- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 13 March 2017 16:48
- Hits: 1733
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ทรงตัว/ปรับลงกรอบจำกัด
KGI คาด SET วันจันทร์ไซด์เวย์อิงทางลงเล็กน้อย หุ้นน้ำมันยังถ่วงดัชนี + ฟันด์โฟลว์ยังอยู่ฝั่งขาย (ศุกร์ที่แล้วดัชนีฯ ลบ 0.6% ลงแรงกว่าที่เราประเมินไว้) ราคาน้ำมัน WTi ลงต่อ 2.5% สู่ระดับต่ำสุดของปี 2560 หลังตลาดยังย่อยตัวเลขสำรองและตัวเลขผลิตน้ำมันสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้านตัวเลขจ้างงานเดือน ก.พ. 2560 ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง 2.35 แสนคน (ตลาดคาด 1.88 แสนคน) และตัวเลข ม.ค. ถูกปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 1.1 หมื่นคน เป็นเครื่องชี้ล่าสุดว่าเฟดน่าจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมคืนวันที่ 15 มี.ค. นี้ เวลาบ้านเรา ทั้งนี้เรามองว่าตลาดการเงินโลกรับรู้การขึ้นดอกเบี้ยเฟดไปเกือบหมดแล้ว สะท้อนจากเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงแล้ว สำหรับเดือน มี.ค. และการที่ดัชนีเงินดอลล่าร์ฯ และบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ร่วงแรงหลังตัวเลขภาคแรงงานประกาศออกมา เราคงมุมมองดัชนีฯ มีความเสี่ยงจำกัดแล้ว และหากอิง PE band เฉลี่ย 5 ปี พบว่าดัชนีฯ ที่ต่ำกว่า 1,530 น่าสนใจเข้าสะสมหุ้น และเราคงมุมมองว่าภาพตลาดจะดีขึ้นหลังผลประชุมเฟดออกมา
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เน้นตั้งรับ GLOW*, BBL*
GLOW* (เป้าพื้นฐาน 88 บาท) 1) 2Q60 เป็นช่วง High season ของการใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย คาดผลการดำเนินงานเป็นจุดพีคของปี 2) ปันผล 4.292 บาท/หุ้น (Dividend yield 5.4%) ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 2 พ.ค.นี้ (ขณะที่ EGCO* และ GLOW* ขึ้นเครื่องหมาย XD ไปแล้ว) 3) ประเมินแนวรับ 78.5 บาท และ 78.0 บาท / แนวต้าน 80.5 บาท และ 82 บาท (Stop loss 76.5 บาท)
BBL* (เป้าพื้นฐาน 189 บาท) 1) แนะนำให้พิจารณาที่แนวราคา 183 บาท หากผ่านได้ แนะนำ “Follow buy” ประเมินแนวต้านถัดไปที่ ±190 บาท แต่ในกรณีที่ไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ แนะนำ “ซื้อแนวรับ” 180 บาท และ 177.5 บาท (Stop loss 175 บาท) 2) เราประเมิน Valuation ยังน่าสนใจด้วย PBV 0.92 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 1.1 เท่า ขณะที่รอ Catalyst เรื่องการปลดล๊อกสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างด้าว (Foreign Limit) จากปัจจุบัน 25% (เทียบกับแบงก์ใหญ่รายอื่นอาทิ SCB* และ KBANK* Foreign Limit ปัจจุบันอยู่ที่ 45.81% และ 48.98% ตามลำดับ)
หุ้นในกระแส
ค่าเงินบาทอ่อน + น้ำมันปรับลง เราประเมินเป็น Sentiment บวกมาที่หุ้น EPG* (ต้นทุนเม็ดพลาสติกต่ำต่อเนื่อง) และหุ้นกลุ่มส่งออก เช่น ASIAN (ค่าเงินบาทอ่อนเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ) แนะนำ “เก็งกำไร”
เน้นตั้งรับหุ้นหลักในแต่ละกลุ่ม ที่ราคาหุ้นปรับลง ขณะที่แนวโน้มกำไรปีนี้โตดี
1) กลุ่มค้าปลีก แนะนำ “สะสม” i) CPALL* (แนวรับ 57 บาท), COM7* (แนวรับ 10.5 บาท ประเมินราคาหุ้น Oversold ขณะที่พื้นฐานไม่เปลี่ยน อย่างไรก็ดีสำหรับนักเก็งกำไรที่สะสมตามที่เราแนะนำไปวานนี้หากวันนี้ราคาปิดต่ำกว่า 10.5 บาท แนะนำ Stop loss)
2) กลุ่มโรงไฟฟ้า แนะนำ “สะสม” i) TPCH (แนวรับ 18.4 บาท)
3) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ แนะนำ “สะสม” i) SMT (แนวรับ 6.5 บาท)
4) กลุ่มสินค้าเกษตร แนะนำ “สะสม” i) KSL (แนวรับ 5 บาท)
5) กลุ่มพลังงาน แนะนำ “สะสม” i) BANPU* (19.0 บาท)
หุ้นกลุ่มงานรับเหมา Oil&Gas (SRICHA, BJCHI, STPI*) เราประเมินราคาหุ้นในกลุ่มฯ Underperform ตลาดฯในช่วงที่ผ่านมาเพราะงานรับเหมาด้าน Oil&Gas ที่ชะลอ (ผลจากราคาน้ำมันตกต่ำในปีก่อน) แต่เราคาดว่างานประมูลจะเริ่มฟื้นตัวในปีนี้ โดยเริ่มจากงานในประเทศอย่างการสร้างโรงกลั่นใหม่ของ TOP* มูลค่ารวมราว 3 – 4 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดเผย FEED (Front-End Engineering Design: หรือการออกแบบทางวิศวกรรม) และเริ่มเปิดประมูลใน 2Q60 (คาดเดือน เม.ย.-พ.ค.) แนะนำ “เก็งกำไร” SRICHA ที่คาดจะเป็นตัวเก็งการประมูลครั้งนี้ (เนื่องจากเคยรับงานของ TOP*) โดยกำหนด Stop loss 19 บาท สำหรับการเก็งกำไร SRICHA
หุ้นมีข่าว
(0) SAWAD* ตามนัด ทำเทนเดอร์ BFIT หุ้นละ 11.42 บาท (ข่าวหุ้น) SAWAD ดีเดย์เทนเดอร์ออฟเฟอร์หุ้น BFIT ราคาหุ้นละ 11.42 บาท วันที่ 15 มีนาคมนี้ หลังจากเข้าซื้อหุ้นกว่า 26.51% เชื่อรับปัจจัยหนุนจากการเข้าซื้อหุ้น BFIT ช่วยเพิ่มทางเลือกในการจัดหาแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำ
(-) PTT*-BCP* โดนอ่วม ค่าเช่าที่ราชพัสดุพุ่ง 8 เท่า (ข่าวหุ้น) PTT-BCP โดนค่าเช่าที่ราชพัสดุใหม่พุ่ง 8 เท่า บางจากอาจต้องจ่ายเพิ่มปีละ 400-500 ล้านบาท จากเดิมไม่ถึง 100 ล้าน ส่วน ปตท.ต้องจ่าย 2.5-4.0 พันล้านบาท จากเดิม 500 ล้านบาท คาดบางจากยอมปิดปั๊มน้ำมัน ด้าน AOT นัดคุยอีกครั้งสัปดาห์หน้า สรุปค่าเช่าสุวรรณภูมิ
(+) GUNKUL* จ่อบุ๊คลม 60MW รายได้ปีนี้พุ่ง 4.3 พันล้าน (ข่าวหุ้น) “GUNKUL” เผยรายได้ปี 60 พุ่ง 4,300 ล้านบาท หลังเตรียมรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานลมเพิ่มอีก 60 MW จ่อ COD ช่วงธ.ค.นี้ ส่วนปี 63 ตั้งเป้า PPA แตะ 1,000 MW เล็งเข้ารับงานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าในลาว มูลค่า 3 พันล้านบาท
(+) BAFS มั่นใจรายได้ปี60โต5% ยอดเติมน้ำมันพุ่ง6พันล้านลิตร (ข่าวหุ้น) BAFS ลั่นงบปี 60 รายได้โต 5% ปริมาณเติมน้ำมันเชิงเพลิงอากาศยานพุ่ง 6,000 ล้านลิตร รับผลบวกภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลาดท่องเที่ยวไทยคึกคักหนุน
(+) PLANB* ตั้งเป้าลุยเทกกิจการ หวังเพิ่มยอดขายต่างชาติ20% (ทันหุ้น) PLANB ซุ่มเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการใน AEC 2-3 แห่ง หลังที่ผ่านมาบุกตลาดประเทศอินโดนีเซียแล้ว ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศแตะ 20% ในปี 2563 และตั้งเป้ารายได้แตะ 5 พันล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่ารายได้เติบโต 20% พร้อมวางงบลงทุนไว้ที่ 400-500 ล้านบาท เพื่อขยายพื้นที่ป้ายสื่อดิจิทัลนอกบ้าน
(+) FN จ่อเปิดสาขาที่ 9 โกยเงินช่วงไฮซีซัน หนุนผลงานเติบโต (ทันหุ้น) FN จ่อเปิดสาขาที่ 9 "หาดใหญ่" ช่วงเมษายนนี้ หวังรับไฮซีซันช่วงซัมเมอร์ ปูทางโกยเงินเพิ่ม บอสใหญ่ "เบญจ์เยี่ยม ส่งวัฒนา" ชี้สาขาใหม่เน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติหลังพบดีมานด์ในโซนดังกล่าวขยายตัวค่อนข้างมาก เพื่อหนุนผลงานเติบโตต่อเนื่อง
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
