- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 28 March 2017 19:47
- Hits: 1580
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ชักไม่ค่อยจะแน่ใจนโยบาย Trump จะผ่านสภา
คาดว่าหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดวันนี้จากการที่ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงยังคงต่ำอยู่ หลังจากนักลงทุนทั่วโลกสูญเสียความเชื่อมั่นในประธานาธิบดี Trump ว่าจะสามารถออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจได้หลังความพ่ายแพ้ในการผลักดันร่างกฎหมายสาธารณสุข ทั้งๆ ที่พรรคของเขามีเสียงข้างมากในทั้งสองสภา การจะให้ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีสหรัฐผ่านสภาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน ล่าสุดทำเนียบขาวตั้งเป้าลงมติกฎหมายดังกล่าวในเดือน ส.ค. ราคาน้ำมันที่ยังร่วงอีกกดดันหุ้นพลังงานต่อ ปัจจัยภายในประเทศ ความคืบหน้าของโครงการรถไฟรางคู่ไม่แย่อย่างที่วิตกก่อนหน้า หลังจากนายกรัฐมนตรีเห็นชอบร่าง ToR ซึ่งทำให้เริ่มประมูลได้ในอีก 4-5 เดือน
หุ้นเด่นวันนี้ : KKP (ราคาปิด 69.50 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 79.00 บาท)
ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นแนะนำในวันนี้ด้วยกลยุทธ์ Dividend play รวมถึงการที่ธนาคารมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งธนาคารได้ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 59 ที่อัตรา 4.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนครึ่งปีที่ 5.8% หรือ 11.5% ต่อปี มีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 28 เมษายน 2560 ซึ่งยังมีเวลาเพียงพอสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็บสะสม เงินปันผลต่อหุ้นในปี 59 เท่ากับ 6.00 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ 8.6% นอกเหนือจากอัตราเงินปันผลตอบแทนที่น่าสนใจอย่างมากนี้ ธนาคารยังได้แสดงการเติบโตของสินเชื่อสูงสุดในกลุ่มธนาคารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ 1.80% MoM และ 1.78% YTD เราคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อที่โดดเด่นดังกล่าวเป็นผลมาจากกลยุทธ์ของบริษัทที่จะขยายสินเชื่อไปกลุ่มอื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่มเช่าซื้อ เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อ SME และสินเชื่อ Lombard โดยสำหรับสินเชื่อรายย่อยจะถูกผลักดันผ่านทางช่องทางเดิมหรือสาขาธนาคาร รวมถึงช่องทางใหม่ผ่านทางตัวแทนขายตรง ในปีนี้ KKP มุ่งมั่นที่จะขยายสินเชื่อให้เติบโตมากกว่า 5% ฟื้นตัวจากที่หดตัว 0.7% ในปี 59 เราคาดการณ์กำไรจะเติบโต 6.4% ในปี 60 และ 11.2% ในปี 61 Price Pattern ของ KKP มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ KKP มีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 81 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 100 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ KKP มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 68.75 บาท (Resistance: 70.25, 71.00, 71.75; Support: 69.00, 68.25, 67.50)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
เงินลงทุนไหลเข้าเขตเศรษฐกิจพิเศษ 8.5 พัน ลบ. จนถึงวันที่ 28 ก.พ. มี 40 โครงการมูลค่า 8.5 พัน ลบ. ขอเข้ารับสิทธิประโยชน์จากเขตเศรษฐกิจพิเศษ ส่วนใหญ่เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จังหวัดตากจำนวน 22 โครงการมูลค่าลงทุน 3.5 พัน ลบ. โครงการที่ตากส่วนใหญ่เกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์พลาสติก ชุดชั้นใน ชุดกีฬาและเครื่องจักรทางการเกษตร (Bangkok Post)
นายกฯ ไฟเขียว TOR รถไฟทางคู่ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง (Superboard) เปิดเผยว่า นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันท์โอชา เห็นชอบการปรับปรุงสัญญา (TOR) รถไฟทางคู่ 5 เส้นทางแล้ว และได้ส่งรายละเอียดทั้งหมดกลับมาให้ รมว.คมนาคม เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในเร็วๆ นี้ ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทยจะร่าง TOR ใหม่ได้เร็ว และจะมีการประกวดราคาได้ใน 4-5 เดือน หลังจากผ่านความเห็นจาก ครม. (Bangkok Post)
