- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 15 March 2017 16:50
- Hits: 1849
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (15/03/60)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้'ผันผวนจากหุ้น G'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวผันผวนจากหุ้น GL ที่มีการแถลงการณ์ในช่วงเช้า ซึ่งนักลงทุนยังมีความกังวลอยู่ทำให้ราคาหุ้น GL เปิดที่ Floor ขณะที่ช่วงบ่ายหลังจากแถลงการณ์เสร็จนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรจนทำให้ราคาพุ่งขึ้นจนชน Ceiling ซึ่งทำให้ภาพของกลุ่มลิสซิ่งมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม และบรรยากาศการลงทุนในตลาดดูดีขึ้นหลังจากปรับตัวลงมาหลายวันติดต่อกัน โดยการปรับตัวขึ้นนำโดยกลุ่มอสังหา +0.8% และพลังงานรวมถึงสื่อสาร +0.7% ปิดตลาดที่ระดับ 1,543.15 จุด (0.5% Day) ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 49,875 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ค่าระวางเรือ (BDI) เดินหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีก 13 จุด (+1.2%) มาอยู่ที่ 1,112 จุด เป็นปัจจัยบวกสำหรับกลุ่มเรือ PSL, TTA
(+) รัฐเซ็น MOU กับอมตะ ในการพัฒนานิคมตามแผน EEC เป็นผลบวกต่อ AMATA
(+) รัฐเล็งลงทุนรถไฟเชื่อม ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตเภา เป็นผลบวกกับกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
(-) นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า 2,000 ล้านบาทหลังจากกลับมามียอดซื้อสุทธิเป็นครั้งแรก 239 ล้านบาทหลังขายสุทธิ 10 วันทำการติดต่อกัน
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI -1.4% มาอยู่ที่ 47.72 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีข่าวว่าสมาชิกโอเปกหลายรายยังไม่ได้ลดกำลงการผลิตตามที่สัญญาไว้
(-) สัญญาทองคำ COMEX เม.ย. ลดลง 0.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,202.60 ดอลลาร์/ออนซ์ จากกระแสเฟดขึ้นดอกเบี้ย
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA -44.11 จุด (-0.21%) จากแรงกดดันของหุ้นในกลุ่มสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากพายุหิมะที่เกิดขึ้น รวมถึงหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังมีรายงานว่าสมาชิกกลุ่มโอเปกหลายรายยังคงผลิตน้ำมันเกินโควตาที่กำหนด
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบทุกตลาด โดย CAC-40 -0.51% DAX -0.01% และ FTSE 100 -0.13%
(-) ราคาถ่านหินปรับลดลงเล็กน้อย -0.2% มาอยู่ที่ 80.90 US/Tons
(+/-) ครม.ผ่านร่างพรบ.ยุทธศาสตร์ชาติปฏิรูปประเทศ
(+/-) ราคายางพารา (TOCOM) วานนี้ปิดลดลง 0.6% มาอฟฟอยู่ที่ 284.7 Yen/Kg. ส่วนเช้านี้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 285.8 Yen/Kg
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
การพรีวิวงบกลุ่มธนาคารในช่วงปลายเดือน
ติดตามการแจ้งข่าวของ GL อย่างใกล้ชิดหลังล่าสุดออกมาปฏิเสธข่าวเรื่องการซื้อหุ้นคืน
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ ได้แก่ CPI เดือน ก.พ. ของสหรัฐ (15 มี.ค.), ยอดการนำเข้าและ Inventory น้ำมันของสหรัฐ (15 มี.ค.), ผลการประชุม Fed (16 มี.ค.), ตัวเลขการว่างงานของสหรัฐ (16 มี.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน “แกว่งตัวกรอบแคบ”
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มแกว่งตัวกรอบแคบ เรามองการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่ม Mid-Small เป็นแรงรีบาวด์หลังจากได้โมเมนตัมบวกของการฟื้นตัวของราคาหุ้น GL แนะนำเก็งกำไรสั้นอย่างระมัดระวัง โดยเก็งกำไรตัวที่มีปัจจัยบวกเฉพาะเด่น เช่น การส่งออกไก่ที่แข็งแรง,ราคายางมะตอยที่ทรงตัวระดับสูง และแนะนำเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่าจะรายงานผลประกอบการ 1Q60 เด่น และยังแนะนำลดน้ำหนักกลุ่มพลังงานจากที่คาดว่าจะมีแรงขายกดดันหลังจากราคาน้ำมันซบเซา
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
KSL เก็งกำไร
คาดผลประกอบการไตรมาส 1 ฟื้นตัวรับรู้ราคาน้ำตาลที่อยู่ในระดับสูง
ราคาหุ้นลงมากว่า 23% ตั้งแต่ต้นเดือน มากกว่าราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่ลงเพียง 6%
ประเมินราคาเป้าหมายปี 60 ที่ 6.75 บาท (อิง PER20X)
AAV เก็งกำไร
คาดช่วงไตรมาส 1Q60 ฟื้นตัวดี QoQ จากลูกค้าจีนกลับมาหลังจากได้รับผลกระทบทัวร์ 0 เหรียญ และปัจจัยในประเทศในช่วง 4Q59
ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง
Hedge ราคาน้ำมันไปราว 70% ลดความเสี่ยงจากตลาดน้ำมันขาขึ้น
ทีมวิเคราะห์