PTTGC* (เป้าพื้นฐาน 76 บาท) แนะนำพิจารณาที่แนวราคา 74 บาท หากผ่านแนวต้านดังกล่าวไปได้ แนะนำ “Follow buy” ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 76.5 บาท แต่ในกรณีที่ไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ แนะนำ “ซื้อแนวรับ” 71.5 บาท (Stop loss 71 บาท) ... Spread ปิโตรเคมีที่ยืนสูง + การ IPO บ.ลูก (ทำธุรกิจไบโอดีเซล) + การซื้อธุรกิจกลุ่มปิโตรเคมี จาก PTT* คาดจะแล้วเสร็จภายในปีนี้
ASIAN (ยังไม่มีเป้าหมาย Consensus) หากวันนี้ไม่สามารถกลับยืนเหนือแนวราคา 5 บาทได้แนะนำ “Stop loss” … ค่าเงินบาทอ่อนค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ + Valuation ไม่แพงด้วย Trailing PE 11.65 เท่า และยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 6.1 บาท (ตอนนี้ PBV 0.81 เท่า) และจ่ายปันผล 0.21 บาท/หุ้น Yield 4.2% (XD วันที่ 25 เม.ย.)
CPN* (เป้าพื้นฐาน 77 บาท) แนะนำพิจารณาที่แนวราคา 56.5 บาท หากยืนได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 58.25 บาท และ 59.25 บาท / แนวรับ 55.5 บาท (Stop loss 53.75 บาท)
COM7* (เป้า Consensus 14.6 บาท) หากวันนี้ดีดขึ้นพ้นแนวราคา 11 บาท แนะนำ “ถือ/ซื้อถัวเฉลี่ย” แต่หากวันนี้ยังมีแรงขาย แนะนำ รอสะสม แนวรับ 10.5 บาท ... คาดแนวโน้มกำไรจะโตแบบ YoY ต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ไตรมาสติด + Valuation ถูกสุดในกลุ่มค้าปลีกด้วย PEG ±1 เท่า ขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีก PEG >2 เท่า
TASCO* (เป้าพื้นฐาน 32.5 บาท) ยืนเหนือแนวราคา 26 บาทได้ แนะนำ “เก็งกำไร” โดยประเมินแนวต้านแรก 27 บาท และถัดไปที่ 30 บาท เป็นจุดขายทำกำไร แต่หากต่ำกว่า 26 บาท แนะนำ “ขายล๊อกกำไร”
SITHAI (เป้าพื้นฐาน 2.74 บาท) แนะนำ “ถือ” โดยกำหนดจุด Stop loss หากปิดต่ำกว่า 1.96 บาท ... ประเมินผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุดในปีก่อน Earnings momentum เริ่มเข้าสู่ขาขึ้นแบบ QoQ อย่างน้อย 2 ไตรมาสติด
ROBINS* (เป้าพื้นฐาน 75 บาท) แนะนำ “ถือ” โดยกำหนดจุด Stop loss หากปิดต่ำกว่า 58 บาท
KTB* (เป้าพื้นฐาน 21.4 บาท) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งขึ้นในกรอบแนวรับ – แนวต้าน 19.5 – 20.4 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบแนวรับ – แนวต้าน (ขายล๊อกกำไรหากต่ำกว่า 19.5 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
KKP* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 77 บาท ถึงแม้สินเชื่อจะยังดูไม่สดใส แต่เชื่อว่ากำไรของ KKP จะเร่งตัวขึ้นจาก 3 ปัจจัยสำคัญได้แก่ 1) รายได้ค่าธรรมเนียมจากการให้คำปรึกษาของธุรกิจ IB 2) กำไรจากการลงทุนจากธุรกิจการลงทุนโดยตรงของบริษัท และ 3) NPL ที่ลดลง และสัดส่วนสินเชื่อที่สูง ซึ่งจะช่วยให้ credit cost ลดลงได้
EASTW แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 14.2 บาท (Initiate coverage) ประเด็นการลงทุน 1) คาดแนวโน้มธุรกิจน้ำยังเติบโตหลังพ้นภัยแล้ง 2) ได้รับอานิสงส์จากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก 3) โอกาสการเติบโตจากธุรกิจน้ำประปา
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้ --- นัยต้าน 1544 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1544 จุดได้นั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1544-1556 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1544 จุดนั้น อาจคงแรงกดลงในกรอบ 1544-1525 จุด
แนวรับวันนี้: 1535/1525 แนวต้านวันนี้: 1544/1552
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]