ADVANC (178 บาท, ถือ, ราคาเป้าหมายปี 60 188 บาท) ตั้งงบ 2 พัน ลบ. เพื่อยกระดับการบริการ ได้แก่ นวัตกรรม ดังเช่น AlS lVR (บริการลัดสาย) ที่จะตอบสนองคำพูดของลูกค้าในโทรศัพท์และลัดเข้าเมนูบริการที่ต้องการ แทนที่จะต้องกดตัวเลขตามบริการโทรศัพท์แบบดั้งเดิม ขณะเดียวกัน บริษัทก็จะไม่ลดจำนวนพนักงานบริการลูกค้าลงแต่จะยิ่งฝึกเพิ่มด้วย เพื่อให้พนักงานเป็นกูรูซึ่งให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้าได้ (The Nation)
TRC: กท.การคลังจ่ายเช็ค 80 ล้านบาทสำหรับการเพิ่มทุนใน บมจ.อาเซียนโปแตชชัยภูมิ (APOT): หลังจากนี้ APOT เตรียมเซ็นต์สัญญาค่าก่อสร้างกับ TRC มูลค่า 3.4 หมื่นล้านบาท (ข่าวหุ้น) ความเห็น: การจ่ายเงินของ กท.การคลังช่วยปลดล็อคการเดินหน้าโครงการเหมืองโปแตชชัยภูมิ ทำให้สามารถเดินหน้าต่อในเรื่อง Financial Close ได้ คาดว่าการเซ็นต์สัญญาอย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้นในไตรมาส 2/60 และต้องใช้ระยะเวลา 3 ปีสำหรับการก่อสร้าง ทำให้คาดว่ารายได้ต่อปีช่วงปี 2560-2561 ของ TRC จะเท่ากับ 8 พันล้านบาท 1 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ ส่วนกำไรสุทธิปี 2560-2561 คาดไว้ 360 ล้านบาท และ 461 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24%YoY และ 28%YoY ตามลำดับ เราแนะนำซื้อ TRC ราคาเป้าหมาย 2.20 บาท (งานก่อสร้าง 1.69 บาท (15x EV/EBITDA) รวมกับ DCF เหมืองโปแตช 0.51 บาท)
ต่างประเทศ :
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐระยะยาวปรับตัวลงเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนมีความไม่มั่นใจมากขึ้นว่ารัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของทรัมป์จะสามารถทำตามคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งเกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจได้หรือไม่ ราคาผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 8/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 2.367% ลดลงจาก 2.4% เมื่อวันศุกร์ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรร่วงลงสู่ระดับ 2.348% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. เทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ เมื่อวันจันทร์เนื่องจากนักลงทุนสูญเสียความเชื่อมั่นเกี่ยวกับแนวโน้มการเพิ่มการใช้จ่ายงบประมาณของประธานาธิบดีทรัมป์ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปิดลบ 0.45% โดยก่อนหน้านี้ได้ปรับตัวลงสู่ระดับ 98.858 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยเมื่อวันจันทร์ โดยดัชนี S&P50 ร่วงลงและดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงติดต่อกัน 8 วัน เนื่องจากนักลงทุนประเมินว่าความพ่ายแพ้ของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อการผลักดันในการออกกฎหมายฉบับแรกของเขาจะส่งผลต่อเรื่องอื่น ๆ ในวาระที่เหลือหรือไม่ (Reuters)
ทำเนียบขาวจับตาเดือนส.ค. เป็นเดือนที่จะออกกฎหมายปฏิรูปภาษี เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงแสวงหาชัยชนะในการออกกฎหมายครั้งแรกของเขาหลังจากประสบความล้มเหลวในสัปดาห์ก่อนเกี่ยวกับร่างพรบ. ที่จะนำมาใช้แทนโอบามาแคร์ คำมั่นสัญญาของทรัมป์ที่จะปรับลดภาษี รวมถึงการปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคล ซึ่งเป็นประเด็นหลักในการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม การผลักดันร่างกฎหมายภาษีให้ผ่านการพิจารณาในสภาคองเกรสไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากความเห็นต่างภายในพรรครีพับลิกันส่งผลให้การออกกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่มีอันตกไปในสัปดาห์ก่อน โดยเมื่อวันศุกร์ที่แล้วกลุ่ม Freedom Caucus ซึ่งเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกันที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุด ๆ ได้ปฏิเสธที่จะสนับสนุนร่างกฎหมายประกันสุขภาพดังกล่าว (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันจันทร์ปรับตัวลดลง นำโดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มธนาคาร หลังจากร่างกฎหมาย Healthcare ของ Donald Trump ปธน.สหรัฐฯ ไม่ได้รับความเห็นชอบในสภา ส่งผลให้คลาดเริ่มกังวลถึงความสามารถของ Trump ในการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ต่อจากนี้ (Reuters)
ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนีเดือนมี.ค.ปรับตัวสูงกว่าคาดการณ์ สะท้อนว่าภาคธุรกิจเยอรมนีไม่ได้กังวลถึงการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ รวมไปถึงสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป โดย lfo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 112.3 ในเดือนมี.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 111.0 (สำรวจโดย Reuters) และสูงกว่าตัวเลขเมื่อเดือนก.พ.ที่ระดับ 111.1 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการทบทวนสูงขึ้น (Reuters)
เอเชีย :
คณะกรรมการ BOJ กล่าวว่าจะมีนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายให้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง เนื่องจากการเติบโตของเงินเฟ้อยังห่างไกลจากเป้าหมาย 2% ที่ธนาคารกลางกำหนด ความเห็นจากการประชุม BOJ วันที่ 15-16 มีนาคมมีการประกาศออกมาแล้วในวันจันทร์นี้ สมาชิกปฏิเสธความคิดที่ว่า BOJ จะต้องเพิ่มอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี เพื่อเพิ่มผลตอบแทนพันธบัตรในต่างประเทศแทนที่จะเน้นเฉพาะเศรษฐกิจภายในประเทศเท่านั้น (Reuters)
ธนาคารกลางจีนกล่าวว่าจะปรับปรุงกรอบนโยบายและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการใช้สกุลเงินหยวนข้ามพรมแดน PBOC จะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของเงินหยวนในบัญชีทุน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มบทบาทของหยวนในด้านการลงทุน เป็นทุนสำรอง และการทำธุรกรรมทางการเงิน (Reuters)
กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมในจีนขยายตัว 31.5% ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2560 เป็นอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 6 ปี เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ถ่านหินและแร่เหล็กวิ่งขึ้นสูง กำไรอุตสาหกรรมรวม 2 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 1.01 พันล้านหยวน (ประมาณ 147 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ปริมาณการนำเข้าที่แข็งแกร่งยังแนะนำให้ปรับขึ้นในกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อัตราการเติบโตของกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมากจากการเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนธันวาคม และเป็นอัตราที่เร็วที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เติบโต YTD เร็วสุดนับตั้งแต่ ไตรมาส 1/54 ที่เพิ่มขึ้น 32% กำไรจากภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 8.5% ในปี 2560 และกลับมาจากการร่วงเล็กน้อยในปี 2558 (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันดิบร่วงต่อวันจันทร์ มีเพราะนักลงทุนยังกังวลว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะขยายเวลาลดกำลังการผลิตต่อไปอีกถึงสิ้น มิ.ย. เพื่อสู้กับอุปทานที่ล้นเกินหรือไม่ น้ำมันดิบสหรัฐ ลบ 33 เซนต์ (0.7%) ปิด 47.63 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบ Brent ลบ 17 เซนต์ ปิด 50.63 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยแตะจุดต่ำสุดของวัน ณ 50.03 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ทองคำบวกกว่า 1% วันจันทร์ หลังประธานาธิบดี Trump ไม่สามารถผลักดันมาตรการปฏิรูปสาธารณสุขได้ในวันศุกร์ จึงเกิดคำถามว่าเขาจะสามารถผลักดันการลดภาษีและแผนใช้จ่ายได้ด้วยหรือไม่ ราคาทองคำตลาดจรปิดบวก 1% ที่ 1,256.02 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ไปแตะจุดสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ 1,261.03 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094
ข่าวยอดนิยม 28 มี.ค. 2560
• หุ้นฮ็อต!! : AUCT ต่ำสุดหรือยัง หลังเจอแรงขายกังวลงบโค้งแรกไม่สวย
• POLAR ยกเลิกเข้าลงทุน`เดย์ โพเอทส์`หลังผู้บริหารหลักลาออก พร้อมขอเงินมัดจำ 120 ลบ.คืน
• หุ้นฮ็อต!! : ส่องอนาคต PTTGC ยังสตรอง แม้ไม่มีกำไรขายหุ้น GGC พร้อม IPO
• APX ยันหุ้นร่วงหนักไม่ได้เกิดจากขาดความเชื่อมั่น แต่เป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยเดิมขาย วอนมั่นใจทีมบริหาร
• KTB ร่วง 1.94% โบรกฯมองรับผลลบจาก AQ ชำระหนี้ล่าช้า หลังก.ล.ต.เบรก AQ เพิ่มทุน PP