WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CSGบล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

แนวโน้มตลาดวันนี้ (14/03/60)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้'Sentiment ลบ ยังกดดันตลาด'
 ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้เปิดตลาดช่วงเช้าแกว่งตัวซึมลงต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว หลังนักลงทุนรอความชัดเจนผลการประชุม Fed (รู้ผลเช้า 16 มี.ค.) โดยแม้ตลาดให้โอกาสการขึ้นดอกเบี้ยสูงถึง 100% แล้วก็ตาม รวมถึงมีแรงกดดันจากค่าเงินดอลลารสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลง นอกจากนี้ Sentiment ตลาดโดยรวมยังถูกกดดันจากแรงขาย GL ที่มีต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีช่วงท้ายตลาดเริ่มเห็นแรงซื้อกลับในหุ้นกลุ่มพลังงาน นำโดย PTT และ PTTEP หลังระหว่างวันดัชนีลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,528.78 จุด ก่อนขึ้นมาปิดตลาดที่ระดับ 1,535.51 จุด (-0.29%DoD) ด้วย Vol. 35,931 ล้านบาท

 

ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
  (+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกทุกตลาด โดย CAC-40 +0.13% DAX +0.22% และ FTSE 100 +0.33%
  (+) ราคาถ่านหินปรับเพิ่มขึ้น 3% มาอยู่ที่ 81.10 US/Tons
  (+) ค่าระวางเรือ (BDI) เดินหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีก 13 จุด (+1.2%) มาอยู่ที่ 1,099 จุด เป็นปัจจัยบวกสำหรับกลุ่มเรือ PSL, TTA
  (+) นักลงทุนต่างประเทศกลับมามียอดซื้อสุทธิเป็นครั้งแรก 239 ล้านบาทหลังขายสุทธิ 10 วันทำการติดต่อกัน
  (+) ยอดจดทะเบียนธุรกิจเดือน ก.พ. 60 มีจำนวน 5,751 รายเพิ่มขึ้น 3%YoY
  (-) ราคาน้ำมันดิบ WTI -0.2% มาอยู่ที่ 48.40 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยเป็นการติดลบเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน ซึ่งแรงกดดันยังคงมาจากจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 8 แท่น สู่ระดับ 617 แท่น
  (-) สัญญาทองคำ COMEX เม.ย. ลดลง 1.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,203.10 ดอลลาร์/ออนซ์ จากความตึงเครียดการเมืองระหว่างตุรกีและเนเธอร์แลนด์
  (-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA -21.50 จุด (-0.10%) โดยนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลการประชุมเฟดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่
  (-) การเมืองในสหภาพยุโรปส่อเค้ารุนแรงหลังจากตุรกีกล่าวหาเยอรมันและเนเธอร์แลนด์ว่าเป็นผู้นิยมนาซี หลังทั้งสองประเทศขัดขวางการจัดชุมนุมทางการเมืองของตุรกีในทั้งสองประเทศเมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา
  (-) ตัวเลขโฆษณาเดือนก.พ. 60 ติดลบ 6.95%YoY โดยสื่อทางนิตยสารลดลงมากที่สุดถึง 39%YoY ส่วนสื่อในห้างและโรงหนังเพิ่มขึ้นโดดเด่น 40%YoY และ 26%YoY ตามลำดับ
  (+/-) ราคายางพารา (TOCOM) วานนี้ปิดทรงตัวจากวันก่อนที่ 286.5 Yen/Kg. ส่วนเช้านี้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 287 Yen/Kg
  (+/-) สภาขุนนางอังกฤษผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แล้ว ทำให้นายกรัฐมนตรีอังกฤษสามารถเดินหน้าใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรปเพื่อเริ่มกระบวนการ Brexit

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
  หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
  การพรีวิวงบกลุ่มธนาคารในช่วงปลายเดือน
  ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ ได้แก่ CPI เดือน ก.พ. ของสหรัฐ (15 มี.ค.), ยอดการนำเข้าและ Inventory น้ำมันของสหรัฐ (15 มี.ค.), ผลการประชุม Fed (16 มี.ค.), ตัวเลขการว่างงานของสหรัฐ (16 มี.ค.)

 

กลยุทธ์การลงทุน'ซึมๆ'
  ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวลดลง เรายังมองปัจจัยบวกที่จะกระตุ้นหุ้น Big Cap ยังจำกัด โดยตลาดถูกแรงขายในหุ้นขนาดเล็กฉุดกดดัน ขณะที่ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มบวกจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY ปริมาณน้ำในเขื่อนที่ดีขึ้นจากช่วงเดียวกันในรอบปีก่อน เราจึงแนะนำขายทำกำไรหุ้น Big Cap ที่แข็งกว่าตลาด เช่นกลุ่มพลังงาน โดยมองกลุ่ม Domestic Play มีความน่าสนใจมากกว่าจากภาคเกษตรที่ฟื้นตัวสำหรับการลงทุนในช่วงต้นปี 60

 

หุ้นเด่นประเด็นร้อน
CPALLเก็งกำไร
  เข้าฤดูร้อนช่วง High Season ของสินค้าเครื่องดื่ม
  คาดขยายสาขาครบ 1 หมื่นสาขาภายในกลางปีนี้ เร็วกว่าเป้า

  CGS ประเมินราคาเป้าหมายปี 60 ที่ 74.50 บาท

 

TASCO เก็งกำไร
  ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง ขณะที่ราคายางมะตอยทรงตัวในระดับสูง
  ปี 60 งบประมาณการลงทุนในถนนของกรมทางหลวง เพิ่มขึ้น 12%YoY โดยคิดเป็นระยะทางของถนนลาดยางมะตอย เพิ่มขึ้น 2.9% YoY
  ราคาพื้นฐานปี 60 สูงสุดตาม Bloomberg Consensus ที่ 35 บาท

ทีมวิเคราะห์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!