- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 24 March 2017 15:53
- Hits: 4328
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET ยังทรงตัว แต่คาดว่าจะผันผวนและอ่อนตัวได้ ดังนั้นรอซื้อลบ
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET บวกได้ในช่วงแรก ตามภาวะตลาดหุ้นเอเชียที่ส่วนใหญ่มีจังหวะขยับบวก หลังตลาดหุ้นสหรัฐสามารถฟื้นตัวมาปิดเป็นลบเพียงเล็กน้อยในคืนวันก่อนหน้า ประกอบกับราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวได้บ้างในช่วงต้นชั่วโมงการซื้อขาย แต่เนื่องจากยังขาดปัจจัยสนับสนุน ขณะที่ราคาน้ำมันเริ่มผันผวนและอ่อนตัวอีก ทำให้ SET อ่อนตัวลงในช่วงสาย โดยแกว่งตัวบวกแคบๆ ไปตลอดจนกระทั่งปิดตลาดเป็นบวกเพียง 2 จุดเศษ
แนวโน้มตลาดวันนี้ : คาดว่า SET ยังมีสิทธิแกว่งผันผวนและอ่อนตัวลงอีก ถึงแม้ว่าช่วง 2-3 วันนี้ดัชนียังสามารถทรงตัวอยู่ได้ก็ตาม แต่ก็ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน ถึงแม้ว่าเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่จะกลับมาปิดเป็นบวก และดัชนีดาวโจนส์ปิดลบเพียงเล็กน้อย แต่ตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนตัวลงมาจากการขยับขึ้นเกือบ 100 จุดในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลกับความล่าช้าของการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก ปธน.สหรัฐคนใหม่ หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เลื่อนการลงมติเกี่ยวกับการนำร่างกฏหมายสุขภาพตัวใหม่มาใช้แทน “โอบามาแคร์” เพราะเสียงสนับสนุนในพรรคของ ปธน. เองยังไม่มากพอที่จะผลักดันร่างฯ ดังกล่าว รวมทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ยังอ่อนตัวต่อ จากรายงานสต็อกน้ำมันดิบและแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐยังเพิ่มขึ้นต่อในสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนสุนทรพจน์ของประธานเฟดวานนี้ก็ยังไม่มีการส่งสัญญาณใดๆ ตามที่นักลงทุนคาดหวัง
กลยุทธ์ : ดังนั้นเรายังแนะนำให้รอเลือกหุ้นซื้อช่วงลบต่อไปดีกว่า
แนวรับ 1566-1564 , 1562-1558 จุด
แนวต้าน 1570-1573 , 1575-1577 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BEM, IRPC, TASCO(buy back)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$204ล้าน นำโดยไต้หวัน US$123ล้าน และอินโดนีเซีย US$32ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$11ล้าน ขณะที่ไหลออกจากฟิลิปปินส์ US$8ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่อาจชะลอตัวลงจากความกังวลต่อแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ล่าช้าออกไป ขณะที่ตลาดผิดหวังที่การแถลงสุนทรพจน์ของประธาน Fed เมื่อคืนนี้ไม่ส่งสัญญาณใดๆต่ออัตราดอกเบี้ย
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) American Health Care เลื่อนมาโหวตคืนนี้ การโหวตร่างกม.ดังกล่าวเมื่อคืนนี้ถูกเลื่อนออกไปเพราะเสียงสนับสนุนของพรรค Republican ไม่พอที่จะผลักดันร่างกม. ขณะที่ Yellen ก็ไม่ได้ให้ความเห็นใดๆเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐและค่าเงินดอลลาร์ยังอยู่ในโหมดพักฐาน การผ่านร่างกม. AHCA มีนัยยะถึงความสำเร็จของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆของทรัมป์ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังมีประเด็น Window dressing หนุนและเศรษฐกิจที่ค่อยๆฟื้นตัว
(+) หุ้นที่แนวโน้มกำไร 1Q17 ดี ได้แก่
กลุ่มแบงก์ กำไรใน 1Q17 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 8-10% Y-Y ส่วนใหญ่มาจากการตั้งสำรองลดลง และการบริหาร Spread ที่ยังทำได้ดี แต่กำไรน่าจะทรงตัว Q-Q แบงก์ที่น่าจะมีกำไรดีทั้ง Q-Q, Y-Y คือ BBL (ราคาพื้นฐาน 210 บาท), KTB (ราคาพื้นฐาน 22 บาท), TISCO (ราคาพื้นฐาน 72 บาท) upside ของราคาหุ้นรวมกับ Dividend yield ยังมากกว่า 10% ยังซือเก็งกำไรได้
กลุ่ม Consumer finance MTLS และ LIT จะยังสร้างสถิติกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ต่อเนื่องใน 1Q17 นี้ สำหรับ MTLS สินเชื่อใน 2M17 ยังโตแรงกว่า 50% Y-Y ทั้งที่ไม่ใช่ High season แม้ต้นทุนทางการเงินจะเริ่มขยับขึ้นแต่ชดเชยได้จากค่าใช้จ่ายสาขาที่ลดลงเพราะประสิทธิภาพดีขึ้น เรายังแนะนำซื้อ MTLS ราคาพื่นฐาน 36 บาท ส่วน LIT เพิ่งได้ลูกค้าสินเชื่อโครงการเพิ่มอีก 2 โครงการซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสแรก เราคาดกำไร +4.5% Q-Q, +50% Y-Y ยังแนะนำซื้อ LIT ราคาพื่นฐาน 14.80 บาท (ก่อน XW)
SYNEX แม้ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตในปีนี้ค่อนข้างท้าทาย (รายได้ +19% Y-Y) แต่มีสัญญาณบวกตั้งแต่ต้นปีจากยอดขายเดือน ม.ค. ที่ทำได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของเดือนอื่นๆค่อนข้างมาก หลังจากได้เป็นตัวแทนเพิ่มอีก 4 แบรนด์คือ Apple, D-Link, DJI, Belkin บวกกับการขยายธุรกิจไปยังลิสซิ่งสินค้าไอทีและบุกตลาดพม่า ปัจจุบันมี PE 15 เท่าแต่เป็น PEG เพียง 0.9 เท่า แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 15.50 บาท
BIG แม้ฤดูกาลของการขายจะดีไม่เท่า 4Q แต่คาดกำไร 1Q17 +11% Y-Y ตลาดกล้อง Mirrorless ยังโตแรงต่อเนื่อง มีการออกรุ่นใหม่ มีโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย การขยายสาขาเป็นไปในเชิงรุกทั้ง Big Camera และ Big Mobile ขณะเดียวกันก็รุกตลาดงานพิมพ์มากขึ้น ปัจจุบันมี PE 18 เท่า คิดเป็น PEG 1.2 เท่า ยังไม่แพง แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 6.90 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
24 มี.ค. - สหรัฐ:คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ก.พ.)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Composite PMI (มี.ค.)
27 มี.ค. - ไทย:TOTเปิดรับข้อเสนอ Beauty Contestของคลื่น 2300MHz
28 มี.ค. - เกาหลีใต้: 4Q16 GDP
29 มี.ค. - ไทย:กนง.ประชุม (ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%)
- สหรัฐ: Pending home sales (ก.พ.)
30 มี.ค. - ไทย:ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (ก.พ.)
- สหรัฐ: 4Q16 GDP (ตัวเลขสุดท้าย)
31 มี.ค. - ไทย:ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.พ.
- จีน:Manufacturing and Non-manufacturing PMI (มี.ค.)
- ยูโรโซน:เงินเฟ้อ (มี.ค.)
3 เม.ย. - ไทย:อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.), ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (มี.ค.), Dเข้าเทรด (ราคา IPO 6 บาท)
- จีน:Caixin China PMI Mfg (มี.ค.)
- ญี่ปุ่น: ดัชนี Tankan 1Q17
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดค่อนมาในแดนลบหลังมีการเลื่อนลงมติร่างกฎหมายอเมริกันเฮลธ์แคร์ ซึ่งทำให้ตลาดกังวลว่าอาจส่งผลต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอื่นๆต่อไป
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกได้หลังจากปิดลบ 3 วันก่อนหน้า อย่างไรก็ตามตลาดยังจับตาดูการประชุมและแผนเศรษฐกิจต่างๆของทรัมป์ว่าจะมีพัฒนาการเชิงบวกอย่างไรบ้าง
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดในแดนบวกได้โดยเฉพาะญี่ปุ่นเนื่องจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งทรงตัวในกรอบ 34.55-34.70 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. ลดลง 0.34 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 47.70 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดยังกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากฝั่งสหรัฐฯ แม้เช้านี้จะเริ่มรีบาวด์กลับได้บ้างหลังจากที่ซาอุดิอาระเบียส่งออกน้ำมันไปสหรัฐฯลดลง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 2.50 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,247.20 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตามตลาดยังจับตาดูการโหวตร่างกฎหมายอเมริกันเฮลธ์แคร์ซึ่งถูกเลื่อนออกไป
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch