- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 20 March 2017 17:35
- Hits: 3548
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (20/03/60)
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่แล้ว 'ซึมลงช่วงต้น สดใสช่วงปลาย'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมาเปิดตลาดแกว่งตัวซึมลงต่อ หลังนักลงทุนรอความชัดเจนผลการประชุมเฟด Fed ซึ่งจะทราบผลเช้าวันที่ 16 มี.ค. อีกทั้งยังเผชิญแรงเก็งกำไรหุ้น GL ที่ผันผวนมากท่ามกลางความกังวลที่คลุมเครือ อย่างไรก็ดีภายหลังผลประชุมเฟดมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% พร้อมส่งสัญญาณคาดขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ บวกกับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ลดลงสวนทางที่ตลาดคาด ทำให้บรรยากาศโดยรวมกลับมาบวกสดใสอีกครั้ง นำโดย ICT(+3.0%WoW), ธพ.(+1.9%WoW), พลังงาน (+1.8%WoW) และหนุนช่วงปลายสัปดาห์ดัชนีกลับมาปิดบวก 1.4%WoW ที่ 1,560.98 จุดด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยตลอดทั้งสัปดาห์ราว 47,156 ล้านบาท รวมถึงสัญญาณการซื้อสุทธิต่างชาติเมื่อวันศุกร์เป็นวันแรกในรอบ 4 วัน อีก 1,567 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกนำโดย CAC-40 +0.32% DAX +0.10% และ FTSE 100 +0.12%
(+) ค่าระวางเรือ (BDI) เดินหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 24 จุด (+2.05%) มาอยู่ที่ 1,196 จุด เป็นปัจจัยบวกสำหรับกลุ่มเรือ PSL, TTA
(+) รัฐบาลเร่งผลักดัน EEC โดยตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาโครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐกับเอกชน (PPP Super fasttrack) อันจะช่วยให้การพิจารณาการลงทุนทำได้เร็วมากขึ้น
(+) ราคายางพารา (TOCOM) วานนี้ปิด +1% มาอยู่ที่ 287 Yen/Kg.
(+) ราคาถ่านหินบวกเล็กน้อย 0.2% มาอยู่ที่ 81.10 US/Tons
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA -19.93 จุด (-0.1%) หลังจากหมดแรงส่งจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดไปแล้ว แม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาดีกว่าคาดอย่างดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.อยู่ที่ 97.6 สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 97.0 จุด รวมถึงตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.พ.ที่เพิ่มขึ้น 0.5%
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI +0.1% มาอยู่ที่ 48.78 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ในกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกบางราย ได้ส่งสัญญาณที่จะขยายการปรับลดกำลังการผลิต
(+/-)วันนี้ติดตามการประชุมซุปเปอร์บอร์ดเกี่ยวกับข้อสรุปโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางว่าจะเดินหน้าต่อในรูปแบบใด
(+/-) PTT ประกาศปันผลงวด 2H59 จำนวน 10 บาท/หุ้น พร้อมเตรียมนำบริษัทย่อย (PTTOR) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
(+/-) BWG เพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General mandate) จำนวน 319.89 ล้านหุ้น
(+/-) วันนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดเนื่องในวันเริ่มฤดูใบไม้ผลิ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
การพรีวิวงบกลุ่มธนาคารในช่วงปลายเดือน
ความกังวลเกี่ยวกับตั๋ว B/E หลัง WCIH ผิดนัดชำระหนี้ 150 ล้านบาท
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ ได้แก่ USA ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 4/59 EU ดุลบัญชีเดินสะพัดยูโรโซนเดือน ม.ค. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค.
กลยุทธ์การลงทุน “ทยอยขายบ้าง”
ประเมินดัชนีวันนี้ตลาดยังคงเป็นอีกวันที่แกว่งตัวในกรอบแคบอีกวัน โดยแรงหนุนจากการซื้อของนักลงทุนต่างประเทศจะทำให้ตลาดเดินหน้าต่อได้ แต่ตลาดขาดปัจจัยบวกอื่นๆเข้ามา รวมถึงเช้านี้ตลาดต่างประเทศเริ่มมีการขายออกมาบ้างแล้ว เราจึงมองว่าหากตลาดยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นจึงเป็นจังหวะที่ดีในการทยอยขายหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา สำหรับกลุ่มที่น่าสนใจเราแนะนำเก็งกำไรกลุ่มที่คาดว่าจะรายงานผลประกอบการโดดเด่นอย่างเช่นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว หรือหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐฯเป็นต้น
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
AMATA เก็งกำไร
คาดได้รับผลดีจากเร่งผลักดันนโยบาย EEC ของภาครัฐฯ
ล่าสุดมีการเซ็น MOU กับสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานในการขับเคลื่อนและพัฒนาเมืองอัจฉริยะเพื่อก้าวสู่ Thailand 4.0
ตั้งเป้าขายที่ดินปี 60 จำนวน 1,000 ไร่ (ปี 59 ขายได้ 638 ไร่)
AAV เก็งกำไร
คาดช่วงไตรมาส 1Q60 ฟื้นตัวดี QoQ จากลูกค้าจีนกลับมาหลังจากได้รับผลกระทบทัวร์ 0 เหรียญ และปัจจัยในประเทศในช่วง 4Q59 ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง
Hedge ราคาน้ำมันไปราว 70% ลดความเสี่ยงจากตลาดน้ำมันขาขึ้น
ทีมวิเคราะห์