นดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเดือน มี.ค. ชะลอเป็นเดือนที่ 3 โดย +0.76% Y-Y แต่ -0.46% M-M จากราคาน้ำมันและอาหารสดที่ลดลง ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานเร่งตัวเล็กน้อยจาก ก.พ. ที่ +0.59% Y-Y เป็น +0.62% Y-Y เงินเฟ้อทั่วไปในระยะถัดไปมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันที่สูงกว่าปีก่อน ดีต่อตลาดหุ้นในมุมมที่นักลงทุนต้องหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อ แต่ไม่กดดันให้กนง.ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย
(+) ภาคธุรกิจเชื่อมั่นมากขึ้น ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ มี.ค. อยู่ที่ 52.6 ดีขึ้นจากเดือนก่อน แม้ขจัดผลของฤดูกาลออก เป็น 51 จุดก็สูงสุดในรอบ 24 เดือนตามส่งออกที่ดีขึ้น และความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้าผู้ประกอบการก็มีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจ ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อการลงทุนและสินเชื่อในระยะถัดไป
(+) คาดกำไร 1Q17 ของกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีดี จากราคาน้ำมันที่สามารถปิดในระดับ US$50/บาร์เรลได้ ทำให้ยังพอมีกำไรจากสต็อกเล็กน้อย ขณะที่ส่วนต่างราคาโอเลฟินส์และอะโรมาติกส์ส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้น ชดเชยค่าการกลั่นที่ชะลอลงได้ เราจึงคาดว่าบริษัทที่กำไร 1Q17 จะออกมาดีได้แก่ PTTGC, TOP, SCC, ส่วน IRPC ที่แม้มีปิดซ่อมโรงงาน แต่งบอาจไม่แย่นักเพราะมีสต๊อกสินค้าไว้จำหน่าย ส่วนบริษัทที่มีแต่ธุรรกิจโรงกลั่นเพียงอย่างเดียว เช่น SPRC ไม่น่ามีกำไรที่ดีนักและราคาหุ้นเต็มมูลค่าที่ 13.30 บาทแล้ว
(-) กลุ่มอิเล็คทรอนิคส์เต็มมูลค่าแล้ว ปัจจุบันกลุ่มอิเล็คทรอนิส์มี PE เฉลี่ย 16 เท่า แพงกว่าอดีตและแพงเมื่อเทียบกับการเติบโตของกำไรสุทธิที่คาด +10.5% Y-Y ประมาณการอาจมี downside จากราคาทองแดงที่ทรงตัวในระดับสูงและเงินบาทที่แข็งค่า แต่ถึงแม้ไม่มีประเด็นดังกล่าว การเติบโตก็ทำได้ยากเพราะส่วนใหญ่ใช้กำลังการผลิตเกือบเต็มหรือเต็มแล้ว มีเพียง KCE และ HANA ที่ทยอยขยายกำลังการผลิต แต่เราก็ได้รวมในประมาณการแล้วและราคาหุ้นยังเต็มมูลค่า ส่วนราคาหุ้น DELTA เกินมมูลค่าพื้นฐานที่ 74 บาทไปมาก แนะนำขาย ส่วนราคาพื้นฐานของ SVI ที่ 6 บาทมี downside เช่นกัน ไม่แนะนำ
(+) CPF ซื้อธุรกิจ Trading ในอังกฤษชื่อ Westbridge Food Group (WFGL) ในสัดส่วน 100% ใช้เงิน 2.6 พันล้านบาท (กำไรของ WFGL คิดเป็น 1.6% ของกำไร CPF) เป็นดีลขนาดเล็ก ไม่กระทบประมาณการของเรา แต่ช่วยขยายช่องทางเข้าตลาดยุโรปให้กับ CPF โดยเลี่ยงผลกระทบจากภาษีนำเข้าในอัตราสูง เพราะ WFGL มีบริษัทที่มีโควต้านำเข้าเนื้อสัตว์ปีกและสินค้าที่ทำจากเนื้อสัตว์ปีกสู่สหภาพยุโรป ทั้งในอังกฤษและเนเธอร์แลน์ เราแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 38 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
5 เม.ย. - ไทย:TPIPPเข้าเทรด (ราคา IPO 7 บาท), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มี.ค.)
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (มี.ค.), FOMC Minutes
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Composite PMI (มี.ค.)
6-เม.ย. - จีน:Caixin China PMI Composite (มี.ค.)
7 เม.ย. - สหรัฐ:การจ้างงานนอกภาคเกษตร (มี.ค.)
- สิงคโปร์: 1Q17 GDP
10 เม.ย. - ไทย:WHAUPเข้าเทรด (ราคา IPO 26.25 บาท)
11 ม.ย. - ไทย:MMเข้าเทรด (ราคา IPO 5.25 บาท)
- ยูโรโซน:ZEW Survey Expectations (เม.ย.), Industrial Production (ก.พ.)
13 เม.ย. - จีน:ดุลการค้า (มี.ค.)
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BoK)ประชุม
14-เม.ย. - สหรัฐ:อัตราเงินเฟ้อและยอดขายปลีก (มี.ค.)
17-เม.ย. - จีน: 1Q17 GDP
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดลบเล็กน้อยหลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาค่อนข้างชะลอตัวทั้ง ISM ภาคการผลิตและยอดขายรถยนต์
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนลบเช่นกันโดยได้รับแรงกดดันจากเหตุระเบิดในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนลบตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นจากบรรยากาศการลงทุนที่ไม่สดใส นอกจากนี้ตลาดยังจับตาดูนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย
(0) ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัวออกข้าง ล่าสุดเครื่องไหวในกรอบ 35.25-35.40 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. ลดลง 0.36 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 50.24 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าลิเบียเริ่มกลับมาผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นหลังจากที่หยุดชะงักไป 1 สัปดาห์ ซึ่งบดบังตัวเลขเศรษฐกิจและความต้องการที่สดใสจากฝั่งเอเชีย
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.80 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,254.00 ดอลลาร์/ออนซ์ แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่า แต่กรอบการบวกยังจำกัดเนื่องจากนักลงทุนจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯในช่วงปลายสัปดาห์นี้
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch