- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 14 March 2017 18:05
- Hits: 1668
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: เคลื่อนไหวในกรอบ 1530-1540
SET lndex: 1536.56 ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1540 จุด หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1530 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทาให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นยังมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไร โดยมีแนวต้านที่ 1540 จุด และมีแนวรับในระยะสั้นที่ 1530 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1505 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน
แนวต้าน : 1536 และ 1540
แนวรับ : 1534 และ 1530
GL = 18.00 / 20.00, PTT = 390 / 395, SCC = 520 / 528, KBANK = 188 / 190, BANPU = 19.00 / 19.50
Star Petroleum Refining (SPRC TB; THB 13.10) -ซื้อ
แนวต้าน : 13.70 และ 14.40
แนวรับ : 13.10 และ 13.00
ราคาหุ้นเคลื่อนไหวออกด้านข้างต่อเนื่อง แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ในขณะที่โครงสร้างการเคลื่อนไหวยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่บริเวณ 13.70
MACD เคลื่อนไหวออกด้านข้างในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้น เคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI เคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ SPRC โดยมีแนวรับที่ 13.10 และ 13.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 13.70 และ 14.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 12.80 ลงไป
Supalai (SPALI TB; THB 24.90) -ซื้อ
แนวต้าน : 26.00 และ 27.00
แนวรับ : 24.80 และ 24.60
ราคาหุ้นเคลื่อนไหวออกด้านข้างหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ แต่มีแรงขายทำกำไรออกมาในระยะสั้น ในขณะที่โครงสร้างการเคลื่อนไหวยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยมีแนวรับสำคัญที่ 24.40
MACD เคลื่อนไหวออกด้านข้างที่ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ SPALI โดยมีแนวรับที่ 24.80 และ 24.60 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 26.00 และ 27.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 24.40 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ดิ่งลงจากการขายทำกำไร
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกือบทุกชนิด ปรับตัวขึ้นหลังการเลือกตั้งสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย. จากแรงหนุนที่มองกันว่านโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐจะเอื้ออำนวยต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐและโลก ซึ่งสุดท้ายจะส่งผลให้เกิดการใช้และการบริโภคสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างไรก็ตามหลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ดีดตัวขึ้นรับข่าว ทั้งๆ ที่ยังไม่เห็นนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐ ก็เริ่มเกิดแรงขายสินค้าโภคภัณฑ์ เกือบทุกชนิดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะ ราคาน้ำมันดิบที่ดิ่งลงไปเกือบ 9%
รูปด้านซ้าย เราแสดงการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ชนิดต่างๆ หลังการเลือกตั้งสหรัฐ พบว่าทั้งราคาน้ำมันดิบ ราคาสินค้าโภคัณฑ์ CRB โลหะพื้นฐาน สินค้าเกษตร ต่างปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่โลหะมีค่า กลับดิ่งลง การปรับตัวลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกือบทุกชนิดในตอนนี้ ยังมองกันว่าเป็นเรื่องของการขายทำกำไรช่วงสั้น เพราะตลาดยังมองแนวโน้มของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในปีนี้ อยู่ในเชิงบวก สำหรับประเด็นในเชิงพื้นฐานที่หนุนให้เกิดแรงขายสินค้าโภคภัณฑ์ในตอนนี้ คือ การลดประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ของจีนเหลือ 6.5% การเพิ่มขึ้นของปริมาณสต๊อกทั้งทองแดง สินแร่เหล็ก เหล็ก และความกังวลเรื่องปริมาณความต้องการใช้ในเอเชีย โดยรูปด้านขวา เราแสดงราคาและปริมาณสต๊อกของทองแดง พบว่าสต๊อกกลับเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาเริ่มดิ่งลง ภาพตรงนี้น่าจะส่งผลดีช่วงสั้นกับผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ที่ใช้ทองแดงเป็นวัตถุดิบ
การค่อยๆ ดิ่งลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ส่วนหนึ่งน่าจะส่งผลดี กับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศผู้ใช้หรือนำเข้า แต่จะส่งผลด้านลบกับประเทศผู้ผลิต ในไทยเอง กลุ่มชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และรับเหมา น่าจะได้ประโยชน์ (หากลงต่อเนื่องและมากกว่านี้) แต่ตลาดคาดกันว่าจะลงชั่วคราว ดังนั้นกลุ่มเหล่านี้อาจจะได้ประโยชน์ในช่วงสั้นๆ กลุ่มที่โยงกับสินค้าโภคภัณฑ์ในไทย ก็มีเฉพาะผู้ผลิตน้ำมัน ปิโตรเคมี น้ำมันปาลม์และยางพารา นอกนั้นไม่ค่อยชัดเจน เรามองว่าหากราคาน้ำมันในช่วงสั้นนี้ไม่สามารถดีดตัวขึ้นได้ ทิศทางน้ำมันจะยังอ่อนตัวลงไปอีก โดยข้อมูลล่าสุด คือสิ้นสุดวันที่ 7 มี.ค.พวก Hedge fund ยังลด Position การ Net long น้ำมันลงไปอีก
ทิศทางดัชนี SET ท่ามกลางการไร้ปัจจัยหนุน คาดยังคงเป็นในแบบ ซึมตัว และปริมาณการซื้อขายที่ลดลง จนกว่าจะเห็นการตอบสนองต่อการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐหลังวันที่ 15 มี.ค.หรือทิศทางราคาน้ำมัน ซึ่งมีแนวโน้มว่า หากราคาน้ำมันเกิดปรับตัวลงอีก แรงขายหุ้นพลังงานของไทย น่าจะออกมาไม่มากก็น้อย นอกจากนั้นปัจจัยกดดันภายในที่เกิดขึ้นใหม่ คือ เรื่องธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียน เหล่านี้น่าจะกดดันให้ดัชนี SET ลงได้มากกว่าที่เป็นอยู่ วันนี้มองดัชนี SET อาจมีการดีดตัวกลับขึ้นได้บ้าง หลังลงติดต่อกันหลายวัน แต่การรีบาวน์จะยังไปไม่ได้ไกล จึงมองยังคงจะแกว่งในกรอบแคบ โดยมีแนวต้านที่ 1540-1545 จุด แนวรับที่ 1528-1524 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร CBG GFPT PCSGH และ WORK
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,536.56 จุด เพิ่มขึ้น 1.05 จุด (+0.07%) มูลค่าการซื้อขาย 25,515.84 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,539.26 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,531.73 จุด
Afternoon Perspective…
ภาวะตลาดฯช่วงบ่าย แนวโน้มบ่าย แกว่งบวก ตลาดน่าจะรีบาวน์สั้น ก่อนการประชุมเฟด หลังตลาดซึมซับปัจจัยเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปก่อนแล้ว อย่างไรก็ตาม การรีบาวน์อาจจะไม่มากเนื่องจากตลาดยังไม่มั่นใจว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะขึ้นต่อเนื่องหรือไม่ หากต่อเนื่องตลาดก็จะรีบาวน์ได้จำกัด มองแนวต้าน 1550 จุด แนวรับ 1530 จุด แนะนำเก็งกำไร KBANK CK BANpU มองว่าเป็นหุ้นใหญ่ที่มักจะฟื้นตัวแรงในจังหวะที่ตลาดรีบาวน์กลับ
Technical Pick (PM) ...
Star petroleum Refining (SPRC TB; THB 13.10) - ซื้อ
Supalai (SPALI TB; THB 24.90) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]