- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 09 March 2017 17:15
- Hits: 2233
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (9/03/60)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้'ลงแรง ขึ้นแรง'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้เปิดตลาดดัชนีแกว่งตัวลงจากแรงขายที่ยังมีต่อเนื่อง หลังตลาดคาดเฟดมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยรอบการประชุมนี้ (14-15 มี.ค. 60) โดยช่วงเช้าดัชนีปรับฐานลงราว 15 จุด และทดสอบจุดต่ำสุดที่ 1,534.85 จุด ก่อนมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนาแน่นในช่วงบ่าย นำโดยกลุ่มพลังงานและกลุ่ม ธพ. ที่ปรับขึ้น 0.6%DoD และ 0.3%DoD ตามลำดับ หนุนดัชนีกลับมาปิดบวก 1.86 จุด (+0.12%DoD) ที่ 1,551.73 จุด ด้วย Vol. 36,607 ล้านบาท อย่างไรก็ดีทิศทาง Fund Flow ต่างชาติคาดยังไหลออก สะท้อนจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ยังขายสุทธิต่อเป็นวันที่ 8 อีก 843 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+)การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 298,000 ตำแหน่ง และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง
(+) การบินไทยจับมือแอร์บัสศึกษาพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานที่อู่ตะเภา
(+) ค่าระวางเรือ (BDI) เพิ่มขึ้น 12 จุด มาอยู่ที่ 1,045 จุด (+1%) เป็นปัจจัยบวกสำหรับกลุ่มเรือ PSL, TTA
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA -69.03 จุด (-0.33%) จากแรงกดดันของราคาน้ำมันดิบ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีทำให้ความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น โดยล่าสุดนักลงทุนคาดว่ามีโอกาสถึง 91% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI -5% มาอยู่ที่ 50.28 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์เพิ่มขึ้น 8.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มเพียง 2 ล้านบาร์เรล
(-) สัญญาทองคำตลาด COMEX เดือนเม.ย. ลดลง 6.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,209.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี
(-) ราคายางพารา (TOCOM) วานนี้ลดลง 5% Day มาอยุ่ที่ 288.5 Yen/Kg. และเช้านี้ราคาปรับลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 286 Yen/Kg
(-) ราคาถ่านหินปรับลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 ติดต่อกันอีก 0.75% มาอยู่ที่ 78.65 US/Tons เป็นลบต่อ BANPU
(-) นักลงทุนต่างประเทศยังคงมียอดขายสุทธิต่อเนื่องอีก 843 ล้านบาท
(+/-) ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปิดปรับตัวมีทั้งบวกและลบ CAC-40 +0.11% DAX +0.01% ส่วน FTSE 100 -0.06%
(+/-) เตรียมปรับปรุงพรบ.ควบคุมยางให้ทันสมัยมากขึ้น
(+/-) รฟม.เตรียมเซ็นสัญญากับ BEM ในเดือน มี.ค. และ BSR สายสีเหลือง-ชมพูในเดือน เม.ย.
(+/-)การประชุม ECB วันนี้คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0% แต่อาจเริ่มพิจารณาวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
การพรีวิวงบกลุ่มธนาคารในช่วงปลายเดือน
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯประจำเดือนก.พ (10 มี.ค.), ไทย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ. (9 มี.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน “น้ำมันกดดัน”
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวลดลง เรามองว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงวานนี้จากการรายงานตัวเลขสต็อคน้ำมัน จะกดดันให้ตลาดมีแรงขายกดดันในหุ้นใหญ่ที่ประคองดัชนีวานนี เรามองว่าแรงขายในรอบของวันนี้จะน่ากังวลกว่าการปรับตัวลงของตลาดวานนี้ จากที่วานนี้หุ้น Big Cap หลายตัวปรับตัวบวกประคองดัชนี แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะและหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง เช่น กลุ่มสายการบิน สำหรับหุ้นที่แนะนำลดน้ำหนักได้แก่ กลุ่มพลังงาน และ ธนาคาร ที่คาดว่าจะนำตลาดลงวันนี้
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
TASCO เก็งกำไร
ราคา Asphalt ในประเทศจีนยังปรับตัวบวกได้ต่อ +1.18% มาที่ 2,854.94 หยวนต่อตัน
ปี 60 งบประมาณการลงทุนในถนนของกรมทางหลวง เพิ่มขึ้น 12%YoY โดยคิดเป็นระยะทางของถนนลาดยางมะตอย เพิ่มขึ้น 2.9% YoY
ราคาพื้นฐานปี 60 สูงสุดตาม Bloomberg Consensus ที่ 35 บาท
AAV เก็งกำไร
ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบ จากที่ต้นทุนราว 28% มาจากน้ำมัน
รอรับผลดีจากการเข้ามาของ King Power ในปี 60
CGS ประเมินราคาเหมาะสม 7.60 บาท อิง P/E ที่ 15 เท่า
ทีมวิเคราะห์